มานูเอล เปเญกรินี่ กุนซือของ เรอัล เบติส ยังคงเชื่อมั่นในทีมของเขาว่ามีโอกาสพลิกสถานการณ์ผ่าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศยูโรป้าลีกได้
พวกเขาพบกับความพ่ายแพ้ 4-1 ในเกมนัดแรกที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด และหากหวังผ่านเข้ารอบ เบติส จะต้องกลายเป็นสโมสรที่สองในประวัติศาสตร์ที่คัมแบ็คจากการมีสกอร์ตามหลัง 3 ลูก
ถึงแม้จะเป็นงานหินแต่ เปเญกรินี่ ก็ยังคงในเชื่อมั่นว่า เบติส มีโอกาสทำให้การคัมแบ็คหนนี้กลายเป็นจริงขึ้นมา
“ผมเชื่อจริงๆนะว่าในฟุตบอลน่ะ คุณไม่มีทางรู้ว่าเกมจะจบลงด้วยสกอร์ไหน” เปเญกรินี่ กล่าว
“เราไปเยือนที่โน่นมา จะแตกต่างจากการเล่นในรังเหย้าของเราโดยมีแฟนบอลของเราหนุนหลังอยู่เสมอ, ทราบมาตั้งแต่แรกว่าเราจะเล่นเจอกับทีมใหญ่และพวกเขามีทางเลือกดีๆทุกทางเพื่อผ่านเข้าสู่รอบถัดไป”
“แต่เราต้องลองตั้งแต่นาทีแรก, อันดับแรกเอาชนะให้ได้ก่อน, หลังจากนั้นพยายามยิงประตูที่เราจำเป็นต้องยิงเพื่อเข้ารอบ และถ้าทำไม่ได้, ก็ต้องมีเกมที่ดีและเอาชนะในบ้านเราให้ได้”
“ดังนั้นผมเชื่อในทีมของผมนะ, เชื่อในแฟนบอลของเราและพยายามที่จะพลิกสกอร์ไปด้วยกัน”
เกมในสัปดาห์ก่อนทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1 ในช่วงพักครึ่ง แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นฝ่ายทำได้เยี่ยมกว่าในครึ่งหลังและคว้าชัยชนะ
โค้ชชาวชิลีบอกกับลูกทีมว่าไม่ควรคิดถึงเกมนัดแรก และต้องโฟกัสกับการเล่นด้วยความได้เปรียบในฐานะเจ้าบ้าน
“เราเล่นได้พอๆกันจนกระทั่งนาที 53 นะ (แอนโทนี่ยิงได้) ประตูนั้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด, ประตูที่ยอดเยี่ยมจากนักเตะที่ดี, และหลายนาทีหลังจากนั้นลูกเตะมุมก็ปิดเกม”
“ไม่ใช่เรื่องของปัญหาสภาพร่างกาย, เป็นปัญหาด้านจิตใจมากกว่าที่เห็นสิ่งที่เราทำมา 53 นาทีหายไปในเวลาเพียงแค่ 4-5 นาที”
“ผมคิดว่าทุกเกมต่างกันนะ วันพรุ่งนี้เราต้องอย่าไปคิดถึงสกอร์จากเกมแรก เราต้องโฟกัสที่สกอร์ของเราในเกมนี้ที่รังเหย้าเรา”