เกมการแข่งขัน ระหว่างเจ้าถิ่นทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ) เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง (นัดแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกไปเอาชนะปารีส แซงต์ แชร์กแมง มาได้ก่อนแล้วถึงถิ่น 2-1)
เกมนี้ เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย แฟร์นันดินโญ่ มิดฟิลด์ตัวรับจอมเก๋า ริยาด มาห์เรซ ปีกตัวพลิ้ว และ เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย มาร์โก แวร์รัตติ มิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะทีมชาติอิตาลี อังเคล ดิ มาเรีย ปีกตัวจี๊ดทีมชาติอาร์เจนตินา และ เนย์มาร์ กองหน้าบราซิลตัวความหวังของทีม
นาที 7
เริ่มเกมมา ก็มีดราม่าทันที เมื่อผู้ตัดสินแจกจุดโทษให้กับทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เป็นจังหวะ ครอสเข้ามาในเขต แล้วบอลดูเหมือนจะโดนแขนของ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ ก่อนจะเช็ค VAR อยู่พักใหญ่ แล้วกลับลงมาเปลี่ยนคำตัดสิน ริบจุดโทษคืนให้เล่นต่อไป ซึ่งภาพช้าจะเห็นว่าบอลโดนตรงหัวไหล่
นาที 11 GOAL!!!
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 !!! เป็นจังหวะโต้กลับเร็ว เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น วางบอลยาวขึ้นหน้าออกไปทางกราบซ้ายให้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ สปีดวิ่งหน้าตั้งไปเอาบอล หลุดไปถึงกรอบเขตโทษด้านซ้าย
ก่อนจะปาดเลียดไปตรงกลางประตูให้ เควิน เดอ บรอยน์ จับแล้วยิงติดบล็อก บอลกระเด้งมาที่เสาสองเข้าทาง ริยาด มาห์เรซ ได้ซัดมุมแคบจ่อ ๆ ลอดขา เกย์ลอร์ นาวาส ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย
นาที 15
ทีมเยือน ได้ฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง เนย์มาร์ วิ่งมาปั่นด้วยขวาเน้น ๆ บอลไปติด แฟร์นันดินโญ่ ที่ยืนเป็นกำแพง กระดอนออกหลังไป ได้เป็นลูกเตะมุมแทน
นาที 16
จังหวะต่อเนื่อง ทีมเยือน เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะได้เตะมุม แล้วโดนเคลียร์ออกมาได้ อังเคล ดิ มาเรีย ตามมาเก็บบอลได้ทางกราบซ้าย ก่อนจะบรรจงเปิดโค้งลึกไปเสาไกลให้ มาร์กินญอส ได้โหม่งเต็ม ๆ แต่บอลพุ่งไปชนคานอย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 18
ทีมเยือน น่าจะได้ประตูตีเสมอแบบสุด ๆ เป็นจังหวะความผิดพลาดของเจ้าถิ่น เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ออกบอลมาให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา แต่โดน อังเคล ดิ มาเรีย ฉกได้ ก่อนที่เจ้าตัวจะลักไก่ ยิงเร็วสวนไปที่ประตู บอลดันหลุดเสาไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 30
เจ้าถิ่น ต่อบอลกันขึ้นมาตรงกลาง อิลคาย กุนโดกัน พาบอลลากจี้ขึ้นมาก่อนจะไหลต่อให้ เควิน เดอ บรอยน์ ตรงหน้าเขตโทษ เจ้าตัวแต่งหาช่องยิง ก่อนจะสบโอกาส ซัดด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งโค้งสวย แต่หลุดกรอบออกไปนิดเดียว
นาที 36
ทีมเยือน สวนกลับขึ้นมาทางกราบซ้าย เนย์มาร์ พลิ้วพาบอลขึ้นมาเอง ก่อนจะไหลเข้ากลางให้ อันเดร์ เอร์เรร่า แตะบอลหนีผู้เล่นเจ้าถิ่นแต่งเข้าขวา ก่อนจะซัดไกลนอกกรอบเขตโทษทันที บอลพุ่งเหินข้ามคานออกไปไม่ไกล
นาที 45+2
เจ้าถิ่น ขึงเกมรุกกันขึ้นมาอยู่หน้ากรอบเขตโทษของทีมเยือน บอลสุดท้ายมาอยู่ที่ ริยาด มาห์เรซ ในกรอบเขตโทษด้านขวา เจ้าตัวเลี้ยงจี้โยกหลบตัวประกบ แล้วยิงด้วยขวายัดมุมแคบที่เสาแรกทันที แต่ เกย์ลอร์ นาวาส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนปิดมุมอยู่ ล้มตัวเอาขาเซฟไว้ได้ทัน บอลยังไม่พ้นอันตราย กระเด้งมาที่หน้าประตูเข้าทาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้ซ้ำดาบสอง แต่บอลจวนตัวยิงได้ไม่ดี บอลหลุดเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น ก็เป็นฝ่ายครองบอลบุกใส่ทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง ส่วนทางด้านทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ก็มีจังหวะได้สวนกลับขึ้นมาได้ลุ้นอยู่หลายครั้ง แต่ยังเปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้ เจ้าถิ่นเลยนำอยู่ 1-0 !!!
นาที 54
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะสวนกลับขึ้นมาตรงกลาง เควิน เดอ บรอยน์ แทงบอลทะลุช่องคิลเลอร์พาสให้ ฟิลโฟเด้น หลุดเข้าไปในเขตโทษแล้วซัดเร็ว แต่ติดเซฟของ เกย์ลอร์ นาวาส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ออกมาปิดมุมได้ไว ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าย้อนมาให้เป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน
นาที 55
เจ้าถิ่น ขึงเกมรุกกันอยู่หน้าเขตโทษของทีมเยือน แฟร์นันดินโญ่ ครองบอลหาช่องอยู่ตรงกลาง ก่อนจะชิพเข้าเขตโทษแต่โดนสกัดออกมา บอลลอยออกมาหน้าเขตโทษอีกครั้งเข้าทาง ฟิล โฟเด้น ได้ตะบันด้วยขวาจังหวะเดียวไม่จับ บอลพุ่งแรง แต่ตรงตัวของ เกย์ลอร์ นาวาส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ทุบทิ้งออกมาได้ทัน
นาที 61
ทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์ก แมง ได้หาจังหวะบุกขึ้นมาตอบโต้บ้าง อังเคล ดิ มาเรีย หลุดขึ้นมาทางขวา ก่อนจะเปิดติดบล็อก บอลกระดอนมาที่เจ้าตัวได้เปิดอีกที คราวนี้บอลโดนโหม่งสกัดลอยออกมาหน้ากรอบเขตโทษ เข้าทาง อันเดร์ เอร์เรร่า ได้ส่องไกลสวนเข้าไปอีกหน แต่ก็ยังติดบล็อกอีก เจ้าตัวฟ้องจะเอาแฮนด์บอล แต่ผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไร
นาที 63 GOAL!!!
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะสวนกลับขึ้นมาทางฝั่งซ้ายของ ฟิล โฟเด้น กระชากพาบอลขึ้นมาเอง ก่อนจะไหลเข้ากลางทำชิ่ง 1-2 กับ เควิน เดอ บรอยน์ แทงทะลุช่องคืนให้เจ้าตัว หลุดไปในกรอบเขตโทษด้านซ้าย แล้วปาดเลียดไปที่เสาสองให้ ริยาด มาห์เรซ ได้วิ่งสอดมาแปโล่ง ๆ ด้วยซ้าย เข้าประตูไปอย่างง่ายดาย เป็นประตูที่สอง ของปีกทีมชาติแอลจีเรีย รายนี้อีกด้วย
นาที 69 ใบแดง!!!
ทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน เป็นจังหวะ อังเคล ดิ มาเรีย กำลังวิ่งไปเอาบอลมาทุ่มที่ข้างสนาม แต่ถูก แฟร์นันดินโญ่ ตามมาขวางบอลยั่วอารมณ์ เจ้าตัวเลยหัวร้อนเล่นนอกเกมย่ำใส่ขาของ แฟร์นันดินโญ่ ซะเลย ผู้ตัดสินไม่รอช้า แจกใบแดง ไล่เจ้าตัวออกจากสนามไป
นาที 71
หลังจากมีใบแดง ดูเหมือนเกมจะเริ่มเดือด มีจังหวะฟาล์วรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จังหวะนี้ เลอันโดร ปาเรเดส ไปโยนบอลใส่ ฟิล โฟเด้น ที่นอนเจ็บอยู่ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ไม่พอใจปรี่เข้าไปเอาเรื่อง จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นเล็กน้อย ผู้ตัดสินไล่แจกใบเหลืองกันไป ให้สงบสติอารมณ์
นาที 77
เจ้าถิ่น ที่ตัวผู้เล่นมากกว่าเล่นสบาย ครองบอลบุกใส่ทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้เกือบได้ประตูหนีห่าง เมื่อ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ งัดบอลให้ แฟร์นันดินโญ่ หลุดไปทางขวา ก่อนจะดีดบอลเร็วเข้าเขตโทษต่อให้ ฟิล โฟเด้น ได้พลิกตัวหนีตัวประกบได้สวย กระชากแต่งบอลเข้าซ้าย ก่อนจะซัดเร็วพุ่งโค้งไปชนเสาไกล กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 80
เจ้าถิ่น ตัดบอลได้ตรงกลางสนามโดย แฟร์นานดินโญ่ โหม่งจ่ายเร็วให้ เควิน เดอ บรอยน์ ในกรอบเขตโทษ เจ้าตัวแตะบอลไหลกลับหลังมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้ ฟิล โฟเด้น ได้วิ่งมาซัดเต็ม ๆ แต่บอลก็ดันพุ่งไปตรงตัวของ เกย์ลอร์ นาวาส ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเข้าซองไว้ได้สบาย
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไปได้เบาะ ๆ 2-0 !!! แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ด้วยสกอร์รวมสองนัด 4-1 !!!