โจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือโรม่า ยืนกราน ตนเองไม่ใช่ผู้จัดการทีมตกยุค ปัญหาอยู่ที่สโมสรเก่าของตนเอง พร้อมพาดพิงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดว่า ด้วยผู้บริหารชุดนี้ ทีมไม่สามารถคาดหวังเรื่องจะได้เป็นแชมป์อีกต่อไป
นับตั้งแต่หมดยุคของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เมื่อปี 2013 ทัพปิศาจแดง ก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์ได้ในยุคของ 2 กุนซือเท่านั้นคือ มูรินโญ่ กับแชมป์คาราบาว คัพ, ยูโรป้าลีก และ หลุยส์ ฟาน กัล กับแชมป์เอฟเอ คัพ
มูรินโญ่ ช่วงแรกชีวิตคุมทัพปิศาจเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม ก่อนจะเริ่มมีปัญหาในระยะหลังจนถูกไล่ออกไปในปี 2018 จากนั้นเขามีโอกาสไปคุมทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ ก็ถูกไล่ออกอีกก่อนนัดชิงคาราบาว คัพ ไม่กี่วัน
ตอนนี้กุนซือวัย 59 ปี มีโอกาสกลับมาสร้างชื่อให้ตัวเองอีกครั้ง เมื่อพาโรม่า ทะยานผ่านเข้าชิงชนะเลิศยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ได้สำเร็จ
ล่าสุด มูรินโญ่ ถูกถามในประเด็นที่ว่า คิดเห็นอย่างไร ที่ตนเองกับ คาร์โล อันเชลอตติ (นำเรอัล มาดริด เข้าชิงแชมเปี้ยนส์ลีก) ถูกวิจารณ์ว่าเป็นกุนซือตกยุค สไตล์ทำทีมล้าหลังไปแล้ว
กุนซือชาวโปรตุกีส ปกป้องตัวเองและอันเชลอตติ โดยระบุว่าเป็นเพราะสโมสรเก่า ไม่ใช่จากตัวพวกเขา
“ผมเชื่อว่าปัญหาของคาร์โล อันเชลอตติ คือ เมื่อคุณเป็นโค้ชเอฟเวอร์ตัน มันไม่เกี่ยวกับการได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก” มูรินโญ่ ตอบคำถาม
“และกับตัวผม คุณรู้ไหม คนที่พวกเขามองว่า ผมสามารถรับงานที่พวกเขาคิดว่าจะพาทีมคว้าแชมป์ได้ แต่งานของพวกเขาไม่ใช่ที่เราคาดหวังจะได้ชูถ้วยรางวัล”
“แต่เมื่อคุณมีอาชีพที่ต้องพาทีมคว้าแชมป์ มันก็พูดได้เลยว่า คุณคิดไว้แล้วล่ะว่าจะต้องมีผู้คนพูดออกมาแบบนั้น โดยส่วนตัวผมไม่กังวลในเรื่องนี้ (ถูกแทนที่ด้วยโค้ชอายุน้อยกว่า) ผมไม่ได้คิดหรือมุ่งมั่นไปที่เจเนเรชั่น ผมโฟกัสที่คุณภาพมากกว่า”
“มันคือเรื่องของคุณภาพ แรงจูงใจ และแพสชั่น ถ้าหมดแพสชั่นทุกอย่างก็คงจบไปแล้ว, ไม่มีแรงกดดันจากเกมใหญ่ๆ มันก็คงจบไปแล้ว ผมรู้ตัวผมดี ผมรู้จักคาร์โลโต้ดีเช่นกัน”
“เราจะเป็นคนบอกเอง เมื่อไหร่ที่เราต้องการหยุด เกรงว่าคุณจะต้องรออีกนานกว่าที่ผมจะพูดคำว่า มันจบแล้ว”