เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพนกขมิ้นเหลืองอ่อน นอริช ซิตี้ เปิดสนาม แคร์โรว์ โร้ด ต้อนรับการมาเยือนของทัพจิ้งจอกสีน้ำเงิน เลสเตอร์ ซิตี้ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น นอริช ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ดาเนี่ยล ฟาร์เค่ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย บิลลี่ กิลมอร์ กองกลางห้องเครื่อง ท็อดด์ แคนท์เวลล์ ตัวทำเกมริมเส้น และ ตีมู ปุ๊กกี้ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย ยูริ ตีเลอมันส์ มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ปีกจอมลากเลื้อย และ เจมี่ วาร์ดี้ ศูนย์หน้าดาวซัลโวประจำทีม
นาที 8 GOAL!!!
ทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วตั้งแต่ไก่โห่ 1-0 !!! เป็นจังหวะเริ่มที่ความขยันของ ริคาร์โด้ เปเรยร่า ที่ไล่ตามฉกบอลจาก แบรนดอน วิลเลียมส์ มาได้แล้วลากพาบอลมาเอง หลุดมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะปาดเลียดเข้ากลางมาให้ เจมี่ วาร์ดี้ ได้วางเท้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ ไม่จับ พุ่งหนีมือ ทิม ครูล ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 11
ทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อ ริคาร์โด้ เปเรยร่า เกิดมีอาการบาดเจ็บจากจังหวะเปิดบอลให้วาร์ดี้ทำประตู สุดท้ายเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือจิ้งจอกสยาม ต้องเปลี่ยนตัวเอา ทิโมธี กาสตาญ นักเตะสารพัดประโยชน์ทีมชาติเบลเยี่ยม ลงสนามมาเล่นแทน
นาที 16
เจ้าถิ่น นอริช ซิตี้ ได้บุกตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ มักซ์ แอรอนส์ ได้บอลทางขวา เลี้ยงตัดเข้ากลาง ก่อนจะไหลมาที่หน้าเขตโทษให้ เคนนี่ แม็คลีน ได้ตั้งป้อมบรรจงกดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงแต่ดันไปตรงตัวของ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเข้าซองไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น
นาที 27
เจ้าถิ่น นอริช ซิตี้ เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะความผิดพลาดของ คักลาร์ โซยุนชู ที่โดนไล่กดดัน จนจ่ายบอลพลาดเข้าทาง มิลอต ราชิก้า ที่หน้าเขตโทษ เจ้าตัวไม่รอช้าไหลต่อสั้น ๆ มาที่หน้าเขตโทษด้านขวาตั้งให้ ปิแอร์ ลีส์ เมลู ได้ซัดด้วยซ้ายเต็ม ๆ พุ่งแรงเข้ากรอบ เดือดร้อนถึง แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ต้องออกแรงเซฟ ผวาปัดทิ้งเอาไว้ได้ทัน
นาที 29
ทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมา ยูริ ตีเลอมันส์ แทงบอลทะลุช่องให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ หลุดเข้าไปในเขตโทษแต่โดนกองหลังเสียบไว้ได้ทัน บอลกระฉอกไม่ไปไหนไกล แล้วเป็น เจมี่ วาร์ดี้ สปีดมาเก็บบอล ได้ดวลเดี่ยวกับ ทิม ครูล ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ก่อนจะซัดเร็วไปติดเซฟอย่างน่าเสียดาย
นาที 32
ทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ เล่นลูกสวนกลับมาอีกครั้งตามสไตล์ถนัด จังหวะนี้ มาร์ค อัลไบรท์ตัน หลุดขึ้นมาทางขวา ไหลเข้ากลางต่อให้ ยูริ ตีเลอมันส์ ป้ายบอลเปลี่ยนแกนไปทางกราบซ้ายให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ได้ติดเครื่อง เลี้ยงจี้มาที่หน้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะโยกเข้าใน แล้วปั่นเร็วด้วยขวาตามสูตร ส่งบอลพุ่งแรง โค้งหลุดกรอบ ถากเสาไกลขวามือ ออกหลังไปแบบได้ลุ้น
นาที 44 GOAL!!!
เจ้าถิ่น นอริช ซิตี้ มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะ คักลาร์ โซยุนชู ไปตามสกัดทำฟาล์วใส่ ปิแอร์ ลีส์ เมลู ในเขตโทษ ทีแรกเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ดันมีสัญญาณ VAR จากข้างสนาม ทำให้ โรเบิร์ต โจนส์ ผู้ตัดสินในเกมนี้ ต้องเดินออกไปดู ก่อนจะกลับลงมาเป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษของเจ้าถิ่น แล้วเป็น ตีมู ปุ๊กกี้ รับหน้าที่สังหาร ซัดเข้าประตูไป ไม่พลาด
หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุกสูสี เป็นทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ประตูขึ้นนำเร็ว หลังจากนั้นก็ครองบอลได้มากกว่า รูปเกมก็ได้ลุ้นกว่าอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ดี เจ้าถิ่น นอริช ซิตี้ ฮึดตามตีเสมอได้สำเร็จ สกอร์ตอนนี้ นอริช 1 เลสเตอร์ 1 !!!
นาที 48
เปิดฉากครึ่งหลังมา เจ้าถิ่น นอริช ซิตี้ เปิดฉากบุกใส่ทีมเยือนทันที จังหวะนี้ มิลอต ราชิก้า ลากตะลุยขึ้นมาเองทางกราบซ้าย ก่อนจะแล้วบอลหักเข้ากลางมาที่หน้าเขตโทษให้ ท็อดด์ แคนท์เวลล์ ได้วางเท้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงเฉียดคาน ลอยออกหลังไปนิดเดียว ชนิดได้ลุ้นสุด ๆ
นาที 56
เจ้าถิ่น นอริช ซิตี้ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมาทางขวา มักซ์ แอรอนส์ ดันสูงลากขึ้นมาเอง ก่อนจะครอสเข้าไปในเขตโทษให้ ตีมู ปุ๊กกี้ ได้โฉบมาเทคตัวขึ้นโหม่งเหน่ง ๆ แต่บอลเบาแถมตรงตัว แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย
นาที 58
ทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย มาร์ค อัลไบรท์ตัน เปิดโด่งเข้าไปที่เสาแรก บิลลี่ กิลมอร์ โหม่งสกัดไม่ดีบอลไม่ไปไหน วิลเฟร็ด เอ็นดิ ตามมาโหม่งเสยเข้ากลางไปถูกแนวรับเจ้าถิ่นสกัดไม่ดีไปเข้าทาง เจมส์ แมดดิสัน ได้ซัดด้วยขวาเน้น ๆ หลุดเสาซ้ายมือ ลอยออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 63
ทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ต่อบอลกันขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ แล้วเป็น ยูริ ตีเลอมันส์ ขอลองวางเท้าส่องไกลด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบ บอลพุ่งแรงเป็นจรวด เหินข้ามคานออกไป แบบไม่ได้ลุ้นเลย
นาที 67
ทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ครองบอลได้มากกว่า รูปเกมก็เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่สุดท้ายก็ยังเจาะแนวรับเจ้าถิ่นไม่เข้า แบรนเดน รอดเจอร์ส กุนซือจิ้งจอก ต้องแก้เกมด้วยการส่ง เคเลชี่ อิเฮนาโช่ กองหน้าตัวจบสกอร์ทีมชาติไนจีเรีย ลงสนามมาเล่นแทน ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ที่วันนี้เลื้อยไม่ค่อยออกเท่าไหร่ ออกไปพักที่ข้างสนาม
นาที 77 GOAL!!!
ทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะต่อบอลเร็วมาถึงหน้าเขตโทษให้ เจมี่ วาร์ดี้ เจ้าตัวไหลบอลตามช่องต่อให้ มาร์ค อัลไบรท์ตัน ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะก้มหน้ากดด้วยขวาเน้น ๆ พุ่งไปแฉลบ แบรนดอน วิลเลียมส์ นิดนึง แต่ด้วยความแรง บอลลอยเสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก
นาที 78
เจ้าถิ่น นอริช ซิตี้ ได้สวนกลับเร็วขึ้นมาบ้าง เป็นจังหวะ ลูกัส ลุปป์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้บอลหลุดมาถึงกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะเปิดเลียดเข้าไปในเขตโทษให้ โจชัว ซาร์เก้นท์ ตัวสำรองอีกคน ได้วิ่งสอดมาซัดด้วยขวาเน้น ๆ ไม่จับ พุ่งย้อนศร หลุดเสาแรกซ้ายมือ ลอยออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 80 VAR!!!
เจ้าถิ่น นอริช ซิตี้ เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย มิลอต ราชิก้า เปิดบอลโค้งเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น เคนนี่ แม็คลีน ได้โหม่งเหน่ง ๆ เข้าประตูไป ทว่า ผู้ตัดสินขอเดินไปเช็ค VAR ก่อนจะกลับลงมาริบประตูคืน ซึ่งถ้าดูจากภาพช้าจะเห็นว่า ท็อดด์ แคนท์เวลล์ เจตนายืนบังขวางทางเล่นบอลของ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูทีมเยือน แถมตัวเองยังอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าอีกด้วย
นาที 90+3
ทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วโต้กลับเร็ว เจมี่ วาร์ดี้ เลี้ยงลุยขึ้นมาเอง โดยมีเพื่อน ๆ วิ่งขนาบข้างขึ้นมาอีกสองคน ได้ดวลกับกองหลังเจ้าถิ่น 3 ต่อ 2 เจ้าตัวเลือกไหลออกซ้ายให้ ดิวบูลี่ ฮอลล์ เปิดข้ามฟากไปที่เสาไกลให้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ แต่บอลแรงไปนิด สุดท้ายยังตามเก็บได้ ก่อนจะซัดหลุดกรอบออกไปเองอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ บุกมาเฉือนเอาชนะเจ้าถิ่น นอริช ซิตี้ ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 !!! เขยิบขึ้นมารั้งอันดับที่ 8 ของตาราง โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันเสาร์ที่ 11 กันยายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านนอริช ซิตี้ อยู่รองบ๊วยของตารางคะแนน นัดต่อไปจะออกไปเยือนอาร์เซน่อล ในวันเวลาเดียวกัน