โปแลนด์สิบตัวต้านไม่ไหวโดน “สโลวาเกีย” เฉือนชนะไป 2-1

เกมการแข่งขัน ระหว่างทีมชาติ โปแลนด์ กับทีมชาติ สโลวาเกีย ในศึกฟุตบอลแห่งชาติแห่งชาติยุโรป ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรกของ กลุ่ม อี โดยเล่นกันที่สนาม เครสตอฟสกี้ สเตเดี้ยม, กรุงเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ในคืนวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา

เกมนี้ ทีมชาติ โปแลนด์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เปาโล ซูซ่า มาเล่นในระบบ 3-5-2 นำทีมโดย ยาน เบดนาเร็ค ปราการหลังตัวแกร่งจากเซาธ์แฮมป์ตัน มาเตอุสซ์ คลิช กองกลางห้องเครื่องจากลีดส์ ยูไนเต็ด และโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์จากบาเยิร์น มิวนิค

ขณะที่ทางฝั่งทีมชาติ สโลวาเกีย ภายใต้การคุมทีมของ สเตฟาน ทาร์โควิช มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตูจอมหนึบจากนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มิลาน สคริเนียร์ ปราการหลังพันธุ์แกร่งจากอินเตอร์ มิลาน และ มาเร็ค ฮัมซิค เพลย์เมกเกอร์จอมทัพจากแทร็ปซอนสเปอร์

นาที 10

ช่วงต้นเกม เป็นทางทีมชาติ โปแลนด์ ที่ทำได้ดีกว่าตามคาด เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า และเปิดเกมรุกบุกใส่ทีมชาติ สโลวาเกีย อย่างต่อเนื่อง ส่วนสโลวาเกียเอง ก็ยังไม่มีข้อผิดพลาดใด ๆ ตั้งเกมรับได้อย่างเหนียวแน่นไม่แพ้กัน

นาที 14

สโลวาเกีย มีมีโอกาสได้ลุ้นประตู เป็นจังหวะที่ ออนเดรจ์ ดูด้า สปีดตามมาเกี่ยวบอลลงไว้ได้ ที่บริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะเลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย โยกหลอกตัวประกบหาช่อง แล้วยิงเร็วด้วยซ้ายยัดมุมแคบไปที่เสาแรกทันที แต่บอลพุ่งเสียบหน้าต่างข้างตาข่าย ออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 18 GOAL!!!

สโลวาเกีย ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 !!! เป็นจังหวะ โทมัส ฮูโบชาน ดันสูงเติมเกมรุกมาช่วยบุกทางกราบซ้าย ไหลสั้นขึ้นหน้าขนาดเส้นไปที่ โรเบิร์ต มัค ได้โชว์ความสามารถเฉพาะตัว ลากเลื้อยแหวกสองผู้เล่นโปแลนด์ไปได้สวย หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะบรรจงยิงเน้น ๆ ยัดมุมแคบไปที่เสาแรกทันที แต่บอลพุ่งไปชนเสากระเด้งมาโดนหัวของ วอยเชียค เชสนี่ ผู้รักษาประตูโปแลนด์ ที่พยายามจะล้มตัวปัดกระดอนเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย แบบงงๆ ซึ่งทางยูฟ่าตัดสินให้เป็นการทำเข้าประตูตัวเอง ของจอมหนึบรายนี้ จากยูเวนตุสอีกด้วย

นาที 25

เกมผ่านมาได้ครึ่งทางของครึ่งแรก ทีมชาติ โปแลนด์ โหมบุกอย่างหนักหวังตีเสมอให้ได้ แต่จังหวะเข้าทำให้ในพื้นที่สุดท้ายยังไม่มีให้เห็น ทำได้แค่ขึงเกมรุกอยู่หน้าเขตโทษ แต่ไม่สามารถเจาะแนวรับสโลวาเกีย เข้าไปจบเหน่ง ๆ ได้เลย

นาที 27

สโลวาเกีย ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมา โยนบอลยาวเข้าเขตโทษ โดนแนวรับโปแลนด์ เคลียร์ทิ้งออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง ยูราจ์ คุชก้า ตามขึ้นมาเก็บบอลแถวสองได้ ก่อนจะขอลองส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงและติดส่ายมุดลง เฉียดคานออกไปนิดเดียว แบบได้ลุ้นสุด ๆ

นาที 33

สโลวาเกีย ตั้งรับแล้วสวนกลับได้น่ากลัวสุด ๆ จังหวะนี้ มาเร็ค ฮัมซิค กระชากพาบอลขึ้นมาเอง ก่อนจะฝากไปที่ ปีเตอร์ เปคาริค แบ็คขวาจอมบุกที่เติมเกมสูงขึ้นมา ได้บรรจงเปิดบอลจากทางกราบขวา เข้าไปกลางเขตโทษให้ ยูราจ์ คุชก้า ได้สปีดสอดเทคตัวขึ้นไปโหม่งเต็ม ๆ แต่บอลไม่ค่อยมีน้ำหนักแถมยังไปตรงตัวของ วอยเชียค เชสนี่ ผู้รักษาประตูโปแลนด์ รับเข้ามือไว้ได้สบาย

นาที 34

โปแลนด์ ตอบโต้สวนกลับเร็วขึ้นตรงกลาง จังหวะนี้  เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวี๊ยค เห็นช่อง เลยขอลองซัดไกลด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ ระยะเกือบ 25 หลา บอลพุ่งแรงทิศทางเข้าหากรอบ แต่สุดท้ายลอยสูง เหินข้ามคานออกไปนิดเดียว ได้ลุ้นเหมือนกัน

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมชาติ โปแลนด์ ที่ครองบอลได้มากกว่า เปิดเกมรุกเข้าใส่เยอะกว่า แต่ก็เจาะแนวรับสโลวาเกียไม่เข้า สุดท้ายเจอเกมตั้งรับอันเหนียวแน่น และจังหวะสวนกลับเร็วของทีมชาติ สโลวาเกีย เล่นงานเข้าให้ ถึงกับไปไม่เป็น โดนทีมชาติ สโลวาเกีย ยิงนำไปก่อนแล้ว 1-0 !!!

นาที 46 GOAL!!!

เริ่มครึ่งหลังมาได้แปปเดียวไม่ถึงหนึ่งนาที เป็นทีมชาติ โปแลนด์ ที่มาตามตีเสมอได้สำเร็จเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะ มาเตอุสซ์ คลิช ไหลบอลออกไปทางซ้ายให้ มาเซจ ไรบุส ที่สอดขึ้นมารับบอลที่สุดเส้นหลัง ก่อนจะปาดบอลเลียดเข้าไปตรงกลางเขตโทษให้ คาโรล ลิเน็ตตี้ วิ่งเข้าไปแปด้วยซ้ายเน้น ๆ เล่นทาง พุ่งกระดอนพื้นหนีมือ มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตูสโลวาเกีย เสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างเฉียบคม

นาที 51

โปแลนด์ บุกหนังหวังจะคว้าสามคะแนนให้ได้ จังหวะนี้ คามิล ยอซเวี๊ยค จ่ายบอลขนานเส้นขึ้นมาทางฝั่งขวา บอลมาถึง มาเตอุสซ์ คลิช ที่ถ่างออกมาเอาบอลที่ด้านข้างของกรอบเขตโทษ ก่อนจะตั้งป้อมครอสเข้าไปที่หน้าประตูให้ คาโรล ลิเน็ตตี้ ที่ตั้งป้อมรออยู่ ได้วางเท้ายิงเน้น ๆ แต่บอลไม่หนีตัวเท่าไหร่ มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตูสโลวาเกีย ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี รับไว้ได้ทัน

นาที 62 ใบแดง!!!

โปแลนด์ ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน จากจังหวะที่ เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวี๊ยค กองกลางห้องเครื่องคนสำคัญ ไปเข้าบอลน่าเกลียด ตั้งใจย่ำใส่ ยาคุบ ฮโรมาด้า จนร่วงลงไปนอน ผู้ตัดสินไม่รีรอ วิ่งมาชูใบเหลืองใบที่สอง กลายเป็นใบแดง ไล่อดีตกองกลางเซบีย่า ออกจากสนามไป และเจ้าตัวยังเป็นแข้งคนแรกของทัวร์นาเมนต์นี้ ที่ถูกไล่ออกจากสนามอีกด้วย 

นาที 68

หลังจากมีผู้เล่นมากกว่า เกมกลายเป็นของทีมชาติ สโลวาเกีย ที่ได้ขึงเกมรุกบุกใส่ทีมชาติ โปแลนด์ อย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ลูคัส ฮาราสลิน ตะบันด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ บอลหลุดเสาขวามือ ออกไปนิดเดียว

นาที 69 GOAL!!!

สโลวาเกีย มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะ ได้เตะมุมทางฝั่งขวา โรเบิร์ต มัค บรรจงเปิดบอลโค้งมาที่เสาแรก แล้วเป็น มาเร็ค ฮัมซิค วิ่งโฉบมาโหม่งเช็ดบอลไปที่กลางประตูเข้าทาง มิลาน สคริเนียร์ ได้จับบอลแล้วซัดเร็ว พุ่งหนีมือ วอยเชียค เชสนี่ ผู้รักษาประตูโปแลนด์ เสียบตาข่ายเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างเฉียบคม

นาที 75

โปแลนด์ ไม่มีอะไรจะเสีย ถึงตัวผู้เล่นจะน้อยกว่า แต่สถานการณ์บังคับให้ต้องเปิดเกมรุกเข้าใส่สโลวาเกีย อย่างหนัก แต่จังหวะสุดท้าย ก็ยังเจาะแนวรับเข้าไปจบสกอร์ไม่ได้อยู่ดี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงตัวเก่ง วันนี้ ได้บอลแทบจะนับครั้งได้เลย

นาที 84

โปแลนด์ ลุยใส่อย่างหนัก จังหวะนี้ ได้เตะมุมทางฝั่งขวา ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ โยนโด่งเข้าไปที่หน้าประตู บอลโดนแนวรับสโลวาเกียโหม่งเคลียร์สกัดออกมาได้ บอลลอยออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง ไทมุสเตอุส ปูแคตช์ ตัวสำรอง ได้วิ่งมาซัดไกลด้วยขวานอกกรอบเขตโทษสวนเข้าไป แต่บอลพุ่งแรงเฉียดเสาไกลซ้ายมือออกไป อย่างน่าเสียดาย

นาที 88

โปแลนด์ บุกหนักอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย ยาคุบ โมเดอร์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา เปิดบอลโด่ง โค้งเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้โฉบมาโหม่งสะบัดเต็ม ๆ แต่ก็ทำได้แค่เฉียดคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 90+1

ช่วงท้ายเกม โปแลนด์ ยังคงบุกหนัก แต่ก็ทำได้แค่โยนบอลยาวเฉียดไปเฉียดมา มีจังหวะได้ลุ้นจาก ยาน เบดนาเร็ค ที่ได้ซัดจ่อ ๆ ในช่วงชุลมุน เฉียดเสาออกไปแค่ครั้งเดียว นอกจากนั้น เป็นทางฝั่ง สโลวาเกีย ที่ยังช่วยกันยันเอาไว้ได้เป็นอย่างดี จบเกม โปแลนด์ แพ้ สโลวาเกีย 1-2 ประเดิมยูโรไม่แจ่มอย่างที่คาด

หมดเวลาการแข่งขัน ทีมชาติ สโลวาเกีย พลิกล็อกเฉือนเอาชนะทีมชาติ โปแลนด์ ไปได้อย่างสนุก 2-1 !!! คว้าสามคะแนนสุดล้ำค่าในนัดประเดิมสนาม เขยิบขึ้นมารั้งอันดับที่ 1 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะต้องพบกับทีมชาติ สวีเดน ในวันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน ส่วนทางด้าน โปแลนด์ ร่วงมาอยู่ที่โหล่ของตารางคะแนน นัดต่อไปจะต้องพบกับทีมชาติ สเปน ในวันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน ที่จะถึงนี้