เกมการแข่งขัน ระหว่างเจ้าถิ่นทีม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เปิดสนาม เดอะ ฮอว์ธอร์นส ต้อนรับการมาเยือนของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เกมนี้ เจ้าถิ่น เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ภายใต้การคุมทีมของ แซม อัลลาร์ไดซ์ มาเล่นในระบบ 4-4-1-1 นำทีมโดย ดาร์เนลล์ เฟอร์ลอง แบ็คขวาจอมบุก คอเนอร์ กัลลาเกอร์ กองกลางห้องเครื่อง และ มาเตอุส เปเรยร่า ตัวทำเกมความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 แผนถนัด นำทีมโดย ติอาโก้ อัลกันตาร่า เพลย์เมกเกอร์ตัวปั้นเกมทีมชาติสเปน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กองหน้าจอมเทคนิคทีมชาติบราซิล และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวซัลโวประจำทีม
นาที 2
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล ได้ทักทายก่อนเลย จังหวะต่อบอลกันขึ้นมาที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น แล้วมีชิงจังหวะขลุกขลิกกันเล็กน้อยหน้าประตู บอลกระดอนมาที่หน้าหัวกระโหลกเข้าทาง ติอาโก้ อัลกันตาร่า วิ่งมาซัดด้วยขวาเต็ม ๆ ไม่จับ บอลพุ่งไปติดบล็อกแนวรับเจ้าถิ่นออกหลังไป ได้เป็นลูกเตะมุม
นาที 3
จังหวะต่อเนื่อง ทีมเยือน ได้เตะมุมทางฝั่งขวา แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เล่นสั้นเปลี่ยนจุดแล้วเปิดเองจากริมเส้นฝั่งขวา บอลพุ่งโด่งโค้งลึกไปที่เสาไกลให้ เนธาเนียล ฟิลลิปส์ ได้เบียดขึ้นโขก แต่บังคับบอลกดไม่ลง เหินข้ามคานออกไป
นาที 5
ทีมเยือน ได้เตะมุมทางฝั่งขวา แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดโค้งมาที่เสาแรก แล้วเป็น เนธานเนียล ฟิลลิปส์ เจ้าเก่า วิ่งโฉบมาโหม่งเช็ด แต่โดนบางเกินไป บอลผ่านหน้าปากประตูหลุดเสาไกลซ้ายมือออกไปอีกครั้งนึง
นาที 9
เจ้าถิ่น เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ได้ฟรีคิกทางกราบซ้ายของสนาม มาเตอุส เปเรยร่า เปิดบอลโด่งโค้งมาที่เสาไกลขวามือ แล้วเป็น เซมี่ อเจยี่ สอดขึ้นไปได้โหม่ง แต่ทำได้ไม่ดีเอง หลุดกรอบออกไปไกล แบบไม่ได้ลุ้นเลย
นาที 11
เจ้าถิ่น น่าจะได้ประตูขึ้นนำสุด ๆ เป็นจังหวะได้ฟรีคิกทางกราบซ้ายอีกครั้ง มาเตอุส เปเรยร่า เจ้าเก่า เป็นคนโยนเข้าไป คราวนี้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน โหม่งสกัดไม่ดี บอลลอยมาอยู่บริเวณสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย ดาร์เนลล์ เฟอร์ลอง เก็บได้ ก่อนจะตักบอลโด่งไปที่เสาไกลขวามือให้ โอคาย โยคุสลู ได้กระโดดขึ้นโหม่งสะบัดจ่อ ๆ แต่เจ้าตัวสะบัดแรงไปหน่อย บอลถากเสาขวามือ หลุดกรอบออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
นาที 14 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 !!! เป็นจังหวะแย่งโหม่งกันอยู่บริเวณกลางสนาม เซมี่ อเจยี่ โหม่งขึ้นหน้ามาบริเวณกึ่งกลางสนามตรงกลางให้ มาเตอุส เปเรยร่า ได้ดีดบอลโด่งจังหวะเดียวข้ามแนวรับทีมเยือนทะลุช่องไปให้ ฮัล ร็อบสัน คานู ได้วิ่งสอดหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะเอี้ยวตัวแปด้วยซ้ายเล่นทางเน้น ๆ พุ่งเลียดเสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไปอย่างเฉียบคม
นาที 23
ทีมเยือน น่าจะได้ประตูตีเสมอแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ต่อบอลกันขึ้นมาตรงกลาง ฟาบินโญ่ ได้บอลที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะแทงบอลทะลุช่องเร็วจังหวะเดียวให้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ได้วิ่งตัดหลังแนวรับไปเอาบอล หลุดไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งขวา แล้วปาดเลียดมาที่บริเวณจุดโทษให้ ซาดิโอ มาเน่ ที่ตั้งป้อมกางมุ้งรออยู่ ได้แปด้วยขวาโล่ง ๆ แต่เจ้าตัวยิงหลุดเสาแรกขวามือออกไปเอง แบบน่าผิดหวังสุด ๆ
นาที 26
ทีมเยือน ได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษเยื้อง ๆ ไปทางซ้าย เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ วิ่งมาปั่นไซด์โป้งด้วยขวาเน้น ๆ บอล แฉลบกำแพงนิดนึง ก่อนจะลอยโด่งข้ามคานออกหลังไป ได้เป็นเตะมุมแทน
นาที 27
ทีมเยือน บุกขึ้นมาทางกราบซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ตั้งป้อมครอสบอลยาว พุ่งโด่งโค้งสวยไปยังพื้นที่ว่างในเขตโทษฝั่งขวา แล้วเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่สปีดวิ่งสอดขึ้นไปเกี่ยวบอลลง ก่อนจะดีดเร็วด้วยซ้ายยัดไปที่เสาแรกทันที แต่บอลก็ไปตรงตัวของ แซม จอห์นสตัน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนคุมเสาไว้อยู่แล้ว รับไว้ได้สบาย
นาที 31
ทีมเยือน โหมบุกอย่างหนัก ต่อบอลกันไปมาอยู่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ หุบเข้ากลางมารับบอลที่หน้าเขตโทษด้านขวา ก่อนจะล็อกบอลตัดเข้าในมาถึงหัวกระโหลก แล้วลองซัดด้วยซ้ายเต็มข้อดู แต่บอลก็ยังเหินข้ามคานออกไป
นาที 32 GOAL!!!
หลังจากพับสนามอยู่นาน ทีมเยือน ลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะความผิดพลาดของผู้เล่นเจ้าถิ่น ที่จิ้มบอลคืนหลังไม่ดูให้ดี ซาดิโอ มาเน่ ตัดบอลได้บริเวณหัวกระโหลก แตะบอลจังหวะเดียวไหลสั้น ๆ มาที่หน้าเขตโทษด้านขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายเล่นทาง พุ่งโค้งหนีมือ แซม จอห์นสตัน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น กระดอนพื้นไปเสียบโคนเสาไกลซ้ายมือเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเฉียบคมสุด ๆ
นาที 34
ทีมเยือน น่าจะประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ซาดิโอ มาเน่ ยืนพิงบอลหันหลังให้ประตูอยู่บริเวณหัวกระโหลก ก่อนจะตอกส้นแบบไม่มองไปแฉลบขาผู้เล่นเจ้าถิ่นกระดอนมาเข้าทาง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษตรงกลาง แต่เจ้าตัวดันปั่นด้วยขวา พุ่งไปชนเสาไกลซ้ายมืออย่างจัง กระเด้งออกมา พลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 35
เจ้าถิ่น ได้เตะมุมทางฝั่งขวา มาเตอุส เปเรยร่า เปิดบอลด้วยซ้ายโค้งเข้าหาประตู พุ่งมาที่เสาแรก กำลังจะมุดใต้คานอยู่แล้ว แต่ยังดีที่ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังไว ผวามาปัดทิ้งไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 39
ทีมเยือน ขึงเกมรุกอยู่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้ ฟาบินโญ่ ครองบอลอยู่หน้าเขตโทษด้านขวา ก่อนจะแทงบอลทะลุช่องให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ทำชิ่ง 1-2 หักกลับคืนมาให้เจ้าตัว ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะซัดเร็วเร็วด้วยขวาทันที แต่บอลก็ยังพุ่งไปตรงตัวของ แซม จอห์นสตัน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับสบาย
นาที 41
ทีมเยือน โหมบุกอย่างหนัก ซาดิโอ มาเน่ ได้บอลบริเวณมุมกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะกระชากตัดเข้าในมาถึงหน้าเขตโทษตรงกลาง แล้วปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ไปที่เสาไกลขวามือ บอลพุ่งแรงโค้งสวยทำท่าจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ ไคล์ บาร์ทลี่ย์ โฉบมาโหม่งเคลียร์ ตัดบอลออกหลังไว้ได้ทันเฉียดฉิว
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเจ้าถิ่น เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ที่ยิงขึ้นนำไปก่อน หลังจากนั้นก็มาโดนทีมเยือน ลิเวอร์พูล บุกใส่อย่างหนัก สุดท้ายต้านทานไม่ไหว โดนตีเสมอจนได้ สกอร์ตอนนี้ อยู่ที่ 1-1 !!!
นาที 49
เปิดฉากครึ่งหลังมาได้แปปเดียว ทีมเยือน ลิเวอร์พูล ก็มีโอกาสส่งบอลเข้าประตูไป แต่ไม่ได้ประตู เป็นจังหวะ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พาบอลเลี้ยงจี้ขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะหยอดบอลโด่งไปที่เสาไกลให้ ซาดิโอ มาเน่ สอดมาจิ้มบอลเข้าประตูไป แต่ผู้ช่วยยกธงว่าเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน ดีใจเก้อสำหรับทีมเยือน
นาที 51
เจ้าถิ่น เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว มาเตอุส เปเรยร่า ได้บอลแล้วติดเครื่องกระชากพาบอลขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะส่องไกลด้วยซ้ายนอกกรอบไปแฉลบกองหลัง แล้วไหลเข้ามือ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับสบาย
นาที 57
ทีมเยือน เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะตัดบอลได้จากลูกเตะมุมในแดนตัวเอง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ กระชากสวนกลับเร็วขึ้นมาถึงกลางสนาม ก่อนจะแทงทะลุช่องคิลเลอร์พาสให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้สปีดหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย แต่เจ้าซัดเร็วด้วยซ้ายไปติดเซฟของ แซม จอห์นสตัน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่อ่านเกมได้ดี วิ่งออกมาปิดมุมยิงเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 67
ทีมเยือน บุกขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ถ่างออกมารับบอล ก่อนจะเลี้ยงจี้ตัดเข้าในมาถึงหน้าเขตโทษ โยกเข้าขวาแล้วปั่นด้วยขวาเน้น ๆ แต่บอลก็ยังไปติดบล็อกกองหลังเจ้าถิ่น กระดอนออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม
นาที 70 VAR!!!
จังหวะดราม่าของเกม เมื่อเจ้าถิ่น ได้เตะมุมทางฝั่งขวา คอเนอร์ กัลลาร์เกอร์ เปิดโด่งเข้าไปที่เสาสอง แล้วเป็น เซมี่ อเจยี่ โขกเข้ากดลงพื้น ไปเข้าทาง ไคล์ บาร์ทลี่ย์ ได้ยิงจ่อ ๆ เข้าไป แต่ผู้ตัดสินเช็ค VAR ก่อนจะลงมาไม่ให้ประตูเพราะมองว่า แมตต์ ฟิลลิปส์ ที่ยืนล้ำหน้าอยู่ ไปขวางทางเล่นบอลของ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน
นาที 79
ทีมเยือน ขึงเกมรุกอยู่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น ติอาโก้ อัลกันตาร่า ได้บอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะล็อกหนี ลิเวอร์มอร์ แล้วปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งโค้งหลุดเสาไกลขวามือ ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 83
โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ แทงบอลทะลุช่องให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ได้หลุดไปทางขวา ก่อนที่เจ้าตัวจะกระชากเข้าเขตโทษ แล้วล็อกหนีตัวประกบตัดเข้าในมาซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ ตรงกลางประตู แต่บอลดันไต่หลังเท้า เหินข้ามคานออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
นาที 87
ทีมเยือน พยายามอย่างหนัก แต่ยังไม่ได้ประตู จังหวะนี้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ไหลบอลออกมาทางขวาให้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ได้ติดเครื่องลากจี้ขึ้นมาเองถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะลองส่องไกลด้วยขวาเต็ม ๆ บอลพุ่งแรงและเข้ากรอบ แต่ไม่หนีมือเท่าไหร่ แซม จอห์นสตัน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น บินไปปัดออกไว้ได้ทัน
นาที 90+5 GOAL!!!
โอกาสเฮือกสุดท้ายของเกม เป็นทีมเยือน ลิเวอร์พูล ที่มาได้ประตูที่ต้องการพลิกขึ้นมานำได้อย่างเหลือเชื่อ 2-1 !!! เป็นจังหวะได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ โยนบอลโค้งมาที่เสาแรก แล้วเป็น อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่เติมขึ้นมาได้โหม่งขวิดเต็ม ๆ บอลพุ่งตุงตาข่าย เข้าประตูไปอย่างสวยงาม
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน ลิเวอร์พูล ที่อาศัยลูกอดทนบวกโชคนิด ๆ บุกมาเฉือนเอาชนะเจ้าถิ่น เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ไปได้อย่างสนุก 2-1 !!! คว้าสามคะแนนสุดล้ำค่า เขยิบขึ้นมารั้งอันดับที่ 5 ของตารางคะแนนได้สำเร็จ โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนทีมเบิร์นลี่ย์ ส่วนทางด้าน เวสต์บรอมวิช รั้งรองบ๊วยอยู่เหมือนเดิม ตกชั้นไปนานแล้ว นัดต่อไปจะเปิดบ้านเจอกับทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด