อเกวโร่เบิ้ลส่งท้าย! “แมนฯซิตี้” เปิดบ้านถล่ม “เอฟเวอร์ตัน” ปิดฉากสวยหรู 5-0

เกมการแข่งขัน ระหว่างเจ้าถิ่นทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของทีมท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดสุดท้ายของฤดูกาล

เกมนี้ เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย แฟร์นานดินโญ่ กองกลางตัวรับจอมเก๋า เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์ตัวปั้นเกมทีมชาติเบลเยี่ยม และ กาเบรียล เชซุส ศูนย์หน้าจอมพลิ้วทีมชาติบราซิล

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การคุมทีมของ คาร์โล อันเชลอตติ มาเล่นในระบบ 4-3-1-2 นำทีมโดย ลูก้าส์ ดีญ แบ็คซ้ายจอมบุกทีมชาติฝรั่งเศส กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน เพลย์เมกเกอร์เท้าหนัก และ โดมินิก คัลเวิร์ท เลวิน ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม

นาที 4

เริ่มเกมมา เป็นทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน ที่ได้ทักทายก่อนถึงสองจังหวะติด ๆ กัน จังหวะแรก กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ได้ลองซัดไกลไปตรงตัวของ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับไว้ได้ จังหวะถัดมา กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน เจ้าเก่า แทงบอลทะลุช่องให้ โดมินิก คัลเวิร์ท เลวิน ได้สปีดไปเอาบอล หลุดเข้าไปในเขตโทษแล้วได้จบ แต่ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ก็ยังยืนตำแหน่งได้ดี เซฟไว้ได้อีกครั้ง

นาที 6

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สวนกลับขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ กาเบรียล เชซุส ได้โฉบเข้าไปซัดมุมแคบที่เสาแรกทันที แต่ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยืนปิดเสาไว้อยู่แล้ว เซฟไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 10 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 !!! เป็นจังหวะขึ้นเกมมาทางกราบขวา ริยาด มาห์เรซ ทำชิ่ง 1-2 กับ ฟิล โฟเด้น ตัดเข้ามาถึงบริเวณกึ่งกลางสนาม ก่อนจะไหลบอลไปที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ เควิน เดอ บรอยน์ ว่าง ๆ ไม่มีใครเข้าประกบ มีเวลาได้วางเท้าบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงและโค้งสวยกระดอนพื้นหนีมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่ายอย่างสวยงาม

นาที 13 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูหนีห่างออกไปอย่างรวดเร็ว 2-0 !!! เป็นจังหวะความผิดพลาดของ ไมเคิ่ล คีน กองหลังทีมเยือน ที่พยายามจะเลี้ยงแหวกผู้เล่นเจ้าถิ่นขึ้นมาตรงกลางสนาม แต่โดน แฟร์นันดินโญ่ แย่งบอลจากเท้าแล้วสวนกลับเร็วมาที่ เควิน เดอ บรอยน์ แทงทะลุช่องขึ้นหน้าให้ กาเบรียล เชซุส ได้กระชากพาบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย แล้วง้างเท้าหลอกยิงด้วยซ้ายแต่ล็อคเข้าขวา ทำเอา เบน ก็อดฟรีย์ หลงทาง ก่อนจะบรรจงแปด้วยขวาเน้น ๆ หนีมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบตาข่ายเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป อย่างสวยงาม

นาที 23

เจ้าถิ่น เกือบได้ประตูเพิ่ม เป็นจังหวะได้ฟรีคิกบริเวณสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายมาที่หน้าเขตโทษให้ ริยาด มาห์เรซ ได้ซัดไกลติดบล็อก บอลกระฉอกมาที่หน้าเสาแรกซ้ายมือกลับมาเข้าทาง เควิน เดอ บรอยน์ ที่วิ่งหุบเข้าใน ได้ซัดมุมแคบยัดไปที่เสาแรกอีกที แต่ก็ยังโดน จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนคุมเสาอยู่ ปัดออกมาได้ทันเฉียดฉิว

นาที 28

เจ้าถิ่น ไม่มีผ่อนบุกใส่ทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง แล้วเกือบจะได้ประตูเพิ่มอีกครั้ง เป็นจังหวะ เควิน เดอ บรอยน์ แทงบอลทะลุช่องคิลเลอร์พาสให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ได้สปีดวิ่งแซงกองหลังทีมเยือน หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วได้จบ แต่ก็ยังไม่ผ่าน จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่วิ่งออกมาปิดมุมได้ไว เซฟไว้ได้อีกครั้งหนึ่ง

นาที 33 จุดโทษ!!!

ทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน มีโอกาสที่จะตีตื้นขึ้นมาจากลูกจุดโทษ เป็นจังหวะเริ่มที่ความผิดพลาดของ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ที่จ่ายบอลคืนหลังไม่ดี ริชาร์ลิซอน สปีดเข้าไปถึงบอลในเขตโทษ ก่อนจะโดน รูเบน ดิอาส ทำฟาล์วจากทางด้านหลังล้มลงไป ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษทันที กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน รับหน้าที่สังหาร แต่ยิงไปติดเซฟของ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่พุ่งถูกทาง ปัดไว้ได้ แต่ไปเข้าทาง ริชาร์ลิซอน ได้ยิงซ้ำ แต่ก็ยังถูกกองหลังเจ้าถิ่น ตามลงมาช่วยบล็อกไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 43

เจ้าถิ่น เกือบได้ประตูเพิ่ม เป็นจังหวะ ราฮีม สเตอร์ลิง เลี้ยงจี้ขึ้นมาตรงกลาง ก่อนจะไหลออกมาทางกราบขวาให้ ริยาด มาห์เรซ ได้ติดเครื่อง กระชากบอลตัดเข้าในมาถึงหน้าเขตโทษ แล้วปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ลูกถนัด บอลพุ่งแรงโค้งสวยไปชนคานอย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ประตูขึ้นนำเร็วสองลูกติด ๆ กัน แล้วหลังจากนั้นก็เป็นฝ่ายครองบอล ปูพรหมขึงเกมรุก บุกใส่ทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน อยู่ฝั่งเดียว สกอร์นำอยู่ 2-0 !!!

นาที 50

เริ่มเกมครึ่งหลับมาแปปเดียว เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็มีโอกาสยิงประตูเพิ่มถึงสองครั้งติด ๆ กัน จังหวะแรก เควิน เดอ บรอยน์ ได้กระชากทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา แล้วปาดเข้ากลางให้ ฟิล โฟเด้น ยิงเน้น ๆ แฉลบแนวรับทีมเยือน ออกหลังไปได้เป็นเตะมุม จังหวะต่อเนื่องถัดมา ได้เตะมุมทางฝั่งขวา เควิน เดอ บรอยน์ เปิดบอลโด่ง โค้งเข้าไปตรงกลาง แล้วเป็น รูเบน ดิอาส ได้พักอกเอาบอลลง แต่ก็ดันซัดไปตรงตัวของ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูทีมเยือน เซฟไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 52 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! เป็นจังหวะ กาเบรียล เชซุส ติดเครื่องพลิกหนีผู้เล่นทีมเยือนมาได้สวย เลี้ยงจี้ขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษด้านซ้าย แล้วไหลบอลตัดเข้ากลางมาที่หัวกระโหลกให้ ราฮีม สเตอร์ลิง จับบอลแล้วจ่ายสั้น ๆ ยัดมาที่บริเวณจุดโทษให้ ฟิล โฟเด้น ได้โยกหลบกองหลังทีมเยือนแต่งบอลเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะซัดหักข้อเสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่ายอย่างเฉียบคม

นาที 68

เจ้าถิ่น ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว เควิน เดอ บรอยน์ ดีดบอลเร็วขึ้นหน้าไปทางกราบซ้ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ได้เลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษ ดึงจังหวะรอเพื่อนนิดนึง ก่อนจะจ่ายไปที่เสาไกลให้ กาเบรียล เชซุส ที่ยืนว่าง ๆ ได้ตั้งป้อมซัดด้วยขวาเน้น ๆ แต่เหมือนจะช้อนใต้ลูกไปหน่อย บอลลอยเหินข้ามคานออกไป แบบน่าผิดหวังสุด ๆ

นาที 70 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูตอกย้ำเป็น 4-0 !!! เป็นจังหวะเหมือนจะไม่มีอะไร ทอม เดวิส รับบอลมาจากลูกทุ่มของเพื่อน บริเวณหน้ากรอบเขตโทษของตัวเอง แต่เล่นบอลประมาทโดน แฟร์นันดินโญ่ วิ่งมาปั๊มบอลแย่งจากเท้าไปได้ บอลกระฉอกมาเข้าทาง เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ที่หน้าเขตโทษด้านขวา เจ้าตัวพลิกได้แล้วเลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษทันที ก่อนจะโชว์สกิลโยกหลอกเผาเครื่อง เมสัน โฮลเกท จนหลงทาง แล้วดีดบอลด้วยขวาไซด์ก้อย พุ่งไปเสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไปอย่างเฉียบคม หมดสิทธิ์เซฟสำหรับ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูทีมเยือน

นาที 75 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ประตูตอกฝาโลงเป็น 5-0 !!! เป็นจังหวะลำเลียงบอลขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา แฟร์นันดินโญ่ ได้บอล ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงครอสบอลโด่ง โค้งไปที่พื้นที่ว่างกลางประตูให้ เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ได้วิ่งสอดมากระโดดลอยตัวโหม่งสะบัดเน้น ๆ บอลพุ่งเสียบเสาแรกขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูทีมเยือน ได้แต่หันไปมอง

นาที 81

เจ้าถิ่น เกือบได้ประตูครึ่งโหล เป็นจังหวะขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลยัดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ที่ยืนหันหลังให้ประตูอยู่ ได้กลับตัวพลิกมายิงมุมแคบด้วยขวาที่เสาแรกได้สำเร็จ แต่ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนปิดมุมอยู่ ก็ปัดทิ้งไปได้ทัน เกือบได้แฮตทริกสั่งลาสำหรับ อเกวโร่

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านไล่ถล่มทีมเยือน เอฟเวอร์ตัน ไปได้อย่างเละตุ้มเป๊ะ 5-0 !!! ฉลองแชมป์พรีเมียร์ ลีก สมัยที่ 7 ได้อย่างสวยหรู และถือเป็นแมทช์สั่งลา เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ ตำนานดาวยิงสูงสุดของสโมสรอีกด้วย