“เนเธอร์แลนด์” นำสองลูกโดน “ยูเครน” ฮึดท้ายเกม พลิกมาชนะสุดมันส์ 3-2

เกมการแข่งขัน ระหว่าง ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ กับทีมชาติ ยูเครน ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 โดยเล่นกันที่สนาม โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า, กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในคืนวันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา

เกมนี้ ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ แฟร้งค์ เดอ บัวร์ มาเล่นในระบบ 5-3-2 นำทีมโดย สเตฟาน เดอ ฟราย กองหลังดาวโรจน์จากยูเวนตุส จอร์จินโย่ ไวนัลดุม กองกลางห้องเครื่องจากปารีส แซงต์ แชร์กแมง และ เมมฟิส เดอ ปาย กองหน้าจอมลีลาตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมชาติ ยูเครน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ อังเดร เชฟเชนโก้ มาเบ่นในระบบ 4-1-4-1 นำทีมโดย อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ปีกตัวทำเกมจากเวสต์แฮม ยูไนเต็ด โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ กองหลังสารพัดประโยชน์จากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ รุสลัน มาลินอฟสกี้ กองกลางห้องเครื่องตัวเก่งจากอตาลันต้า

นาที 2

เปิดฉากมา ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ก็ได้ทักทายก่อนเลย เป็นจังหวะตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ จ่ายบอลพลาดโดน เมมฟิส เดอ ปาย ฉกบอลไปได้ แล้วเลี้ยงแหวกขึ้นมาเอง จากกลางสนามถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะโชว์ความพลิ้ว แตะลอดหว่างขาแนวรับยูเครน พาบอลหลุดเข้าไปเขตโทษ ได้กดเร็วด้วยซ้ายเน้น ๆ ไปติดเซฟของ จอร์จ บุชเชน ผู้รักษาประตูยูเครน ที่วิ่งออกมาปิดมุมได้ไว บล็อกไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 3

จังหวะต่อเนื่องถัดมานิดเดียว เป็นทางฝั่งทีมชาติ ยูเครน ได้ตอบโต้ขึ้นมาทันควัน เป็นจังหวะที่ อังเดร ยาร์โมเลนโก้ พาหลุดขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะครอสบอลโด่งเข้าในเขตโทษ ติดแนวรับเนเธอร์แลนด์ สกัดออกหลังไปได้ก่อนหวุด จากนั้นจังหวะต่อเนื่อง ยูเครน ได้เป็นลูกเตะมุมทางฝั่งขวา รุสลัน มาลินอฟสกี้ เปิดปั่นโค้ง ลึกไปเสาไกลซ้ายมือเข้าหัว อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ได้โขกเหน่ง ๆ แต่ทำบอลหลุดกรอบ ออกไปเอง อย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 6

อัศวินสีส้ม ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะสาดโด่งเข้าเขตโทษ แล้วเกิดชุลมุน บอลกระดอนมาเข้าทาง จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ที่หน้ากรอบ 6 หลา ได้จ่ายบอลไปที่หน้าเสาขวามือให้ เดนเซล ดุมฟรายส์ สอดมาแปจ่อ ๆ เต็ม ๆ แต่ก็ยังไปติดเซฟของ จอร์จ บุชเชน ผู้รักษาประตูยูเครน ที่ยืนตำแหน่งได้ดี เขยิบออกมาปิดมุม ช่วยทีมเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 7

เกมเปิดแลกกันอย่างสนุกตั้งแต่ต้นเกม จังหวะนี้  เดนเซล ดุมฟรายส์ แบ็คขวาจอมบุกของเนเธอร์แลนด์ พาบอลลุยผ่านผู้เล่นยูเครน หลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนตบย้อนเข้ากลางประตูไปให้กับ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ได้สอดมาซัดด้วยขวาเน้น ๆ แต่โดนบอลไม่ดี ลอยเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว อย่างน่าเสียดาย

นาที 15

ยูเครน ได้ตอบโต้ขึ้นมาได้จบเหน่ง ๆ ครั้งแรกของเกม เป็นจังหวะ โรมัน ยาเร็มชุค สปีดขึ้นไปเก็บบอลได้บริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะกระชากตัดเข้าใน ได้แต่งหาช่อง แล้วตะบันด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ ระยะประมาณ 18 หลา แต่ทว่า บอลเบาแถมยังไปตรงตัวของ มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก ผู้รักษาประตูเนเธอร์แลนด์ รับไว้ได้สบาย

นาที 27

เนเธอร์แลนด์ น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ประสานงานทำชิ่งกันขึ้นมาได้สวย แล้วเป็น เมมฟิส เดอ ปาย จ่ายบอลทะลุช่องตัดหลังแนวรับให้ วูท เวกฮอร์สท์ ได้วิ่งสอดเข้าไปเอาบอลในเขตโทษ กำลังจะได้หลุดเดี่ยวง้างเท้าซัดอยู่แล้ว แต่ต้องชม จอร์จ บุชเชน ผู้รักษาประตูยูเครน ที่อ่านเกมได้เยี่ยม วิ่งออกมาคว้าบอลออกไว้ได้ทัน 

นาที 28

ถัดมาแค่นาทีเดียว เป็นฝั่ง ยูเครน ที่ได้ตอบโต้สวนกลับขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ โรมัน ยาเร็มชุค ถ่างออกมารับบอลบริเวณกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่เจ้าตัวจะตอกส้นเร็วเข้าเขตโทษให้ อังเดร ยาร์โมเลนโก้ สอดมาเกือบได้ซัดเร็วที่เสาแรกขวามือ แต่โดน แพทริค ฟาน อานโฮลท์ ตามลงมาช่วยแซะจนร่วงลงไป ผู้ตัดสิน เฟลิกซ์ บรีช จากเยอรมัน ยังใจแข็ง ไม่เป่าให้เป็นจุดโทษ และยังให้เล่นต่อไป

นาที 37

ท้ายครึ่งแรก อัศวินสีส้ม เนเธอร์แลนด์ โหมหนักใส่ยูเครน อย่างหนัก จังหวะนี้ บอลมาทางซ้ายตั้งที่ เมมฟิส เดอ ปาย ได้บรรจงตักบอลโด่งเข้าเขตโทษโดนแนวรับ ยูเครน โหม่งสกัดออกมาได้ บอลลอยออกไปที่หน้าเขตโทษเข้าทาง จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ได้หวดด้วยขวาสวนกลับเข้าไป แต่บอลพุ่งไปแฉลบแนวรับยูเครน เปลี่ยนทางเกือบเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ จอร์จ บุชเชน ผู้รักษาประตูยูเครน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดบอล ออกมาจากเส้นประตู ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

นาที 39

เนเธอร์แลนด์ บุกหนักอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เมมฟิส เดอ ปาย ได้บอลทางกราบซ้าย ดึงจังหวะรอเพื่อน ก่อนจะเงยหน้ามอง แล้วตั้งป้อมบรรจงเปิดปั่นบอลโค้งไปที่หน้าเสาไกลขวามือให้ เดนเซล ดุมฟรายส์ ได้โฉบมาโขกจ่อ ๆ แบบไร้ตัวประกบ แต่เจ้าตัวบังคับทิศทางบอลไม่ดี บอลหลุดเสาออกหลังไป อย่างน่าผิดหวังเหลือเกิน

นาที 45

ยูเครน ได้ลุ้นเฮือกสุดท้ายก่อนหมดเวลาครึ่งแรก เป็นจังหวะสวนกลับเร็วขึ้นมา มาร์ลอส ตัวสำรอง เลี้ยงจี้ขึ้นมาหน้าเขตโทษ ก่อนจะแทงบอลยัดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ โรมัน ยาเร็มชุค เก็บบอลไว้กับตัว ก่อนจะตอกส้นเข้ากลางให้ อังเดร ยาร์โมเลนโก้ สอดมายกบอลหลบแนวรับเนเธอร์แลนด์ แต่จังหวะสุดท้ายไม่เหลือมุมยิง เพราะ มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก ผู้รักษาประตูเนเธอร์แลนด์ วิ่งออกมาปิดมุม บล็อคช่วยทีมได้ทันหวุดหวิด

หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมเล่นกันได้อย่างสนุกสูสี เกมเปิดแลกกันอย่างไม่กลัว และเป็นทาง ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ที่ดูวูบวาบน่ากลัวกว่าในจังหวะสุดท้าย แต่ทางฝั่ง ทีมชาติ ยูเครน ก็ตั้งรับแล้วสวนกลับ มาได้จบอยู่หลายครั้งเช่นกัน สุดท้ายยังคงทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์อยู่ที่ เนเธอร์แลนด์ 0 ยูเครน 0 !!!

นาที 52 GOAL!!!

เริ่มเกมครึ่งหลังมาได้ไม่นาน เป็นทางอัศวินสีส้ม เนเธอร์แลนด์ ได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 !!! เป็นจังหวะ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม สอดหลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะปาดเลียดมาที่กลางประตูจะให้เพื่อนได้เข้าชาร์จ แต่เป็น จอร์จ บุชเชน ผู้รักษาประตูยูเครน ที่ออกมาตัดบอลไม่ดี ไหลออกมาที่หัวกระโหลกเข้าทาง จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม วิ่งมาแปด้วยซ้ายเน้น ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 53

หลังจากได้ประตูขึ้นนำ ทีมอัศวินสีส้ม เนเธอร์แลนด์ ก็เดินเกมรุกต่อเนื่องทันที จังหวะนี้ วูท เวกฮอร์สท์ โชว์ความสามารถเฉพาะตัว พลิ้วขึ้นมาทางขวา ก่อนจะเลี้ยงตัดเข้าในมาถึงหน้าเขตโทษ โยกหาจังหวะแต่งบอลเข้าซ้าย แล้วซัดเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงและติดไซด์ก้อยไป ที่เสาไกลซ้ายมือ แต่ยังไม่มุมพอ จอร์จ บุชเชน ผู้รักษาประตูยูเครน ทะยานไปตะปปเอาไว้ได้ อย่างไม่ยากเย็น

นาที 58 GOAL!!!

เนเธอร์แลนด์ มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 เป็นจังหวะบุกขึ้นมาตรงกลาง เริ่มที่ แฟรงกี้ เดอ ยอง แทงบอลออกไปทางขวาให้ เดนเซล ดุมฟรายส์ ได้ลากจี้เข้าเขตโทษฝั่งขวา หลุดไปถึงสุดเส้นหลังแต่สุดท้ายโดน มิโคลา มัตวิเยนโก้ แนวรับยูเครน สกัดบอลแบบติดประมาท ยกบอลไปเข้าทาง วูท เวกฮอร์สท์ ที่หน้าเสาแรกขวามือ ได้ตะบันด้วยขวายัดมุมแคบที่เสาแรก ไปแฉลบต้นขา จอร์จ บุชเชน ผู้รักษาประตูยูเครน นิดนึง แต่ด้วยความแรง บอลปลิ้นเข้าประตูไปเสยตาข่าย ไม่เหลือซาก

นาที 75 GOAL!!!

ยูเครน มาได้ประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะ อังเดร ยาร์โมเลนโก้ เลี้ยงจี้ขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะจ่ายบอลยัดไปในเขตฝั่งขวาให้ โรมัน ยาเร็มชุค ที่ยืนหันหลังให้ประตูได้ทำชิ่ง 1-2 ไหลคืนกลับมาให้เจ้าตัวที่วิ่งสอดมารอที่หัวกระโหลก ได้บรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก ผู้รักษาประตูเนเธอร์แลนด์ เสียบสามเหลี่ยมซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงามสุด ๆ

นาที 79 GOAL!!!

ยูเครน มาตามตีเสมอได้สำเร็จเป็น 2-2 !!! เป็นจังหวะ ได้ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษทางกราบซ้าย รุสลัน มาลินอฟสกี้ บรรจงเปิดปั่นบอลโค้งเข้าไปยังพื้นที่ว่างตรงกลางประตู แล้วเป็น โรมัน ยาเร็มชุค วิ่งโฉบแหวกตรงกลางท่ามกลางแนวรับเนเธอร์แลนด์ ไปโหม่งสะบัดจ่อ ๆ ที่หน้าประตูเสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม หมดสิทธิ์สำหรับ มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก ผู้รักษาประตูเนเธอร์แลนด์ ได้แต่ยืนขาตาย

นาที 85 GOAL!!!

อัศวินสีส้ม เนเธอร์แลนด์ มายิงประตูขึ้นนำได้อีกครั้งเป็น 3-2 !!! เป็นจังหวะ นาธาน อาเก้ ดันสูงขึ้นมารับบอลบริเวณมุมกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงครอสบอลโด่งโค้งลึกไปที่เสาไกลให้ เดนเซล ดุมฟรายส์ ได้โฉบตัดหน้า โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ขึ้นโหม่งสะบัดเน้น ๆ กระเด้งพื้นผ่านมือ จอร์จ บุชเชน ผู้รักษาประตูยูเครน เสียบเสาขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ เฉือนเอาชนะทีมชาติ ยูเครน ไปได้อย่างสุดมันส์ 3-2 !!! รั้งอันดับที่ 2 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะต้องพบกับทีมชาติ ออสเตรีย ในวันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน ส่วนทางด้าน ทีมชาติ ยูเครน รั้งอันดับที่ 3 ของตารางคะแนน นัดต่อไปจะพบกับทีมชาติ มาซิโดเนียเหนือ ในวันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน ที่จะถึงนี้