ซิโมเน่ อินซากี้ กุนซือ อินเตอร์ มิลาน ไม่เห็นด้วยที่ผู้ตัดสินไล่ โรเมลู ลูกากู ออกข้อหาดีใจยั่วยุ โดยให้เหตุผล ลูกทีมมักจะฉลองด้วยท่าแบบนั้นอยู่แล้ว ขณะที่เอเยนต์นักเตะ แถลงประนามเหตุเหยียดผิวจากแฟนบอล ยูเวนตุส
ศึก ดาร์บี้ ดิตาเลีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาดำเนินไปด้วยดี จนกระทั่งนาทีที่ 81 ความเดือดก็เริ่มขึ้นจากจังหวะ ลูกากู เข้าหนักใส่ เฟเดริโก้ กัตติ รับใบเหลืองแรกไปก่อน
เท่านั้นยังไม่พอ จังหวะดังกล่าวทำให้ ลูกากู ได้รับการตอบโต้จากแฟนบอลบางส่วนของ ยูเวนตุส ส่งเสียงคล้ายลิง ลักษณะเป็นการเหยียดผิวให้หัวหอกเบลเยียม
ช่วงทดเจ็บ เบรเมอร์ ทำแฮนด์บอลแล้วเป็น ลูกากู สังหารจุดโทษท่ามกลางเสียงลิง ตีเสมอ 1-1 จากนั้นนักเตะวัย 29 ปีดีใจด้วยการยกมือจุ๊ปาก อีกมือทำท่าตะเบ๊ะพร้อมหลับตา
ทั้งนี้ ระหว่างช่วงพักเบรกทีมชาติที่ผ่านมา ลูกากู ยิงแฮตทริกใส่ สวีเดน และดีใจด้วยท่าเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม การดีใจในเกมนี้ของ ลูกากู เป็นเหตุให้ผู้เล่นทั้งสองฝั่งเข้ากระทบกระทั่งกัน แล้ว ดาวิเด้ มาสซ่า ผู้ชี้ขาดในสนาม มองว่าท่าฉลองของดาวยิง อินเตอร์ คือการยั่วยุแจกใบเหลืองที่สองไล่ออก
สิ้นเสียงนกหวีด ความตึงเครียดยังมีต่อเนื่อง ผู้เล่นทั้งสองทีมเผชิญหน้ากันบริเวณกลางสนาม โดนใบแดงไปฝั่งละคนคือ ซามีร์ ฮันดาโนวิช กับ ฮวน กัวดราโด้
“เกมนี้เงียบสงบและยุติธรรม จนกระทั่งถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ” อินซากี้ ให้สัมภาษณ์หลังแข่งเสร็จ
“สิ่งที่เกิดขึ้นคือการฉลองประตูของ ลูกากู ถูกเข้าใจผิด เพราะเขาฉลองประตูแบบนี้อยู่เสมอ
“โชคร้ายที่นั่นทำให้เกิดเหตุการณ์อันน่ารังเกียจ ซึ่งทำให้เราอดใช้งานทั้ง ลูกากู และ ฮันดาโนวิช ในการแข่งขันเลกสอง”
“แน่นอนเลยว่าเราสัมผัสได้ถึงการเหยียดผิวจากแฟนบอล ยูเว่ แต่ผมมองลึกไปกว่านั้น ผมเห็นผู้เล่นคนนึงยิงได้ แสดงท่าดีใจ และทุกอย่างก็เริ่มจากตรงนั้น”
“ตอนนี้ผมต้องทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง ผมคิดว่าการตัดสินไล่ ลูกากู ออกจากท่าดีใจที่เขาทำเป็นประจำ คือการปล้นผู้เล่นคนสำคัญของเรา”
ขณะเดียวกัน ร็อค เนชั่น สปอร์ตส์ บริษัทเอเย่นต์ของ ลูกากู ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ ยูเวนตุส ขอโทษ รวมถึงขอให้ผู้มีอำนาจยกเลิกบทลงโทษนักเตะ
“พฤติกรรมเหยียดผิวของแฟนบอล ยูเวนตุส ที่เมือง ตูริน ในค่ำคืนนี้นั้นคือเรื่องน่ารังเกียจและไม่สามารถยอมรับได้”
“ลูกากู ยิงจุดโทษเข้าช่วงท้ายเกม โดยทั้งก่อนหน้า, ระหว่าง และหลังจากจังหวะนั้น เขาตกเป็นเป้าของการเหยียดผิวอันน่าขยะแขยง”
“ลูกากู ฉลองประตูแบบเดียวกันกับที่เขาเคยทำก่อนหน้า และผู้ตัดสินตอบสนองโดยการให้ใบเหลือง”
“ลูกากู สมควรได้รับคำขอโทษจาก ยูเวนตุส และเราคาดหวังว่า เซเรีย อา จะออกมาประณามพฤติกรรมจากแฟนบอลกลุ่มนั้นของ ยูเวนตุส โดยทันที”
“ผู้มีอำนาจของวงการฟุตบอลอิตาลี ต้องใช้โอกาสนี้เพื่อกำจัดการเหยียดผิว มากกว่าการลงโทษผู้ตกเป็นเหยื่อของการเหยียด และเรามั่นใจว่าวงการฟุตบอลทั่วโลกจะคิดแบบเดียวกัน”
ช่วงปลายเดือนนี้ สองคู่อริแห่งแดนมักกะโรนี เตรียมลงเล่นเลกสองที่บ้านของ อินเตอร์ เพื่อหาผู้เข้าชิง โคปปา อิตาเลีย