ล้มยักษ์ !! ญี่ปุ่น สู้สุดใจ พลิกแซงชนะ เยอรมัน ท้ายเกม 2-1 

นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง เยอรมัน  กับ ญี่ปุ่น ที่สนาม คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม ในศึก ฟุตบอลโลก2022 (ทีมชาติ) เมื่อวันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เยอรมัน จะมาเล่นด้วยระบบ 4-2-3-1 ที่คุ้นเคย นำโดยขาประจำทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น มานูเอล นอยเออร์,ดาวิด เราม์,โยชัว คิมมิช,จามาล มูเซียล่า และ แซร์จ กนาบรี้ 

ขณะที่ ญี่ปุ่น จะมาสู้ด้วยระบบ 4-2-3-1 เช่นเดียวกัน นำโดยเสาหลักของทีมอย่าง ชูอิจิ กอนดะ,ยูโตะ นากาโตโมะ,วาตารุ เอนโดะ,ไดจิ คามาดะ และ ไดเซน มาเอดะ เป็นต้น 

นาทีที่ 8

เริ่มเกมได้แปปเดียว เยอรมัน งานเกือบเข้า เพราะ ญี่ปุ่น เป็นฝ่ายส่งบอลซุกก้นตาข่ายได้ก่อน แต่โชคไม่ดีที่พวกเขาไม่ได้ประตู เนื่องจาก มาเอดะ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า

นาทีที่ 33 เยอรมัน ขึ้นนำ 1-0 

แต่พอ เยอรมัน เริ่มตั้งเกมได้ พวกเขาก็บุกกดดัน ญี่ปุ่น อย่างหนัก และมาได้ประตูขึ้นนำสมใจ จากจังหวะที่ เดวิด รอม โดน กอนดะ ผู้รักษาประตูของญี่ปุ่น วิ่งมากระแทกจากด้านหลัง ล้มลงในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่รอช้า วิ่งมาชี้ให้ เยอรมัน ได้จุดโทษทันที และก็เป็น กุนโดกาน ที่สังหารลูกนี้ไม่มีพลาดเป้า

นาทีที่ 45

ช่วงท้ายเกม เยอรมัน เกือบขยับสกอร์หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ มูเซียล่า โชว์พลิกบอลท่าสวย หนีตัวประกบ ก่อนจะก้มหน้าซัดด้วยขวาทันที ส่งบอลพุ่งแรง เหินข้ามคานออกหลังไม่ได้ลุ้น 

หมดครึ่งเวลาแรก

เยอรมัน – 1

ญี่ปุ่น – 0

นาทีที่ 47 

เยอรมัน กลับมาเล่นครึ่งหลังได้แค่ 2 นาที พวกเขาก็เกือบทำประตูได้อีกแล้ว จากจังหวะที่ มุลเลอร์  เลี้ยงบอลตะลุยขึ้นไปหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะไหลให้ กนาบรี้ ปั่นด้วยขวาเน้นๆ ส่งบอลชนเสาเหลี่ยมนอก กระเด้งออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย 

นาทีที่ 75  ญี่ปุ่น ตีเสมอ 1-1

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีท้าย ญี่ปุ่น ที่เริ่มครองบอลได้เยอะขึ้น ก็เร่งเครื่องตามตีเสมอได้ตามคาด เริ่มจาก มิโตมะ เลี้ยงบอลหลุดไปทางซ้าย ก่อนจะลากตัดเข้าใน แล้วจ่ายตามช่องให้ มินามิโนะ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ เปิดหักเข้ากลาง ติดเซฟ นอยเออร์ แต่บอลไม่ไปไหน โดอัน ที่ยืนถูกที่ถูกเวลา ก็เลยได้โอกาสซัดเหน่งๆ ระยะเผาขน ไม่มีพลาด  

นาทีที่ 83 ญี่ปุ่น แซงนำ 2-1 !!!

ก่อนหมดเวลาไม่กี่นาที ญี่ปุ่น ที่กำลังมั่นใจ ก็บดหนักจนมาได้ประตูแซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ อิตากุระ เปิดฟรีคิกจากแดนตัวเอง หลุดไปถึง อาซาโนะ แตะบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา เบียดกับ ชล๊อตเตอร์เบ็ค ก่อนจะตัดสินใจยิงยัดเสาสองตามสัญชาตญาณ ส่งบอลแสกหน้า นอยเออร์ เสียบใต้คานเป็นประตูอย่างสวย 

หมดเวลาการแข่งขันเป็น ญี่ปุ่น ที่เล่นได้ละเอียดกว่า ส่งผลให้พวกเขาเอาชนะอดีตแชมป์โลก อย่าง เยอรมัน ไปได้ด้วยสกอร์รวม 2-1