เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม, เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพผึ้งน้อย เบรนท์ฟอร์ด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์จอมแอสซิสต์ ริยาด มาห์เรซ ปีกจอมพลิ้ว และ ฟิล โฟเด้น กองหน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เบรนท์ฟอร์ด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โธมัส แฟร้งค์ มาเล่นในระบบ 3-5-2 นำทีมโดย คริสเตียน นอร์การ์ด กองกลางห้องเครื่อง เซร์กี้ กานอส ตัวทำเกมริมเส้น และ ซามาน ก็อดดอส ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
นาที 5
เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ เควิน เดอ บรอยน์ ตั้งป้อมบรรจงตักบอลโด่ง โค้งสวยจากทางกราบขวาเข้าไปยังพื้นที่ว่างกลางประตูให้ ฟิล โฟเด้น ได้วิ่งโฉบมาเทคตัวขึ้นโหม่งสะบัดเหน่ง ๆ ส่งบอลหลุดกรอบ ลอยออกหลังไป ไม่ได้ลุ้นเท่าไหร่
นาที 23
ทีมเยือน ทัพผึ้งน้อย เบรนท์ฟอร์ด นาน ๆ จะได้ตอบโต้ขึ้นมาที จังหวะนี้ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว มาธีอัส เยนเซ่น ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวสบโอกาสซัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดเซฟของ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ปัดทิ้งออกหลังไปได้ทัน ทว่าไลน์แมนยกธงว่าล้ำหน้าตามหลังขึ้นมา ถ้าเข้าก็อาจจะไม่ได้ประตูอยู่ดี
นาที 25
เกมดำเนินมาเกินครึ่งทางของครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ทัพเรือใบสีฟ้า ที่ครองบอลได้เยอะกว่าตามสไตล์ ทว่ายังเจาะแนวรับ ทัพผึ้งน้อย เข้าไปจบสกอร์เน้น ๆ ในพื้นที่สุดท้ายไม่ได้เลย โอกาสส่องมีให้แฟน ๆ ได้เห็นน้อยมาก ส่วนทางด้าน เบรนท์ฟอร์ด เน้นตั้งรับแล้วรอสวนกลับตามคาด แต่ก็ยังสร้างปัญหาให้กับแนวรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ได้เช่นกัน
นาที 29
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลาดโอกาสที่จะได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะ ริยาด มาห์เรซ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งขวา เจ้าตัวครอสเลียดลอดขาของ เอธาน พินน็อค เข้าไปที่หน้าประตูโดน ดาบิด ราย่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาทิ้งตัวปัดออกมาเข้าทาง ชูเอา คันเซโล่ ที่หน้าเสาไกลซ้ายมือ ได้เติมขึ้นมาวางเท้าส่องเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 33
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังครองบอลบุกได้อย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ฟิล โฟเด้น ได้บอลหลุดขึ้นมาทางหน้ากรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่เสาไกลซ้ายมือ แล้วเป็น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้สอกมาทิ้งตัววอลเลย์ด้วยขวาเน้น ๆ ท่าอย่างสวย ส่งบอลพุ่งแรง เหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดายอีกครั้งหนึ่ง
นาที 35
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ พวกเขาได้ลูกฟรีคิกตรงกลางสนามบริเวณฝั่งซ้าย เควิน เดอ บรอยน์ รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงเปิดบอลโด่งไปที่เสาไกลให้ รูเบน ดิอาส โหม่งชงเข้าไปที่กลางประตูให้ เอมเมอริค ลาปอร์กต์ จับหนึ่งที ก่อนจะตวัดยิงเร็วด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งหนีมือ ดาบิด ราย่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน เฉียดเสาขวามือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวเท่านั้น
นาที 40 GOAL!!!
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! จากจังหวะที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้บอลกระชากทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจะโดน แมดส์ โรเออร์สเลฟ เข้าพรวดสไลด์ร่วงลงไป ช็อตนี้ผู้ตัดสินไม่รีรอ วิ่งมาเป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษแก่ทัพเรือใบทันทีแบบไม่ลังเล แล้วก็เป็น ริยาด มาห์เรซ รับหน้าที่สังหาร ซัดเข้าประตูไป ไม่พลาด
นาที 43
ทีมเยือน เบรนท์ฟอร์ด พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูตีเสมอทันควัน จากจังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร จอห์น สโตนส์ ทำผิดพลาดพักบอลห่างตัวแล้วโดน ริโก้ เฮนรี่ วิ่งมาฉกแล้วทำชิ่ง 1-2 กับ ซามาน ก็อดดอส หลุดเดี่ยวทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายโล่ง ๆ ทว่าเจ้าตัวไม่ยอมยิง แต่ดันตัดสินใจเลือกเปิดไปถูก เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เซฟกระฉอกออกมาเข้าทาง เซร์กี้ กานอส พยายามปรี่มาซ้ำ สุดท้ายกลายเป็นชาร์จโกลไปทำฟาล์วใส่นายทวารทีมชาติบราซิลแทนอย่างน่าเสียดาย
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ทัพเรือใบ ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดตามสไตล์ เป็นฝ่ายขึงเกมรุก พับสนามบุกใส่ทีมเยือน ทัพผึ้งน้อย อยู่แทบจะฝั่งเดียว ยิงประตูออกนำไปก่อนแล้วหนึ่งลูก สกอร์ตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 เบรนท์ฟอร์ด 0 !!!
นาที 50
เริ่มต้นครึ่งหลังมา ยังคงเป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่บุกโหมเข้าใส่คู่แข่งอย่างต่อเนื่องทันที จังหวะนี้ ชูเอา คันเซโล่ รับบอลมาที่หน้ากรอบเขตโทษ เจ้าตัวขอลองวางเท้าส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่ายังไม่เข้าเป้า เหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย
นาที 55
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้เป็น ชูเอา คันเซโล่ เจ้าเก่า ดันสูงขึ้นมารับบอลทางริมกรอบฝั่งซ้าย เจ้าตัวโชว์ความพลิ้ว ติดเครื่องเลี้ยงแหวกสองแนวรับเบรนท์ฟอร์ด หลุดทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะได้เหลี่ยมวางเท้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปตรงตัวของ ดาบิด ราย่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน เซฟเอาไว้ได้ทัน
นาที 57
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังได้บุกขึ้นมาเรื่อย ๆ จังหวะนี้ ฟิล โฟเด้น ถ่ายบอลออกไปทางขวาให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้เลี้ยงตัดเข้ากลางมาที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะบรรจงวางเท้าปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย ทว่าทิศทางยังไม่หนีตัวเท่าไหร่ ดาบิด ราย่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาพุ่งเซฟเอาไว้ได้ทัน
นาที 65
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง พักบอลดึงจังหวะไหลนิ่ม ๆ มาที่หน้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ชูเอา คันเซโล่ เจ้าเก่า ดันสูงเติมมาบรรจงวางเท้าปั่นด้วยขวาเน้น ๆ แบบไม่จับนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยแต่ดันไปตรงตัวของ ดาบิด ราย่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเข้าซองเอาไว้ได้สบาย
นาที 69 GOAL!!!
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! จากจังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร แนวรับเบรนท์ฟอร์ดต่อบอลกันอยู่ดี ๆ ก่อนที่ ดาบิด ราย่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน จะออกบอลพลาดไปเข้าทาง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้หลุดเข้าไปแปเน้น ๆ ติดเซฟของ ดาบิด ราย่า แก้ตัวได้สำเร็จ แต่บอลดันกระดอนออกมาเข้าทาง เควิน เดอ บรอยน์ ตามซ้ำดาบสองเข้าประตูไป ไม่เหลือซาก
นาที 77
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิกเกมบุกใส่คู่แข่งแบบไม่มีผ่อนตามสไตล์เป๊ป จังหวะนี้ เควิน เดอะ บรอยน์ แทงบอลยัดมาที่หน้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ชูเอา คันเซโล่ ดันสูงสอดขึ้นมา ได้สบโอกาสซัดไกลด้วยขวานอกกรอบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปแฉลบแนวรับผึ้งน้อย สุดท้ายกระดอนออกหลังไป ได้เป็นลูกเตะมุมแทน
นาที 80
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ชูเอา คันเซโล่ ที่วันนี้เติมเกมมันส์จริง ๆ ดันสูงขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะลองซัดเน้น ๆ ไปติดบล็อกกระเด้งออกมาเข้าทางปืนของ โรดรี้ ได้ตั้งป้อมบรรจงส่องไกลแถวสองด้วยขวาเต็ม ๆ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดน่ากลัว ทว่าเป็น ดาบิด ราย่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังยืนตำแหน่งได้ดี ผวาพุ่งปัดเอาไว้ได้ทัน
นาที 90+3
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมเยือน เบรนท์ฟอร์ด ได้ลุ้นตีไข่แตกเฮือกสุดท้าย จากจังหวะ คริสเตียน นอร์การ์ด กระดกบอลข้ามแนวรับเจ้าถิ่นให้ โยอัน วิสซ่า พลิกตัวหลุดเข้าไปตวัดยิงเน้น ๆ โล่ง ๆ ในเขตโทษ ทว่าเป็น อแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ยังไม่หลับ พุ่งเซฟเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด ก่อนที่สุดท้าย ไลน์แมนจะยกธงว่าเป็นลูกล้ำหน้า ถ้าเข้าก็อาจจะไม่ได้ประตูอยู่ดี
หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านไล่ทุบเอาชนะทีมเยือน เบรนท์ฟอร์ด ไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 !!! นำโด่งจ่าฝูงของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนนอริช ซิตี้ ในคืนวันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านเบรนท์ฟอร์ด รั้งอันดับที่ 14 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับคริสตัล พาเลซ ในคืนวันเดียวกันแต่คนละเวลา