เคนซัดเบิ้ล! ช่วยทัพสิงโตคำราม “อังกฤษ” ไล่ถล่ม “ยูเครน” ไป 4-0

เกมการแข่งขัน ระหว่าง ขุนพลสิงโตคำราม ทีมชาติ อังกฤษ กับ ทีมชาติ ยูเครน ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยเล่นกันที่สนาม สตาดิโอ โอลิมปิโก, กรุงโรม ประเทศอิตาลี ในค่ำคืนวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ ทีมชาติ อังกฤษ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย จอห์น สโตนส์ ปราการหลังร่างยักษ์จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมสัน เมาน์ท เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกมจากเชลซี และ แฮร์รี่ เคน ศูนย์หน้าตัวปิดบัญชีจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์

ขณะที่ทางฝั่ง ทีมชาติ ยูเครน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ อังเดร เชฟเชนโก้ มาเล่นในระบบ 3-4-1-2 นำทีมโดย อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ปีกตัวทำเกมจากเวสต์แฮม ยูไนเต็ด โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ กองหลังสารพัดประโยชน์จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ โรมัน ยาเรมชุค กองหน้าตัวความหวังของทีม

นาที 4 GOAL!!!

เริ่มเกมมาได้แต่แปปเดียว เป็นทางฝั่งทีมชาติ อังกฤษ ที่ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 !!! เป็นจังหวะ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง พาบอลเลี้ยงจี้ขึ้นมาทางซ้าย ก่อนจะเลี้ยงหลบผู้เล่นยูเครน ตัดเข้าในแล้วแทงบอลทะลุช่องตัดหลังแนวรับให้ แฮร์รี่ เคน ได้สอดหลุดไปจิ้มด้วยขวาสวนตัว จอร์จี้ บุชชาน ผู้รักษาประตูยูเครน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างเฉียบคม

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 16

ทีมชาติ ยูเครน ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง เป็นจังหวะ ไคล์ วอล์เกอร์ จ่ายบอลพลาดตรงกลางสนามโรมัน ยาเรมชุค ตัดบอลได้ แล้วลากทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะยิงเร็วด้วยซ้าย ยัดมุมแคบไปที่เสาแรกทันที แต่ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูอังกฤษ ปัดออกหลังไปได้ทันหวุดหวิด

นาที 20

เจดอน ซานโช่ พาบอลเลี้ยงแหวกขึ้นมาเอง ก่อนจะฝากออกซ้ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ได้ดึงจังหวะรอเพื่อน แล้วไหลต่อไปที่สุดเส้นหลังให้ ลุค ชอว์ ที่วิ่งตัดหลังเติมขึ้นมา ได้ปาดเลียดไปที่หน้าปากประตู เสียดาย บอลไม่มีใครเข้าถึงทัน หลุดเสาไกลออกหลังไปนิดเดียว

นาที 28

ทีมชาติ อังกฤษ ได้ฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย แล้วเป็น ลุค ชอว์ บรรจงเปิดปั่นโค้งเข้าไปที่กลางประตูให้ แฮร์รี่ เคน ได้ขึ้นโหม่งคนเดียวเต็ม ๆ แต่ก็กดไม่ลง เหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 33

ทีมชาติ อังกฤษ บุกขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ราฮีม สเตอร์ลิง โชว์ความพลิ้ว เลี้ยงหนีผู้เล่นยูเครน หลุดไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะดีดเข้ากลางแล้วโดนสกัดลอยออกมาหน้าเขตโทษเข้าทาง เดแคลน ไรซ์ ได้ตะบันด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งเป็นจรวด แต่ดันไปตรงตัวของ จอร์จี้ บุชชาน ผู้รักษาประตูยูเครน ผวาทุบทิ้งออกมาได้ทันหวุดหวิด

นาที 35

ทีมชาติ ยูเครน ต้องเสียโควต้าเปลี่ยนตัวอย่างไว โดยที่ เซอร์เก ครีฟท์ซอฟ เซนเตอร์แบ็ค มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว อังเดร เชฟเชนโก้ กุนซือยูเครน จึงส่ง วิคเตอร์ ซีกานคอฟ ลงสนามมาเล่นแทน ในตำแหน่งเดียวกัน

นาที 38

เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก ทีมชาติ อังกฤษ ยังคงขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของยูเครน จังหวะนี้ ราฮีม สเตอร์ลิง แทงบอลเร็วให้ ลุค ชอว์ ได้หลุดเข้าไปกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะหักเลียดเข้ากลางให้ เจดอน ซานโช่ ได้จับด้วยซ้าย แล้วพลิกตัวมาตวัดยิงด้วยขวาเน้น ๆ แต่บอลดันไปตรงตัวของ จอร์จี้ บุชชาน ผู้รักษาประตูยูเครน ทุบทิ้งออกมาได้ทัน ก่อนที่จะมีธงว่า ลุค ชอว์ ล้ำหน้าไปก่อนแล้วนิดเดียว

นาที 43

ทีมชาติ ยูเครน พยายามบุกขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังโดนแนวรับอังกฤษดักเอาไว้ได้หมด จังหวะนี้ บอลลอยออกมาหน้าเขตโทษเข้าทาง ทาราส ชาปาเรนโก้ ได้ตะบันด้วยขวานออกกรอบ แต่บอลก็พุ่งแรงหลุดเสาขวามือ  ออกหลังไปนิดเดียว

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมชาติ อังกฤษ ที่ได้ประตูออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น ก็ยังคงเป็นขุนพลสิงโตคำราม ที่เป็นฝ่ายครองบอล บุกใส่ทีมชาติ ยูเครน อยู่แทบจะฝั่งเดียว แต่ก็ยังยิงเพิ่มไม่ได้ สกอร์ตอนนี้อยู่ที่ อังกฤษ 1 ยูเครน 0 !!!

นาที 46 GOAL!!!

เปิดฉากครึ่งหลังมาได้แปปเดียว เป็นทีมชาติ อังกฤษ ที่มาได้ประตูหนีห่างอย่างรวดเร็ว 2-0 !!! เป็นจังหวะ ได้ฟรีคิกบริเวณกึ่งกลางสนามฝั่งซ้าย ลุค ชอว์ ตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่กลางประตูให้ แฮร์รี่ แมกไกวร์ ได้โฉบมาโหม่งสะบัดเต็ม ๆ เสียบตาข่ายเสาแรก เข้าประตูไป อย่างสวยงาม

นาที 50 GOAL!!!

ทีมชาติ อังกฤษ มาได้ประตูเพิ่มอย่างรวดเร็วเป็น 3-0 !!! เป็นจังหวะเริ่มที่ ราฮีม สเตอร์ลิง เลี้ยงจี้ขึ้นมาทางซ้าย ก่อนจะไขว้บอลไหลให้ ลุค ชอว์ ที่วิ่งตัดหลังขึ้นมา ได้ครอสบอลเร็วไม่จับจากกรอบเขตโทษด้านซ้ายเข้าไปที่กลางประตูให้ แฮร์รี่ เคน ได้โขกกดลงพื้นเหน่ง ๆ ระยะเผาขน ลอดหว่างขา จอร์จี้ บุชชาน ผู้รักษาประตูยูเครน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 62

ทีมชาติ อังกฤษ ยังไม่ผ่อนเกม และเกือบได้ประตูเพิ่ม เป็นจังหวะ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน สาดบอลยาวจากกลางสนามเข้าไปลุ้นในเขตโทษ  บอลถูกแนวรับยูเครน โหม่งสกัดลอยออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง แฮร์รี่ เคน ได้วอลเล่ย์ด้วยซ้ายเต็ม ๆ แบบไม่จับ แต่ จอร์จี้ บุชชาน ผู้รักษาประตูยูเครน ยังโชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 63 GOAL!!!

ทีมชาติ อังกฤษ มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 4-0 !!! เป็นจังหวะ ได้เตะมุมทางฝั่งขวา เมสัน เมาน์ท บรรจงเปิดบอลโค้งมาที่กลางประตู แล้วเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน โฉบมาโหม่งโล่ง ๆ เสียบตาข่ายเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย ถือว่าเป็นประตูแรกในนามทีมชาติของเจ้าตัวอีกด้วย

นาที 74

ทีมชาติ ยูเครน ตอบโต้ขึ้นมาตรงกลาง เยฟเฮน มาคาเรนโก้ ตัวสำรอง ขอลองตะบันด้วยซ้ายเต็มข้อนอกกรอบเขต บอลพุ่งแรงเป็นจรวดและติดส่าย แต่ดันไปตรงตัวของ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูอังกฤษ ยังผวาทุบทิ้งออกมาได้ทัน

นาที 85

ช่วงท้ายเกม ทีมชาติ ยูเครน พยายามจะตั้งเกมบุก โดยหวังจะยิงประตูตีไข่แตกให้ได้ แต่ก็ยังไร้วี่แวว เพราะไม่สามารถเจาะแนวรับอังกฤษ เข้าไปจบสกอร์ได้เลย ส่วนอังกฤษ ก็เล่นสบาย ๆ รอแต่เวลาหมดไปเท่านั้น

ไฮไลท์ฟุตบอล

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมชาติ อังกฤษ ไล่ถลุงทีมชาติ ยูเครน ไปได้ด้วยสกอร์ 4-0 !!! ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ โดยจะไปพบกับทีมชาติ เดนมาร์ก ในคืนวันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม 2564 ที่จะถึงนี้