“เวสต์แฮม” เปิดบ้านไล่ทุบ “เลสเตอร์” สิบตัว 4-1 !!!

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพขุนค้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เปิดสนาม ลอนดอน สเตเดี้ยม, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพจิ้งจอกสีน้ำเงิน เลสเตอร์ ซิตี้ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อค่ำคืนวันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เดวิด มอยส์ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย โธมัส ซูเช็ค มิดฟิลด์ห้องเครื่อง ซาอิด เบนราห์ม่า ตัวทำเกมจอมพลิ้ว และ มิคาอิล อันโตนิโอ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน นำทีมโดย ยูริ ตีเลอมันส์ กองกลางห้องเครื่อง ฮาวี่ย์ บาร์นส์ ปีกตัวจี๊ด และ เจมี่ วาร์ดี้ ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม

นาที 6

เริ่มเกมมา ทั้งคู่เล่นกันได้อย่างสนุกสูสี แล้วเป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ได้ทักทายก่อน จังหวะนี้ทำชิ่งกันขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษของทีมเยือน บอลสุดท้ายมาที่ ซาอิด เบนราห์ม่า เจ้าตัวของลองส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบบอลพุ่งแรงแต่ไม่หนีมือเท่าไหร่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูทีมเยือน เขยิบมารับไว้ได้สบาย

นาที 13

เจ้าถิ่น เวสต์แฮม ยังคงได้บุกต่อ จังหวะนี้ ริคาร์โด้ เปเรยร่า สกัดบอลไม่ขาด บอลลอยออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง เดแคลน ไรซ์ ได้แต่งหาช่อง ก่อนจะปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงโค้งสวย เหินเฉียดคานออกไปนิดเดียว แบบได้ลุ้นทีเดียว

นาที 16

เจ้าถิ่น เวสต์แฮม ตัดบอลได้แล้วโต้กลับเร็วขึ้นมาตรงกลางสนาม มิคาอิล อันโตนิโอ ชิงเหลี่ยมพลิกบอล ติดเครื่องกระชากด้วยความเร็วขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะปิดจ็อบด้วยการซัดด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อ ส่งบอลหลุดกรอบ ผิดเหลี่ยมลอยออกหลังไปเอง อย่างน่าเสียดาย

นาที 26 GOAL!!!

เจ้าถิ่น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะเริ่มที่ เจมี่ วาร์ดี้ จ่ายบอลพลาดทำเสียบอลตรงกลางสนาม เดแคลน ไรซ์ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วส่งต่อให้ ปาโบล ฟอร์นัลส์ ลากขึ้นมาแล้วแทงออกไปทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ซาอิด เลนราห์ม่า ได้เบิ้ลบอลเลียดจังหวะเดียวเข้าไปตรงกลางเขตโทษกลับไปให้ ฟอร์นัลส์ เจ้าเก่าที่วิ่งสอดตามขึ้นมา ซัดด้วยซ้ายไม่จับ เสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 29

เจ้าถิ่น เวสต์แฮม เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ปาโบล ฟอร์นัลส์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะครอสบอลโค้ง พุ่งไปที่เวาแรกให้ โธมัส ซูเช็ค ที่วิ่งโฉบขึ้นมา ได้โหม่งสะบัดเน้น ๆ ตัดหน้าของ แดเนี่ยล อมาร์ตีย์ เฉียดเสาแรก หลุดออกหลังไปนิดเดียว

นาที 30

ทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ บุกสวนขึ้นมาได้ลุ้นบ้าง จังหวะนี้ อโยเซ่ เปเรซ พลิ้วขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวา ก่อนจะแทงบอลทะลุช่องตัดหลังแนวรับให้ ริคาร์โด้ เปเรยร่า ได้หลุดเข้าไปซัดมุมแคบ ในกรอบเขตโทษฝั่งขวายัดเสาแรกทันที แต่บอลไม่ตรงกรอบ พุ่งเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดออกหลังไปเอง อย่างน่าเสียดาย

นาที 35

เจ้าถิ่น เวสต์แฮม ได้เตะมุมทางฝั่งขวา ปาโบล ฟอร์นัลส์ เปิดบอลโค้งเข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วเป็น เคร็ด ดอว์สัน ที่ได้เทคตัวขึ้นโหม่งเช็ดเปลี่ยนทางเฉือน ๆ ส่งบอลหลุดเสาสองขวามือ ลอยออกหลังไป แบบได้เสียว

นาที 39 ใบแดง!!!

จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของเกมก็ได้เกิดขึ้น เมื่อทีเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคน หลังจาก อาโยเซ่ เปเรซ ไปเจตนาย่ำใส่ข้อเท้าของ ปาโบล ฟอร์นัลส์ จนล้มลงไปนอนโอดโอย ทีแรก ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ผู้ตัดสินในเกมนี้ ก็ไม่ได้ว่าอะไร ก่อนจะได้รับสัญญาณ VAR จากข้างสนาม เจ้าตัวเดินไปดูอยู่นาน สุดท้ายกลับลงมา ตัดสินใจควักแดงโดยตรงให้นักเตะทีมเยือนเลสเตอร์รายนี้ ออกจากสนามไป

หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมผลัดกันรุกผลัดกันรับได้อย่างสนุกสูสี เป็นเจ้าถิ่น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ครองบอลได้มากกว่า รูปเกมก็ดูดีกว่าอยู่พอสมควร ส่วนทางทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ถ้าไม่นับความผิดพลาดลูกที่เสียประตู ก็ถือว่ายังทำได้ดี ก่อนจะเหลือผู้เล่นสิบตัว สกอร์ตอนนี้ เวสต์แฮม 1 เลสเตอร์ 0 !!!

นาที 50

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางเจ้าถิ่น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ตัวผู้เล่นมากกว่า บุกใส่ทีมเยือนทันที จังหวะนี้ทำชิ่งต่อบอลกันขึ้นมาได้สวย ก่อนจะเป็น จาร์ร็อด โบเว่น ที่ไขว้ส่งเข้าไปในเขตโทษให้ โธมัส ซูเช็ค ได้วิ่งสอดมาจิ้มเร็วด้วยขวาเน้น ๆ พุ่งแรงเหินข้ามคานออกไปไกล

นาที 52

เจ้าถิ่น เวสต์แฮม น่าจะได้ประตูหนีห่างแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ปาโบล ฟอร์นัลส์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งลึกไปที่เสาไกลซ้ายมือให้ มิคาอิล อันโตนิโอ ได้ขึ้นโขกเน้น ๆ แค่ไม่กี่หลา ไปติดเซฟของ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี เขยิบมาปัดได้ทันหวุดหวิด

นาที 56 GOAL!!!

เจ้าถิ่น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร กองหลังเจ้าหวดบอลโด่งจุดพลุขึ้นมาที่หน้าเขตโทษฝั่งขวาของทีมเยือน แล้วเป็น คักลาร์ โซยุนชู ที่จ่ายบอลคืนหลังให้ผู้รักษาประตูพลาด บอลเบาแถมไปเข้าทาง มิคาอิล อันโตนิโอ ตัดบอลหลุดเข้าไปที่สุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะปาดเข้ากลางถวายพานให้ ซาอิด เบนห์ราม่า ที่วิ่งสอดเติมขึ้นมา ได้แปด้วยขวาเน้น ๆ โล่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 63

เจ้าถิ่น ขุนค้อน เวสต์แฮม ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ ซาอิด เบนราห์ม่า ไหลบอลมาที่หน้าเขตโทษให้ มิคาอิล อันโตนิโอ ได้ตั้งป้อมวางเท้ากดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ ระยะประมาณ 25 หลา บอลพุ่งแรงกระดอนพื้น ทำท่าจะเสียบโคนเสาเข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาพุ่งไปปัดเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 64

เจ้าถิ่น เวสต์แฮม ยังคงได้ลุ้นอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ได้เตะมุมแล้วโยนโด่งเข้าไป เป็นกองหลังทีมเยือนที่โหม่งสกัดไม่เคลียร์ บอลลอยออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง อารอน เครสเวลล์ ที่ยืนตั้งป้อมรออยู่ ได้วอลเลย์ด้วยซ้ายแบบเต็มข้อสวนกลับเข้าไป บอลพุ่งแรงเป็นจรวด แต่เหินข้ามคานออกไปนิดเดียว ชนิดได้เสียว

นาที 69 GOAL!!!

ทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะ เจมส์ แมดดิสัน ทำชิ่งกับเพื่อนขึ้นมาที่หน้าเขตโทษ เจ้าตัวพลิ้วหนีผู้เล่นเจ้าถิ่น หลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะตวัดเข้ากลางไปที่เสาแรกย้อนหลัง เจมี่ วาร์ดี้ เลยมาถึง แพทสัน ดาก้า ก็หวดไม่โดนอีก สุดท้ายบอลมาเข้าทาง ยูริ ตีเลอมันส์ ได้วอลเลย์ด้วยซ้ายไปติดบล็อกกองหลังเจ้าถิ่น กระดอนกลับมาเข้าทางเจ้าตัวได้ล้มตัวจิ้มด้วยขวาจ่อ ๆ ลอดหว่างขา ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ซ้ำเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือ

นาที 76

เจ้าถิ่น ทัพขุนค้อน ดึงสติแล้วตั้งเกมบุกขึ้นมาใหม่ จังหวะนี้ เดแคลน ไรซ์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะเปิดบอลโด่งไปที่เสาไกลให้ เคร็ก ดอว์สัน ได้วิ่งสอดมาโขกเหน่ง ๆ แต่ก็ยังหลุดกรอบออกไปไกล แบบไม่ได้ลุ้นเลย

นาที 80 GOAL!!!

เจ้าถิ่น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-1 !!! เป็นจังหวะ เดแคลน ไรซ์ ทำชิ่ง 1-2 กับเพื่อน หลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวเปิดเลียดยัดเข้ามาตรงกลางที่เสาแรกให้ มิคาอิล อันโตนิโอ ได้จับบอลด้วยซ้าย ก่อนจะอาศัยความแข็งแกร่งบังบอล แล้วพลิกบอลกลับหลังสลัดตัวประกบอย่าง คักลาร์ โซยุนชู มาซัดด้วยขวาเน้น ๆ พุ่งเสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม เป็นประตูประวัติศาสตร์ ที่ส่งให้เจ้าตัวกลายเป็นผู้เล่นที่ยิงประตูให้เวสต์แฮมมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ที่จำนวน 48 ประตูอีกด้วย

นาที 84 GOAL!!!

เจ้าถิ่น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มาได้ประตูตอกฝาโลงเป็น 4-1 !!! เป็นจังหวะ วลาดิเมียร์ คูฟาล เติมสูงขึ้นมาเก็บตกบอลได้ทางกราบขวา เจ้าตัวกระชากขึ้นมาเองถึงมุมกรอบเขตโทษ ก่อนจะบรรจงเปิดบอลโค้ง พุ่งไปที่กลางประตูให้ มิคาอิล อันโตนิโอ ได้กระดกบอลข้ามกองหลังอย่างเหนือชั้น แล้วตามไปจิ้มด้วยขวาจ่อ ๆ สวนตัว แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูทีมเยือน 

เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม โดยประตูนี้ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมขุนค้อนในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ด้วยจำนวน 49 ลูก แซงหน้าตำนานอย่างเปาโล ดิ คานิโอ ไปสองประตู

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่เปิดบ้านไล่ถล่มทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ด้วยสกอร์ 4-1 !!! เขยิบขึ้นมารั้งจ่าฝูงอย่างสวยงาม โดยนัดต่อไปขุนค้อนจะเปิดบ้านพบกับคริสตัล พาเลซ ในวันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านเลสเตอร์ ซิตี้ ร่วงมาอยู่อันดับที่ 12 ของตารางคะแนน นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนนอริช ซิตี้ ในวันเวลาเดียวกัน