ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เปิดเผยผลประกอบการปีล่าสุดว่าพวกเขาขาดทุนไป 80.2 ล้านปอนด์ก่อนหักภาษี รวมถึงหนี้ขยับเพิ่มจาก 605 ล้านปอนด์มาเป็น 706 ล้านปอนด์
พวกเขาระบุว่าผลประกอบการ 2 ปีหลังสุดได้รับผลกระทบจากโควิดอย่างหนัก ส่งผลให้ตลอด 2 ปีหลังสุดพวกเขาขาดทุนไปเกือบ 150 ล้านปอนด์ก่อนหักภาษี
รายได้จากการขายตั๋วเข้าชมเกมนั้นลดมาเหลือ 1.9 ล้านปอนด์จากที่เคยได้รับมากถึง 94.5 ล้านปอนด์ในปี 2020 ซึ่งก็เป็นผลมาจากการลงสนามโดยไม่มีแฟนบอลเข้าชมในช่วงล็อกดาวน์
หนี้ระยะยาวส่วนใหญ่ของ “ไก่เดือยทอง” นั้นเป็นผลจากการสร้างสนามใหม่โดยมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.7 เปอร์เซนต์และขยายเวลาชำระเงินคืนไปจนถึงปี 2051
รายได้รวมของ สเปอร์ส ลดจาก 402.4 ล้านปอนด์ลงมาเหลือ 361.9 ล้านปอนด์ในปีล่าสุด แล้วถึงแม้จะมีรายได้จากทางทีวีและสื่อต่างๆเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 184.4 ล้านปอนด์ แต่กำไรจากการดำเนินธุรกิจลดลงจาก 115.3 ล้านปอนด์ลงมาเหลือ 97.1 ล้านปอนด์
ถึงอย่างนั้น ดาเนียล เลวี่ ประธานสโมสรบอกว่ารากฐานสำหรับอนาคตของทีมถูกวางเอาไว้อย่างมั่นคง จากที่พวกเขาสร้างทั้งสนามใหม่, ศูนย์ซ้อมแห่งใหม่และ เดอะ ล็อดจ์ ที่พักนักเตะแห่งใหม่
“เราจะไม่หยุดอยู่เฉยๆจากที่ได้ก่อสร้างศูนย์ซ้อม, เดอะ ลอดจ์ และสนามใหม่ขึ้นมา เราจะทำการปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อไปและทำให้แน่ใจว่านักเตะ, แฟนบอลและผู้มาเยี่ยมเยือนจะได้พบกับประสบการณ์อันยอดเยี่ยมที่สุด” เลวี่ กล่าว
“ดังนั้นแล้วยุทธศาสตร์ข้างหน้าเป็นเรื่องชัดเจน คือการขับเคลื่อนและสร้างรายได้เพื่อนำมาลงทุนกับทุกอย่างในด้านฟุตบอลของสโมสร”
ฤดูกาลนี้ สเปอร์ส ได้แต่งตั้ง ฟาบิโอ ปาราติชี่ มาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอลในเดือนมิถุนายน ก่อนจะให้ นูโน่ เอสปิริโต ซานโต เข้ามาคุมทีมแต่ก็โดนปลดไปอย่างรวดเร็วและตอนนี้มี อันโตนิโอ คอนเต้ เข้ามารับหน้าที่ต่อ