แล้วแต่บอส…JK ปลอบหงส์อ้างเล็งมิดฟิลด์ใหม่ 12 คน

เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือนอร์มอล วันของลิเวอร์พูล อ้างว่าตอนนี้เขามีรายชื่อกองกลาง 12 รายที่สนใจดึงตัวมาร่วมทัพในตลาดซัมเมอร์นี้แล้ว

“หงส์แดง” ถอนตัวจากการตามล่าลายเซ็น จู๊ด เบลลิ่งแฮม มิดฟิลด์โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แม้พยายามตามติดมานานหลายเดือน เพราะมองว่าค่าตัวแพงเกินไป

อย่างไรก็ดี คล็อปป์ ยังตกเป็นข่าวกับกองกลางอีกมากมาย ทั้ง เมสัน เมาท์, ไรอัน กราเวนเบิร์ช, มอยเซส ไคเซโด้ และอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์

โค้ชชาวเยอรมัน เผยว่า “เราต้องทำให้แน่ใจ เราต้องตัดสินใจเพื่อทีม เพื่อสโมสร เราไม่สามารถเอาแต่ฝันหวาน เราไม่สามารถโกรธหากเราไม่ได้นี่ได้นั่นมา หากมันไม่มีโอกาส ทำไมเราควรต้องทำด้วย?”

“เราไม่สามารถพูดถึงทุกเรื่องที่คุณต้องการพูดคุยผ่านสาธารณะ สถานการณ์มันควรเป็นแบบนั้นเหรอ? ผมตอบสนองเหมือนกองเชียร์หรือพวกคุณ (นักข่าว) แบบว่า “พวกเขาทำแบบนี้ได้อย่างไร พวกเขาทำแบบนั้นได้อย่างไร เขาไม่ได้นั่น เขาไม่ได้นี่” ใครจะไปสนกันเล่า เราต้องแก้ไขปัญหา นั่นคือสิ่งที่เราต้องทำ”

“สำหรับเราแล้วมันไม่ใช่เรื่องสนุก แบบว่า “โอ้ พระเจ้า พวกเขา (ทีมอื่น) เซ็นสัญญาเขาไปแล้ว เยี่ยมเลย” ชีวิตของเรา การทำธุรกิจของเราเป็นแบบนี้ และนี่คือสิ่งที่เราต้องทำให้ถูกต้อง”

“หากผมร้องขอบางสิ่งแล้วไม่ได้ ต่อมาผมไปพูดว่า “ผมไม่อยากได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะคนนั้นคนนี้” มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยนะ”

“มันไร้สาระ ไม่โอเค ผมเป็นมืออาชีพอย่างยิ่ง คุณอยู่ในวงการนี้ คุณต้องทำให้แน่ใจว่าอะไรคือสิ่งที่เราสามารถทำได้ ก็ทำให้เสร็จ ทำมันให้เต็มที่”

“นี่คือช่วงเวลาที่ดูเหมือนกับว่า หากเราเซ็นสัญญานักเตะคนนี้ ทุกอย่างจะโอเค หากเราเซ็นสัญญานักเตะคนนั้นก็แบบว่า “โอ้ พระเจ้า เราต้องการกลับมาเล่นฟุตบอลกันอีกรอบแล้วเหรอ?”

“จากฤดูกาลอื่นๆนั้น ผมเข้าใจในเรื่องนี้ แต่ตอนนี้จินตนาการดูนะว่าหากผมตกไปในหลุมพรางนั่น แล้วบอกว่า “ผมไม่อยากเจอหน้าไอ้พวกนี้อีกต่อไปแล้ว ลองเปลี่ยนสัก 12 คน ใช่เลย เราต้องสร้างทีมใหม่ขึ้นมา”

“มันไม่ใช่แบบนั้นหรอก คุณสนใจในตัวนักเตะ คุณคิดถึงเรื่องนักเตะ คุณต้องไปตรวจสอบดูว่ามันมีโอกาสหรือไม่ มันไม่มีโอกาส”

“ตอนนี้เราได้เห็นกันแล้ว มีกองกลาง 12 คนที่เราอาจเซ็นสัญญาหรืออะไรแบบนั้น ก็โอเคนะ”

“มีนักเตะฝีเท้าดีมากมาย นี่พูดจริงๆ ใช่เลย นักเตะเก่งๆ อีกเพียบ เราสนใจนักเตะฝีเท้าดีทุกคน พวกเขาบางคนอาจมาลงเอยที่นี่ ก็เท่านั้นแหล่ะ”