“เชลซี” เฉือนเอาชนะ “อัล ฮิลัล” ไปได้สุดหวิว 1-0 !!! ศึกฟุตบอล ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ รอบรอง

เกมการแข่งขัน ระหว่าง อัล ฮิลัล (ซาอุดีอาระเบีย) กับ ทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี (พรีเมียร์ลีกอังกฤษ) ในศึกฟุตบอล ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ รอบรองชนะเลิศ เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา โดยเตะกันที่สนาม โมฮัมเหม็ด บิน ซาเยด สเตเดี้ยม, อาบู ดาบี ประเทศยูเออี (สนามกลาง)

เกมนี้ อัล ฮิลัล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เลโอนาร์โด้ ชาร์ดิม มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย กุสตาโว่ คูเอย่าร์ กองกลางห้องเครื่อง มาเธอุส เปเรยร่า เพลย์เมกเกอร์ตัวจี๊ด และ โอเดียน อิกาโล่ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่ง เชลซี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือรักษาการอย่าง อาร์โน มิเชลส์ มาเล่นในระบบ 3-4-2-1 นำทีมโดย จอร์จินโญ่ กองกลางห้องเครื่อง ฮาคิม ซีเย็ค เพลย์เมกเกอร์จอมพลิ้ว และ โรเมลู ลูกากู ดาวยิงตัวจบสกอร์ของทีม

นาที 8

เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ มัตเตโอ โควาซิช ไหลบอลเปลี่ยนแกนมาที่กึ่งกลางสนาม บริเวณหน้าหัวกระโหลกให้กับ ติอาโก้ ซิลวา ดันสูงขึ้นมาแต่งบอลหนึ่งที ก่อนจะก้มหน้าขอลองซัดไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ระยะกว่า 35 หลา ส่งบอลพุ่งเลียดแรงหนีตัว อับดุลลาห์ อัล มายุฟ ผู้รักษาประตูอัล ฮิลัล กระดอนถากเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปไกลพอสมควร

นาที 10

เชลซี ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ อันเดรียส คริสเตนเซ่น แทงทะลุช่องให้กับ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า หลุดขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งขวา เจ้าตัวหักสั้น ๆ ย้อนหลังกลับมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้ ฮาคิม ซีเย็ค ได้วิ่งมากดด้วยซ้ายเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งแรงแถมติดไซด์ก้อยหนีมือ อับดุลลาห์ อัล มายุฟ ผู้รักษาประตูอัล ฮิลัล ลอยเหินเฉียดคาน ปลิ้นหลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 16

เชลซี บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ฮาคิม ซีเย็ค พลิกบอลเลี้ยงลุยขึ้นมาถึงหน้ากรอบ ก่อนจะแทงทะลุช่องไปที่หน้าเสาแรกขวามือให้ โรเมลู ลูกากู ได้วิ่งสอดตัดหลังแนวรับหลุดเข้าไปซัดด้วยขวามุมแคบเน้น ๆ แต่ต้องชม อับดุลลาห์ อัล มายุฟ ผู้รักษาประตูอัล ฮิลัล ที่ออกมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวเซฟเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด เสียเป็นลูกเตะมุม

นาที 18

เชลซี น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ จอร์จินโญ่ แทงบอลออกไปทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้กับ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า วิ่งสอดหลุดขึ้นมาปาดเลียดถวายพานจังหวะเดียวไปที่หน้าเสาแรกให้ โรเมลู ลูกากู โฉบมาดีดด้วยซ้ายโล่ง ๆ ระยะแค่ไม่กี่หลา ทว่าเจ้าตัวดันหวดวืด พลาดโอกาสทองไปเองอย่างน่าเสียดาย

นาที 26

เชลซี บุกขึ้นมาตรงกลาง จังหวะนี้ มัตเตโอ โควาซิช ติดเครื่องกระชากพาบอลขึ้นมาเอง เจ้าตัวแทงทะลุช่องยัดเข้าไปที่หน้าเสาแรกซ้ายมือให้กับ โรเมลู ลูกากู ได้วิ่งโฉบมาอาศัยความแข็งแกร่งเบียดบังบอล ก่อนที่สุดท้ายจะสบโอกาสกลับตัวตวัดยิงเลียดมุมแคบด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงแต่ดันไปตรงตัวของ อับดุลลาห์ อัล มายุฟ ผู้รักษาประตูอัล ฮิลัล ย่อรับเข้าซองเอาไว้ได้สบาย

นาที 29

อัล ฮิลัล ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ มาเธอุส เปเรยร่า บรรจงยกบอลโด่งข้ามแนวรับเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้กับ มุสซ่า มาเรก้า วิ่งสอดมาถึงบอลโดยมี ติอาโก้ ซิลวา วิ่งประคองไม่ยอมเข้าพรวดสุดท้ายกดดันทำให้ปีกร่างบึ้ก ตัดสินใจซัดมุมแคบออกหลังไปเอง ไม่ได้ลุ้นอะไร

นาที 30

เชลซี พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง เป็นจังหวะ อันเดรียส คริสเตนเซ่น ดันสูงขึ้นมารับบอลบริเวณกราบขวา เจ้าตัวเงยหน้ามอง ก่อนจะบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตูให้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เทคตัวขึ้นโขกเช็ดเน้น ๆ แต่โดนบางไปหน่อย ส่งบอลพุ่งผ่านหน้าปากประตูไปที่เสาไกล แล้วเป็น มาร์กอส อลอนโซ่ สอดมาพยายามชาร์จจ่อ ๆ ก็ยังไม่ทัน สุดท้ายบอลหลุดออกหลังไปเลยอย่างน่าเสียดาย

นาที 32 GOAL!!!

ทัพสิงห์บลูส์ เชลซี มาได้ประตูขึ้นนำจนได้เป็น 1-0 !!! จากจังหวะ มัตเตโอ โควาซิช แทงบอลทะลุช่องขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งซ้ายให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้โยกหนีตัวประกบไปถึงสุดเส้น ก่อนจะล็อคกลับมาครอสโด่งเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น ยาสเซอร์ อัล ชาห์รานี่ โหม่งสกัดผิดเหลี่ยม กลายเป็นการส่งคืนมาที่หน้าเสาแรกโล่ง ๆ ตั้งให้ โรเมลู ลูกากู ได้ซัดด้วยขวาจ่อ ๆ ระยะเผาขน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 36

อัล ฮิลัล ยังทำอะไรไม่ค่อยได้เป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไหร่ จังหวะนี้ ซาเล็ม อัล ดาวซารี่ สบโอกาสขอลองส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ หน้ากรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่าทิศทางยังใช้ไม่ได้ สุดท้ายเหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปไกล ไม่ได้ลุ้น

นาที 43

เชลซี บุกขึ้นมาใหม่ทางกราบซ้าย จังหวะนี้ มาร์กอส อลอนโซ่ ลากพาบอลขึ้นมาเอง ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยข้ามฟากไปที่เสาไกลให้ โรเมลู ลูกากู สอดมาเทคตัวขึ้นโขกกดลงพื้นเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดบล็อกของแนวรับอัล ฮิลัล อย่างจัง สุดท้ายออกหลังไป ได้เป็นเตะมุมแทน

นาที 44

จังหวะต่อเนื่อง เชลซี ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ฮาคิม ซีเย็ค เปิดโด่งเข้าไปลุ้นแต่โดนสกัดออกมา บอลยังไม่พ้นอันตรายกระดอนไปที่หน้าเขตโทษเข้าทาง มาร์กอส อลอนโซ่ ตัดสินใจวางเท้าหวดด้วยซ้ายเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลเหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปไกล 

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทาง ทัพสิงห์บลูส์ ที่ครอบบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดตามคาด ทีมจากอังกฤษเป็นฝ่ายพับสนาม ขึงเกมรุกบุกใส่ทีมจากซาอุดีอาระเบีย อยู่แทบจะฝั่งเดียว ยิงประตูขึ้นนำไปก่อนแล้วหนึ่งลูก สกอร์ตอนนี้ อัล ฮิลัล 0 เชลซี 1 !!!

นาที 48

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่ง เชลซี ที่เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ไค ฮาแวร์ตซ์ ติดเครื่องพาบอลทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกหาช่องไปทางมุมแคบ ก่อนจะตัดสินใจซัดเร็วด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปชนเสาแรกอย่างจัง สุดท้ายกระเด้งออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 51

อัล ฮิลัล ได้ลุ้นตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ต่อบอลทำเกมกันขึ้นมาทางกราบขวาถึง โอเดียน อิกาโล่ ในกรอบเขตโทษ ได้พักบอลดึงจังหวะรอเพื่อน ก่อนจะเลือกไหลย้อนหลังมาที่หน้ากรอบตั้งให้ โมฮาเหม็ด คานโน่ ขอลองส่องไกลสวนเน้น ๆ ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล

นาที 55

เชลซี ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย จังหวะนี้ มัตเตโอ โควาซิช เปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า โฉบมาเทคตัวขึ้นโขกสะบัดเน้น ๆ ส่งบอลถากเสาไกลขวามือ กระดอนพื้นหลุดออกหลังไปเอง ชนิดได้เสียวทีเดียว

นาที 60

เกมดำเนินมาครบหนึ่งชั่วโมง เชลซี ตั้งเกมบุกกันขึ้นมาใหม่อีกระลอก จังหวะนี้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เปิดบอลโด่งเข้าไปในเขตโทษให้ โรเมลู ลูกากู โหม่งตั้งย้อนกลับมาที่หน้ากรอบให้ ฮาคิม ซีเย็ค ได้วิ่งมาบรรจงฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ สวนเข้าไป ส่งบอลพุ่งแรงไปถูก อับดุลลาห์ อัล มายุฟ ผู้รักษาประตูอัล ฮิลัล  ผวาปัดออกไปได้ทัน

นาที 63

อัล ฮิลัล มีโอกาสได้ลุ้นประตูตีเสมอเหมือนกัน จังหวะนี้ มาเธอุส เปเรยร่า แทงบอลทะลุช่องคิลเลอร์พาสเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ มุสซ่า มาเรก้า ได้วิ่งสอดหลุดเข้าไปวางเท้าซัดจ่อ ๆ ที่หน้าเสาแรก ทว่าเป็น เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ผู้รักษาประตูเชลซี พุ่งออกมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวเซฟเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 67

เชลซี ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา จังหวะนี้ ฮาคิม ซีเย็ค บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้เทคตัวขึ้นโหม่งเหน่ง ๆ ส่งบอลน้ำหนักเบาแถมยังไปตรงตัวของ อับดุลลาห์ อัล มายุฟ ผู้รักษาประตูอัล ฮิลัล รับเอาไว้ได้สบาย

นาที 68

อัล ฮิลัล ตัดบอลได้แล้วโต้กลับเร็วขึ้นมา จังหวะนี้ มุสซ่า มาเรก้า กระชากพาบอลขึ้นมาเองถึงทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะครอสเลียดหักเข้าในให้ โอเดียน อิกาโล่ ถอยมาซัดติดบล็อกกระเด้งกลับมาเข้าทางเจ้าตัว เลือกไหลย้อนนิ่ม ๆ มาที่หน้ากรอบให้กับ โมฮาเหม็ด คานโน่ วิ่งมาสับไกเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่าทิศทางยังไม่หนีตัวเท่าไหร่ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ผู้รักษาประตูเชลซี พุ่งปัดทิ้งออกหลังไปได้ทัน

นาที 70

อัล ฮิลัล ได้ลุ้นอีกครั้งติด ๆ กัน จังหวะนี้ โมฮาเหม็ด คานโน่ ตรงกลางจ่ายมาที่หน้าเขตโทษให้ มาเธอุส เปเรยร่า พลิกบอลบรรจงซัดไกลนอกกรอบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปเฉียดเสาไกล กระดอนหลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 74

อัล ฮิลัล ได้ลูกเตะมุม จังหวะนี้ มาเธอุส เปเรยร่า บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่เสาแรก แล้วเป็น จาง ฮุน ซู สลัดตัวประกบ วิ่งเบียดกับเพื่อนตัวเอง ได้เทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ โดนไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ส่งบอลหลุดออกหลังไปไม่ไกล ได้เสียวเหมือนกัน

นาที 80

เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เชลซี บุกขึ้นมาได้ลุ้น จังหวะนี้ โรเมลู ลูกากู วิ่งเต็มสปีดตามมาเก็บบอลได้ในแดนคู่ต่อสู้ เจ้าตัวลากพาบอลเข้าเขตโทษ ล็อคดึงจังหวะรอเพื่อน ก่อนจะไหลนิ่ม ๆ ตั้งให้ เมสัน เม้าท์ ที่วิ่งสอดตามขึ้นมา ได้วางเท้าซัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปแฉลบแนวรับคู่แข่ง สุดท้ายกระดอนออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม

หมดเวลาการแข่งขัน เชลซี ปิดจ็อบเฉือนเอาชนะ อัล ฮิลัล ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 !!! ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศพบกับ พัลเมราส ในคืนวันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ที่จะถึงนี้ ได้สำเร็จ