อาร์แซน เวนเกอร์ ตำนานกุนซือ ยอมรับว่าเขาเสียใจที่ดื้อดึงอยู่คุมทีมอาร์เซน่อล ลากยาวจนถึงปี 2018 ซึ่งตอนจบไม่แฮปปี้เอนดิ้ง
โค้ชชาวเฟร้นช์แมน เตรียมออกภาพยนตร์สารคดี Arsene Wenger: Invincible ซึ่งจะฉายในโรงหนังช่วงสัปดาห์นี้ โดยโฟกัสไปที่ช่วงเวลา 22 ปี กับ “ปืนใหญ่”
เวนเกอร์ เป็นกุนซือที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของอาร์เซน่อล พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย ซึ่งรวมถึง “แชมป์ไร้พ่าย” นอกจากนั้นยังได้ถ้วยเอฟเอ คัพ อีก 7 ครั้ง
กระนั้น ในช่วงปลายของเขากับสโมสร กลับโดนแฟนๆ วิจารณ์อย่างหนักเพราะไม่ประสบความสำเร็จดังเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้
อดีตนายใหญ่วัย 72 ปี ระบุว่า “ผมผูกตัวเองกับสโมสรอย่างสมบูรณ์ ซึ่งนี่คือความผิดพลาดของผมนะ”
“ข้อบกพร่องร้ายแรงที่สุดคือ ผมรักที่ที่ผมอยู่มากเกินไป…ที่ที่ผมเคยอยู่ ผมเสียใจนะ ผมควรย้ายไปที่อื่น”
“บางทีผมก็สงสัยเหมือนกันนะว่าหลังจากฤดูกาลไร้พ่ายน้นมันมีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง”
“ปี 2007 คือจุดสำคัญ (ย้ายจากไฮท์บิวรี่ มาเอมิเรสต์ ปี 2006 และเดวิด ดีน ออกจากบอร์ดบริหารในปี 2007) นั่นคือครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่ามีความตึงเครียดภายในบอร์ดบริหาร ผมถูกแบ่งแยกออกมาระหว่างความภักดีกับสโมสร กับการภักดีกับเดวิด”
“วันนี้ผมยังสงสัยนะว่าตัวเองทำในสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่า เพราะชีวิตมันไม่เคยเป็นแบบเดิมเลยหลังจากนั้น ผมคิดว่า “ตอนนี้ผมต้องไปจบโปรเจ็คต์นี้”
“ผมอาจย้ายไปคุมทีมชาติฝรั่งเศส หรือทีมชาติอังกฤษ 2-3 หนหลังจากนั้น ผมอาจได้ย้ายไปเรอัล มาดริด 2 ครั้ง ผมอาจได้ย้ายไปยูเวนตุส, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หรือแม้แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยนะ”
เวนเกอร์ ไม่เคยกลับไปเหยียบเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม นับตั้งแต่ย้ายออกมาเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งเขาบอกว่า “ตอนนี้ มันไม่มีเหตุผลพิเศษอะไรสำหรับผมในการไปที่นั่น”
“ที่เหลือก็อารมณ์ล้วนๆ มันไม่สำคัญแล้ว นี่คือจุดจบในชีวิต อย่างน้อยก็ชีวิตหนึ่ง เหมือนการฝังศพนั่นแหล่ะ เรื่องราวของความรักมักจบด้วยความเศร้าเสมอ”