นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง นิวคาสเซิ่ล ที่เตรียมเปิดสนาม เซนต์ เจมส์พาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ในศึก พรีเมียร์ลีก (อังกฤษ) เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ นิวคาสเซิ่ล จะมาในระบบ 4-3-3 แผนที่ลงตัวสำหรับพวกเขามากที่สุดในช่วงนี้ นำโดยสตาร์ดังอย่าง บรูโน่ กีมาเรส,โจ วิลล็อค,โชเอลินตอน และ อัลล็อง แซงต์-มักซีแมง
ขณะที่ ลิเวอร์พูล จะมาสู่ด้วยระบบ 4-3-3 เช่นเดียวกัน พร้อมขนเอาผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามเหมือนเดิม มีทั้ง เวอร์กิล ฟาน ไดจ์, นาบี เกอิต้า,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน,ซาดิโอ มาเน่ และ หลุยส์ ดิอาซ
นาทีที่ 8
ลิเวอร์พูล มีลุ้นเกือบได้ประตูออกนำ จากจังหวะที่ ลิเวอร์พูล ขึ้นเกมทางขวา บอลขรุกขริก ไหลไปเข้าทาง เกอิต้า แต่แทนที่เขาจะโยนไปให้เพื่อนที่วิ่งเติมมาโล่งๆ ในกรอบเขตโทษ เจ้าตัวดันก้มหน้าซัดเองไม่สนใคร บอลพุ่งแรงหลุดเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 10
ทีมเยือนได้ลุ้นประตูอีกแล้ว จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งขวา มิลเนอร์ โยนโด่งเข้ากลางบอลตกตรงหน้า ฟานไดจ์ เจ้าตัวเลยสบโอกาสวอลเลย์ด้วยขวาเต็มข้อ แต่ลูกนี้น่าจะช้อนใต้ลูกไปหน่อย บอลสุดท้ายเลยเหินข้ามคานออกไปไกล
นาทีที่ 19 ลิเวอร์พูล 1-0!!
ในที่สุด ลิเวอร์พูล ก็เจาะแนวรับของ นิวคาสเซิ่ล ได้สักที จากจังหวะปัญหา ที่กรรมการไม่เป่าฟาวล์ให้ ฟาเบียน แชร์ ที่โดน มิลเนอร์ พุ้งเสียบอัตราราย แต่เมื่อกรรมการไม่เป่า ลิเวอร์พูล ก็ไม่สน โชต้า ที่เก็บบอลได้เลยแทงบอลทะลุช่องให้ เกอิต้า หลุดเข้าไปล็อกหลบหนี ดูบราฟก้า ก่อนจะได้ส่องเน้นๆกลางประตู เข้าไปไม่มีเหลือ
หมดครึ่งเวลาแรก นิวคาสเซิ่ล เสียสมาธิจังหวะเดียวก็โดน ลิเวอร์พูล ลงโทษทันที ส่งผลให้พวกเขาตามหลัง ลิเวอร์พูล 1-0 ครึ่งหลัง นิวคาสเซิ่ล จะเล่นรับอย่างเดียวก็ไม่ได้แล้ว เพราะตามหลังอยู่
นาทีที่ 54
เจ้าบ้านไม่ได้ประตู แต่แฟนบอลแอบสะใจ เป็นจังหวะที่ นิวคาสเซิ่ล ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบเยื้องไปทางซ้าย ระยะ 25 หลาพอดิบพอดี เชลวี่ย์ วิ่งมาปั่นด้วยขวาเต็มแรง บอลพุ่งไปชน มิลเนอร์ ล้มลงไปนอนกับพื้น กรรมการถึงขึ้นต้องเป่าหยุดเกมเพื่อดูอาการ
นาทีที่ 63
ลิเวอร์พูล ไม่ได้เม็ดสองอย่างเหลือเชื่อ จากจังหวะที่ โกเมซ กระชากพาบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะปาดเรียดให้ มาเน่ เอียงตัวแปเน้นๆ กลางประตู แต่บอลดันหลุดกรอบ ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 77
นิวคาสเซิ่ล ส่งสัญญาณอันตราย จากจังหวะที่ มักซีแมง โชว์สกิลพลิกบอล หลอกแนวรับของ ลิเวอร์พูล อย่างสวย ก่อนจะแทงทะลุช่องให้ คริส วู้ด หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงติดเซฟของ อลิสซอน พร้อมกับมีธงล้ำหน้ายกขึ้นมาพอดี
นาทีที่ 90
ช่วงก่อนหมดเวลา ลิเวอร์พูล ขึ้นเกมมาสวย จากจังหวะที่ ดิอาซ วางบอลยาวให้ ซาลาห์ สปีดตามไปเล่นบอลต่อในเขตโทษ แต่จังหวะที่กำลังจะง้างเท้ายิง ดูบราฟก้า วิ่งออกมาปิดมุมดี ซาลาห์ เลยยิงไม่ถนัด บอลหลุดออกหลังไป ไม่ได้ลุ้น
หมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูล บุกทั้งเกม แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่ ประตูเดียว แต่อย่างไรก็ดีที่สำคัญคือพวกเขาเก็บสามคะแนนได่ตามเป้า ยังอยู่ในเส้นทางแย่งแชมป์กับ แมนซิตี้ ต่อไป
สนับสนุนไฮไลท์สุดมันส์โดย ufabet