เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น เชลซี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล มาเล่นในระบบ 3-4-2-1 นำทีมโดย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองกลางตัวรับจอมขยัน เมสัน เม้าน์ท เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม และ ไค ฮาแวร์ตซ์ กองหน้าตัวจบสกอร์ของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มิดฟิลด์ห้องเครื่องกัปตันทีม โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ปีกกึ่งกองหน้าตัวจี๊ด และ ซาดิโอ มาเน่ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
นาที 6
เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะสวนกลับเร็ว ซาดิโอ มาเน่ พาบอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสเข้าไปที่กลางประตูให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้โฉบเบียดกับ ติอาโก้ ซิลวา สุดท้ายได้ซัดแต่ติดเซฟของ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผวาปัดทิ้งพ้นอันตรายได้ทัน
นาที 7
เจ้าถิ่น ทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ได้ทักทายบ้าง แถมเกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ความผิดพลาดของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ สกัดเคลียร์ไม่ดีไปติดบล็อกของ ไค ฮาแวร์ตซ์ กระเด็นกระดอนกลับเข้าไปที่หน้าประตูเข้าทาง คริสเตียน พูลิซิช ได้หลุดเดี่ยวแต่ช้าไปนิด เจ้าตัวพยายามจะแตะหนีแต่ไม่ผ่าน ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่อ่านเกมได้ขาด พุ่งออกมาได้ไว ปัดรวบจากเท้าได้ทันเวลา
นาที 9 GOAL!!!
ทีมเยือน ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วตั้งแต่ไก่โห่เป็น 1-0 !!! จากจังหวะเริ่มที่ ดีโอโก้ โชต้า เปิดบอลพุ่งต่ำจากทางกราบขวาไปที่หน้าหัวกระโหลก แล้วเป็น เทรโวห์ ชาโลบาห์ พยายามจะก้มตัวโหม่งสกัดแต่ผิดเหลี่ยม กลายเป็นแจกส้มตั้งให้ ซาดิโอ มาเน่ โฉบไปเกี่ยวบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะล็อคหนี เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น แล้วซัดด้วยซ้ายโล่ง ๆ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือ
นาที 18
เจ้าถิ่น เชลซี ตั้งเกมบุกกันขึ้นมาใหม่ จังหวะนี้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ พาบอลขึ้นมาจากกลางสนามแล้วป้ายออกไปทางริมเส้นฝั่งขวาให้ เมสัน เม้าน์ท เจ้าตัวบรรจงเปิดบอลโด่ง ข้ามแนวรับไปที่หน้าเสาไกลให้ถึง มาร์กอส อลอนโซ่ วิ่งสอดง้างเท้ามาแต่ไกล ได้หวดตูมเดียวเน้น ๆ ด้วยซ้ายแบบไม่จับ ส่งบอลเหินข้ามคานออกไปไกล แบบไม่ได้ลุ้นเลย
นาที 21
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ เจมส์ มิลเนอร์ แทงบอลทะลุช่องให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้วิ่งสอดหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ก่อนจะยิงไม่ผ่านไปติดเซฟอย่างน่าเสียดาย สุดท้ายมีธงล้ำหน้ายกตามขึ้นมา ถ้าเข้าก็อาจจะไม่ได้ประตูอยู่ดี แต่เจ้าตัวก็เสียความมั่นใจไปไม่น้อย
นาที 26 GOAL!!!
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! จากจังหวะ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ บรรจงตักบอลทะลุช่องข้ามแนวรับไปยังริมกรอบฝั่งขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ วิ่งสอดตัดหลังแนวรับไปแต่งบอลเข้าเขตโทษ เจ้าตัวโยกหนี มาร์กอส อลอนโซ่ ลากจี้ไปที่เสาแรกอย่างสวย ก่อนจะหลอกยิงยัดมุมแคบ เอี้ยวตัวแปด้วยซ้ายเน้น ๆ สวนตัว เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เบียดเสาใกล้ขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเหนือชั้น
นาที 32
เจ้าถิ่น เชลซี เกือบมีนักเตะซวยโดนใบแดง เป็นจังหวะ เมสัน เม้าน์ท เจตนาเล่นนอกเกมไปสอยใส่ คอสตาส ซิมิคาส ร่วงลงไปตอนไม่มีบอล อีกทั้งยังมีลูกแถม ผู้เล่นสิงห์บลูส์พยายามโวยวายฟ้อง ทว่าโชคยังดีที่ แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ผู้ตัดสินในเกมนี้ รอฟังสัญญาณ VAR สุดท้ายยังใจดี ไม่ได้ว่าอะไร ผายมือให้เกมดำเนินต่อไป
นาที 36
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูเพิ่ม เป็นจังหวะ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เจ้าเก่า แทงทะลุช่องคิลเลอร์พาสให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ คนเดิม ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่เป็น อันโตนิโอ รือดิเกอร์ พุ่งเข้ามาสกัดทำลายจังหวะได้สวย ทว่าดาวเตะชาวอียิปต์ยังตามมาเอาบอล ก่อนจะลากไปหาช่องยิงจนได้ สุดท้ายซัดไปติดบล็อกของ ติอาโก้ ซิลวา กระดอนออกหลังไป ได้เป็นเตะมุมแทน
นาที 42 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ทัพสิงห์บลูส์ เชลซี มาได้ประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 !!! จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกบริเวณสุดเส้นหลังฝั่งขวา มาร์กอส อลอนโซ่ บรรจงเปิดลึกมาที่หน้าประตูโดน ควีวิน เคลเลเฮอร์ นายทวารทีมเยือน ชกทิ้งลอยโด่งออกมาที่หน้าหัวกระโหลกเข้าทาง มาเตโอ โควาซิช ค่อย ๆ ถอยมาตั้งป้อม ก่อนจะกดลูกยิงใบไม้ร่วงแบบไม่จับด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงแล้วฮุคลงไปเช็ดเสาแรกขวามือ กระเด้งเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 45+1 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ทัพสิงห์บลูส์ เชลซี มาได้ประตูตีเสมอเป็น 2-2 !!! จากจังหวะ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ชิงจังหวะสกัดลอยมาที่กึ่งกลางสนามฝั่งซ้ายเข้าทาง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ถอยกลับตัวมาดีดบอลทะลุช่องตามน้ำเข้าไปยังพื้นที่ว่างหน้าเสาแรกซ้ายมือ แล้วเป็น คริสเตียน พูลิซิช สปีดฉีกหนี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไปถึงบอล ก่อนจะหลุดเดี่ยว ได้ล่อเป้าตวัดยิงด้วยซ้ายเน้น ๆ สวนตัวของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมเล่นกันได้อย่างสนุกสูสี ผลัดกันรุกผลัดกันรับเปิดหน้าแลกกันอย่างไม่กลัว เป็นทีมเยือน ทัพหงส์แดง ที่ออกนำไปก่อนถึงสองลูก ทว่าเจ้าถิ่น ทัพสิงห์บลูส์ ฮึดตามตีเสมอได้สำเร็จ สกอร์ตอนนี้ เชลซี 2 ลิเวอร์พูล 2 !!!
นาที 51
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพสิงห์บลูส์ เชลซี ที่ได้ลุ้นก่อน จากจังหวะ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ พาบอลแหวกขึ้นมาแล้วแทงออกซ้ายให้ มาร์กอส อลอนโซ่ ได้ลากบอลทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษ เจ้าตัวโยกหนี เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ตัดเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะตัดสินใจซัดเองเน้น ๆ ไม่ยอมส่งให้เพื่อน ทว่าบอลลอยโด่งข้ามคานออกไปไกล
นาที 51
ทีมเยือน ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล ตอบโต้ขึ้นมาหวิดได้เฮ จากจังหวะ บอลกลางสนามของ ฟาบินโญ่ บรรจงวางบอลยาวข้ามแนวรับเข้าไปในเขตโทษเข้าทาง ดีโอโก้ โชต้า สอดมาเก็บบอลลงเอาไว้ได้ ก่อนจะหวดเร็วด้วยซ้ายเน้น ๆ แต่เป็น เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น อ่านเกมได้ไว ปิดมุมได้เร็ว ผวาล้มตัวปัดทิ้งออกหลังไปได้อย่างเหลือเชื่อ
นาที 57
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูขึ้นนำอีกหน เป็นจังหวะ ตัดบอลได้จากลูกเตะมุมแล้วสวนกลับเร็ว ดีโอโก้ โชต้า ใช้ตัวบังพลิกบอลชิงเหลี่ยมได้สวยตรงวงกลมกลางสนาม เจ้าตัวไหลเร็วต่อให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ สอดมาเกี่ยวบอล กระชากขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะตะบันทีเผลอเน้น ๆ ด้วยซ้ายนอกกรอบ ระยะกว่า 35 หลา ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย ทำท่ากำลังจะเสียบเสาซ้ายมือเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น เอดูอาร์ เมนดี้ นายทวารเจ้าถิ่น โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาบินไปปัดปลายมือเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 58
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ทำชิ่งกันขึ้นมาได้สวยถึง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ถอยมาเชื่อมบอลดีดต่อให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้ลากหนี ติอาโก้ ซิลวา ทะลุเข้าเขตโทษอย่างสวย ก่อนจะก้มหน้าตวัดยิงด้วยขวาเน้น ๆ ยัดไปที่เสาแรก ทว่าก็ยังไม่ผ่านเซฟของ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี ป้องกันเอาไว้ได้อีกหน
นาที 62
เจ้าถิ่น เชลซี เกือบได้ประตูขึ้นนำบ้าง เป็นจังหวะ มาร์กอส อลอนโซ่ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะบรรจงครอสเข้าไปที่กรอบ 6 หลา แล้วก็เป็น คริสเตียน พูลิซิช โฉบตัดหน้า คอสตาส ซิมิคาส ได้สอดมาซัดตามน้ำเน้น ๆ แต่ต้องชม ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ก็เหนียวไม่แพ้กัน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ปัดทิ้งเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 69
เกมเข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ทั้งสองทีมแก้เกมกันได้อย่างทันกัน เจ้าถิ่น เชลซี ถอดเอา เทรโวห์ ชาโลบาห์ กองหลังดาวรุ่งออก แล้วจัดการส่ง จอร์จินโญ่ ลงมาสร้างสรรค์เกมในแดนกลางแทน ส่วนทางด้านทีมเยือน ลิเวอร์พูล ถอดเอา เจมส์ มิลเนอร์ กับ ดีโอโก้ โชต้า ออกไปพัก ก่อนจะจัดการส่ง นาบี เกอิต้า และ อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ลงมาช่วยเกมบุกแทน
นาที 72
เจ้าถิ่น เชลซี บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ คริสเตียน พูลิซิช พาบอลตัดจากขวาเข้ากลางมาถึงหน้าเขตโทษ เจ้าตัวเห็นช่อง ตัดสินใจหวดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัวแต่โด่งเกินไปนิด เหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเอง ชนิดได้เสียว
นาที 82
เจ้าถิ่น เชลซี ได้ลุ้นอย่างต่อเนื่อง จากจังหวะ ลูกฟรีคิกระยะอันตราย ประมาณ 25 หลา หน้ากรอบเขตโทษ เยื้อง ๆ ไปทางซ้าย แล้วเป็น เมสัน เม้าน์ท รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ติดกำแพง ก่อนจะได้หวดซ้ำอีกที แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะผ่านมือของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย
นาที 87
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น เชลซี ได้ลุ้นประตูส่งท้าย จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย เมสัน เม้าน์ท บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่เสาไกล แล้วเป็น อันโตนิโอ รือดิเกอร์ สบโอกาสถอยมาโขกกดลงพื้นเหน่ง ๆ ส่งบอลถากเสาขวามือ หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย