เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทีมชาติ ยูเครน เปิดสนาม เอ็นเอสเค โอลิมปิจ์สกี้, กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน ต้อนรับการมาเยือนของทัพตราไก่ ทีมชาติ ฝรั่งเศส ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ดี เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 4 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น ยูเครน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โอเล็กซานเดอร์ เปตราคอฟ มาเล่นในระบบ 3-4-3 นำทีมโดย มีโคล่า ชาปาเรนโก้ เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ปีกตัวจี๊ด และ โรมัน ยาเรมชุค ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ฝรั่งเศส ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ดีดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย ปอล ป็อกบา กองกลางห้องเครื่องจอมลีลา อองตวน กรีซมันน์ กองหน้าตัวทำเกม และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กองหน้าตัวเป้าของทีม
นาที 3
เริ่มเกมมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ยูเครน ที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะที่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ทำเสียบอลที่หน้าเขตโทษ แล้วเป็น อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ฉกมาได้แล้วลากขึ้นมาซัดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ บอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล
นาที 8
เจ้าถิ่น ยูเครน บุกขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านขวา อังเดร ยาร์โมเลนโก้ โยกมาเปิดด้วยซ้าย บอลพุ่งแรงโค้งสวยมาที่กลางประตู แล้วเป็น วิคเตอร์ ทซีกานคอฟ วิ่งโฉบมาโหม่งเสยเช็ดบาง ๆ ส่งบอลหลุดกรอบเสาไกลออกไปอีก
นาที 10
ทีมเยือน ทัพตราไก่ ฝรั่งเศส ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง เป็นจังหวะได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย อองตวน กรีซมันน์ เปิดปั่นบอลโค้งเข้าที่กรอบ 6 หลา แล้วเป็น ปอล ป็อกบา วิ่งสอดเทคตัวขึ้นไปโขก บอลแฉลบหัวของ อิลิย่า ซาบาร์นยี่ แนวรับยูเครน ที่ขึ้นพร้อม ๆ กัน ลอยไปตรงตัว อังเดร เปียตอฟ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับไว้ได้สบาย
นาที 18
เจ้าถิ่น ยูเครน บุกขึ้นมาได้จบอีกครั้ง เป็นจังหวะ อังเดร ยาร์โมเลนโก้ กระชากพาบอลขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะครอสเร็วลึกไปที่เสาไกลเข้าทาง โรมัน ยาเรมชุค ได้วิ่งสอดมากระโดดแปด้วยซ้ายไม่จับ บอลลอยโด่ง เหินข้ามคานออกไป แบบไม่ได้ลุ้นอะไรเลย
นาที 20
ปอล ป็อกบา ได้บอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวพยายามจะแทงบอลแต่ติดบล็อค บอลกระดอนกลับมาเข้าทางมิดฟิลด์จอมลีลารายนี้อีกครั้ง คราวนี้วิ่งไปหวดด้วยขวาเต็ม ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงก็จริง แต่ก็เหินข้ามคานออกไปไกลอยู่ดี
นาที 27
ทีมเยือน ฝรั่งเศส มีลุ้นได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ปอล ป็อกบา ตักบอลโด่งเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ได้สอดขึ้นไปโหม่งชงย้อนกลับหลังมาที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายตั้งให้ อองตวน กรีซมันน์ วิ่งมาฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้าย พุ่งแรงกระดอนพื้นหนีมือ อังเดร เปียตอฟ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เฉียดเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว
นาที 32
ทีมเยือน ฝรั่งเศส บุกสวนกลับเร็วขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย บอลมาที่ คิงสลี่ย์ โกมัน เจ้าตัวลากจี้แล้วกระชากตัดเข้าใน ก่อนจะปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงหลุดกรอบ เหินข้ามคานออกไปไกล
นาที 35
เจ้าถิ่น ยูเครน พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย มีโคล่า ชาปาเรนโก้ เปิดบอลโด่ง ลึกไปที่เสาไกลให้ อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ได้ซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งแรงไปติดเซฟ อูโก้ โยริส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ปัดบอลพุ่งไปโดน เคิร์ต ซูม่า กระเด้งมาเข้าทางปืน อิลิย่า ซาบาร์นยี่ ได้ถอยมาตวัดยิงเร็วด้วยซ้ายที่หน้าประตู ระยะแค่ 6 หลา บอลเหินข้ามคาน หลุดกรอบออกหลังไปเอง อย่างไม่น่าเชื่อสุด ๆ
นาที 37
เจ้าถิ่น ยูเครน บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบ แล้วเป็น ตาราส สเตฟาเนนโก้ เล่นลูกสูตร ยกบอลโด่งข้ามแนวรับมาเข้าไปในเขตโทษให้ อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ได้วิ่งสอดหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปโขกคนเดียว ทว่าจังหวะโหม่ง โดนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บอลเบาแถมไปตรงตัวของ อูโก้ โยริส ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย
นาที 43
ทีมเยือน ฝรั่งเศส น่าจะได้ประตุขึ้นนำ เป็นจังหวะ อองตวน กรีซมันน์ ทำชิ่งส่งมาให้กับ ปอล ป็อกบา ตรงกึ่งกลางสนาม เจ้าตัวแทงบอลเร็วจังหวะเดียว ทะลุช่องคิลเลอร์พาสสุดงามให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ได้วิ่งสอดทำลายกับดักล้ำหน้า หลุดเดี่ยวไปแปด้วยขวาเน้น ๆ ไปติดเซฟของ อังเดร เปียตอฟ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ อ่านเกมได้ดี ออกมาปิดมุมอย่างไว ทิ้งตัวใช้ขาขวางบอลเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 44 GOAL!!!
จากจังหวะต่อเนื่อง กลายเป็นเจ้าถิ่น ยูเครน ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะสวนกลับเร็วขึ้นมาทางขวา โรมัน ยาเรมชุค กระชากหลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นหลัง ก่อนตบเลียดเข้ากลางไปติด เคิร์ต ซูม่า สกัดบอลไม่ดี กลายเป็นไหลบอลไปที่หัวกระโหลกตั้งให้ มีโคล่า ชาปาเรนโก้ ที่วิ่งมาตามขึ้นมา ได้ปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ไม่จับ บอลพุ่งแรงโค้งสวยผ่านมือ อูโก้ โยริส ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาขวามือเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก เป็นทีมเยือนฝรั่งเศส ที่ครองบอลได้มากกว่าตามสไตล์ เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกได้อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังขาดความเฉียบคม ส่วนทางด้านเจ้าถิ่น ยูเครน ถึงแม้จะได้บุกน้อยกว่า แต่สวนกลับขึ้นมาแต่ละทีได้ลุ้นตลอด สุดท้ายมาได้ประตูสุดสวย ชิงขึ้นนำไปก่อนจนได้ สกอร์ตอนนี้ ยูเครน 1 ฝรั่งเศส 0 !!!
นาที 50 GOAL!!!
เปิดฉากครึ่งหลังมาได้แค่แปปเดียว เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพตราไก่ ฝรั่งเศส ที่ได้ประตูตามตีเสมออย่างรวดเร็วเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะ คิงส์ลี่ย์ โกมัน ได้บอลทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงครอสบอลโค้งเข้าไปที่กลางประตูให้ อาเดรียง ราบิโอต์ ได้โฉบมาโหม่งแต่โดนแค่บาง ๆ บอลเลยไปติดหลังของ โอเล็กซานเดอร์ ทีมชิค กระดอนมาที่หน้าเสาแรกขวามือเข้ามาง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ซัดเร็วด้วยขวาไม่จับโล่ง ๆ พุ่งไปติดขา อังเดร เปียตอฟ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ทว่าด้วยความที่บอลแรง สุดท้ายปลิ้นเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก
นาที 60
เกมดำเนินมาครบหนึ่งชั่วโมงเต็ม ทั้งสองทีมเปิดเกมผลัดกันรุกผลัดกันรับได้อย่างสนุกสูสี แนวรับของทั้งคู่ ยังช่วยกันสกัดกั้นเอาไว้ได้ตลอด ก่อนที่บอลได้เข้าไปในพื้นที่อันตราย ทำให้แฟน ๆ แทบไม่เห็นจังหวะได้จบเหน่ง ๆ เลย จนถึงนาทีนี้
นาที 62
ทีมชาติ ฝรั่งเศส สวนกลับเร็วขึ้นมาทางขวา คิงส์ลี่ย์ โกมัน ได้บอลแล้วดึงจังหวะรอเพื่อน เจ้าตัวไหลฝากไปที่หัวกระโหลกให้ อองตวน กรีซมันน์ ได้วิ่งสอดมาแตะบอลเข้าเขตโทษ ก่อนจะรีบซัดเร็วด้วยขวา ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 66
ทีมเยือน ฝรั่งเศส พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูพลิกขึ้นนำ เป็นจังหวะ ได้เตะมุมทางฝั่งขวา แล้วเป็น อองตวน กรีซมันน์ เล่นสั้นทำชิ่งเปลี่ยนจุดกับเพื่อน ก่อนที่เจ้าตัวจะเป็นคนเปิดโด่งด้วยซ้ายที่กรอบเขตโทษด้านขวา บอลพุ่งแรงโค้งสวยไปที่กลางประตูเข้าทาง เคิร์ต ซูม่า ได้เทคตัวขึ้นโหม่งสะบัดเน้น ๆ โล่ง ๆ คนเดียว ทว่ากดไม่ลง บอลเฉียดคาน หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 77
ทีมเยือน ทัพตราไก่ ฝรั่งเศส เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ อูเรเลียง ชูอาเมนี่ ครอสเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น คาริม เบนเซม่า ที่เก็บได้ เจ้าตัวดีดสั้น ๆ ย้อนหลังมาให้ มุสซ่า ดิยาบี้ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้ลากหนีกองหลังเจ้าถิ่น หลุดมาถึงหน้าเสาไกลซ้ายมือ ก่อนจะกดด้วยซ้ายเน้น ๆ ไปชนเสาอย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
นาที 79
ทีมเยือน ฝรั่งเศส ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษ โหมบุกใส่เจ้าถิ่นอย่างหนัก จังหวะนี้ แอบ ป็อกบา ขอลองส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงเป็นจรวดแล้วฮุคลง แต่ทว่ายังไม่หนีมือเท่าไหร่ อังเดร เปียตอฟ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ยังยืนตำแหน่งได้ดี เขยิบมารับเอาไว้ได้ทัน
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน ฝรั่งเศส ที่บุกมาทำได้แค่เสมอกับเจ้าถิ่น ยูเครน ไปด้วยสกอร์ 1-1 !!! เก็บได้แค่หนึ่งคะแนน ยังคงรั้งจ่าฝูงของกลุ่มอยู่เหมือนเดิม โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับฟินแลนด์ ในวันพุธที่ 8 กันยายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านยูเครน อยู่อันดับที่ 3 ของตารางคะแนน นัดต่อไปจะออกไปเยือนฟินแลนด์เช่นกัน แต่เป็นวันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม 2564 ถัดไปอีกหนึ่งเดือน