ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์น่าสนใจที่เกิดขึ้นจากสนามปุสกัส อารีน่า ในการแข่งขันระหว่างทีมชาติฮังการี และทีมชาติอังกฤษเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยมีการโห่ใส่นักเตะทีมเยือน ขณะที่กำลังคุกเข่าแสดงการต่อต้านการเหยียดผิว แม้ว่าแฟนบอลส่วนใหญ่ที่เข้าชมเกม จะเป็นเยาวชนอายุไม่เกิน 14 ปีก็ตาม
แมตช์นี้ทางเจ้าบ้านต้องลงแข่งขันในสนามปิด หลังโดนลงโทษเพราะปัญหาการเหยียดผิวที่เกิดขึ้นบนอัฒจันทร์ของพวกเขาก่อนหน้านี้
ยูฟ่า สั่งแบนหลังจากพฤติกรรมของแฟนบอลฮังการีที่แสดงออกมาในการแข่งขันยูโร 2020 เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว นอกจากนี้ทางฟีฟ่า ก็มีบทลงโทษแบบเดียวกัน หลังจากที่นักเตะอังกฤษ โดนเหยียดผิวระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกที่พวกเขาบุกมาเอาชนะ 4-0 เมื่อเดือนกันยายน
เหตุผลที่เกมเมื่อคืนนี้มีแฟนบอลเข้าชมได้ เป็นเพราะยูฟ่า อนุญาตให้สาวกที่มีอายุไม่เกิน 14 ปี เข้าสนามได้แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หากว่ามีผู้ปกครองติดสอยห้อยตามมาดูแล 1 คน สำหรับเด็ก 10 คน
ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ดราม่าใด ๆ ระหว่างมีการบรรเลงเพลงชาติของทั้ง 2 ประเทศ แต่มีเสียงโห่เกิดขึ้นจากบนอัฒจันทร์ ขณะที่อังกฤษกำลังคุกเข่าก่อนการคิกออฟ ซึ่งนี่คือการบุกมาเยือนหนแรกที่สนามแห่งนี้ นับตั้งแต่พวกเขาเคยโดนเหยียดผิวเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ยูฟ่า จะไม่มีบทลงโทษใด ๆ สำหรับฮังการี สำหรับการโห่ระหว่างที่นักเตะกำลังคุกเข่า เพราะไม่ได้เป็นการทำผิดกฎ
ร็อบ ดอร์เซ็ตต์ นักข่าวอาวุโสของ Sky Sports รายงานจากสนามปุสกัส อารีน่า ระบุว่า:
“มันเป็นสภาพแวดล้อมที่เสียงดังมาก และทุกสายตาก็จดจ้องไปยังฝูงกองเชียร์ตอนที่อังกฤษกำลังคุกเข่า ซึ่งมีเสียงโห่เป็นพัน ๆ จากเด็กนักเรียนในสนามให้ได้ยินชัดเจนมาก ๆ
“มันเป็นเสียงที่แปลก ๆ นะ เพราะว่าเด็กพวกนี้อายุไม่เกิน 14 ปี ดังนั้นเสียงมันจึงสูงกว่าที่เราได้ยินกันเวลามีการโห่ แต่ชัดเจนว่ามันเป็นการโห่จากแฟนบอลส่วนใหญ่ในสนามนี่ละ
“ก็สำคัญที่ต้องย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ได้ผิดกฎของยูฟ่า อย่าคาดหวังให้ยูฟ่า มอบบทลงโทษเพิ่มเติมใด ๆ กับเอฟเอ ฮังการี
“มีความน่ากังวลเพิ่มเติมคือพวกนี้ยังเป็นเยาวชนกันอยู่เลย พวกเขาไม่ชอบการกระทำของนักเตะอังกฤษที่คุกเข่า และพวกเขาก็ไม่อนุมัติ”
สำหรับผลการแข่งขัน ฮังการีเบียดคว้าชัยชนะ 1-0 จากจุดโทษในนาทีที่ 66 ของ โดมินิก โซบอสซไล