เจมี่ คาร์ราเกอร์ กูรูลูกหนังคนดัง ยืนกราน รูเบน ดิอาส คือคนที่เข้ามาเปลี่ยนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้กลับมาเล่นด้วยฟอร์มที่แข็งแกร่งอีกครั้ง สมควรจะเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีพรีเมียร์ลีก และเห็นด้วยที่ว่าเซ็นเตอร์แบ็กวัย 23 ปี สร้างอิมแพคได้ประหนึ่งเหมือนเป็น เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ของฝั่งลิเวอร์พูล
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สร้างเกมรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้แข็งแกร่งได้อย่างน่าทึ่ง เมื่อทีมเพิ่งเสียไปแค่ 13 ประตูจาก 21 นัดพรีเมียร์ลีก เสียน้อยกว่าสเปอร์สและอาร์เซนอลมากถึง 9 ประตู
ดิอาส ได้รับคำยกย่องอย่างมากกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ หลังย้ายมาจากเบนฟิก้า ค่าตัว 62 ล้านปอนด์ เมื่อกันยายนที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวลงเล่นทุกนัดในลีกตั้งแต่ย้ายเข้ามา ช่วยให้ทีมเสียไปแค่ 7 ประตูเท่านั้นจาก 19 นัดที่มีส่วนร่วม
ความเป็นผู้นำของเขามีส่วนช่วยยกระดับฝีเท้าของ จอห์น สโตนส์ ให้กลับมาโชว์ผลงานแข็งแกร่งอีกครั้ง กลายเป็นคู่เซ็นเตอร์ภูผาหินด้วยกันตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน โดยทั้งคู่เสียประตูไปแค่ลูกเดียวเท่านั้นจาก 11 เกมลีก
“มีเพียงแค่ 6 คนจาก 47 ผู้เล่นที่ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี PFA ที่มาจากตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก, เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค คือคนล่าสุดเมื่อปี 2019” คาร์ราเกอร์ กูรูสกาย สปอร์ต เขียนไว้ในคอลัมน์ของตัวเองผ่าน Telegraph
“ศูนย์หน้ามักถูกเลือกให้รับรางวัล ตามเกณฑ์ควรให้กับผู้เล่นที่สร้างผลกระทบมากที่สุดต่อเส้นทางสู่แชมป์พรีเมียร์ลีก มันทำให้ ดิอาส เป็นตัวเต็งในตอนนี้”
“บางครั้งมันง่ายเกินไปที่จะไปยกเครดิตให้ใครสักคนแต่เพียงผู้เดียว แต่ผู้เล่นอย่าง ฟาน ไดจ์ค ที่เคยทำให้เห็นมาแล้วเมื่อครั้งย้ายมาแอนฟิลด์ เวิลด์คลาสเซ็นเตอร์แบ็กคือการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง”
“เซ็นเตอร์แบ็กเก่งๆสามารถเปลี่ยนแปลงรอบข้างให้ดีขึ้นได้”
“มันไม่ได้หมายความว่า จอห์น สโตน์ส ไม่ได้ดีด้วยตัวเอง สโตนส์ก็สมควรได้รับคำยกย่องอย่างมากกับสิ่งที่ตัวเองทำ รวมไปถึงเจา คันเซโล่ และโอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ที่ดีขึ้นตั้งแต่ดิอาสเข้ามาสู่ทีมด้วย”