เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ เปิดสนาม เซลเฮิร์สท์ พาร์ค, เซาธ์นอร์วูด กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพนกนางนวล ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 6 เมื่อค่ำคืนวันจันทร์ที่ 27 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ปาทริค วิเอร่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย ลูก้า มิลิโวเยวิช กองกลางห้องเครื่อง วิลฟรีด ซาฮา กองหน้ากึ่งปีกจอมลากเลื้อย และ อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ ดาวยิงตัวใหม่ป้ายแดงของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ แกรม พอตเตอร์ มาเล่นในระบบ 3-4-3 นำทีมโดย ปาสกาล กรอสส์ กองกลางตัวสร้างสรรค์เกม เลอันโดร ตรอสซาร์ ตัวทำเกมริมเส้นทีมชาติเบลเยี่ยม และ แดนนี่ เวลเบ็ค ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
นาที 7
เริ่มเกมมา ทั้งสองทีมเปิดแลกกันทันที แล้วเป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ที่มีโอกาสได้ลุ้นทักทายก่อน จากจังหวะ ไทริค มิทเชลล์ ดันสูงขึ้นมารับบอลทางกราบซ้าย ก่อนจะบรรจงครอสเข้าไปที่กลางประตูให้ อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ ศูนย์ตัวใหม่ ได้โหม่งเต็ม ๆ แต่บอลไม่ตรงกรอบ หลุดออกหลังไปไกล
นาที 8
เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ได้เตะมุมทางฝั่งขวา ลูก้า มิลิโวเยวิช เปิดโด่งเข้าไปลุ้นที่กลางประตู แล้วเป็น เชน ดัฟฟี่ โหม่งเคลียร์ทิ้งออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ได้ขยับหาช่อง ก่อนจะหวดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ทว่าบอลพุ่งไปติดหัวของ ลูอิส ดังค์ โหม่งทิ้งออกมาได้ทัน เสียเป็นเตะมุมอีกครั้ง
นาที 15
ช่วงต้นเกม เป็นเจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ที่ครองบอลบุกได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทว่ายังไม่มีโอกาสหลุดเข้าไปจบสกอร์แบบเน้น ๆ ในพื้นที่สุดท้ายได้เลย ในขณะที่ทีมเยือน ไบรท์ตัน ยังตั้งเกมไม่ได้ โอกาสสับไกในเขตโทษไม่มีแม้แต่ครั้งเดียว สกอร์ยัง 0-0 !!!
นาที 19
เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ยังคงได้ครองบอลบุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้เป็นการประสานงานต่อบอลทำชิ่งกันที่หน้าเขตโทษ โยอาคิม อันเดอร์เซ่น ดันสูงขยับขึ้นมารับบอลบริเวณริมกรอบเขตโทษ ก่อนจะจ่ายเข้าเขตโทษให้ อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ ได้แต่งหาช่องแล้วตวัดยิงเร็วด้วยขวาทันที บอลพุ่งผ่านบล็อคแนวรับทีมเยือน แต่ดันไปตรงตัวของ โรเบิร์ต ซานเชซ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเข้าซองเอาไว้ได้สบาย
นาที 25
เกมดำเนินมาถึงครึ่งทางของครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ได้ฟรีคิกระยะค่อนข้างไกลทางฝั่งขวา ลูก้า มิลิโวเยวิช รับอาสา เจ้าตัวทำท่าจะเปิด แต่เล่นลูกลักไก่ ตัดสินใจซัดเองเน้น ๆ ผ่านกำแพง หลุดกรอบออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้นอะไรเลย
นาที 29
ทีมเยือน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ อดัม ลัลลาน่า ป้ายบอลออกขวามาให้ ปาสกาล กรอสส์ กระชากหนี ไทริค มิทเชลล์ ได้หลุดมาทางริมกรอบเขตโทษ เจ้าตัวมีพื้นที่มีเวลา ก่อนจะบรรจงเปิดเลียดเข้าไปที่กลางประตูบริเวณกรอบ 6 หลาให้ เลอันโดร ตรอสซาร์ สอดมาชาร์จเน้น ๆ ไม่จับ ส่งบอลไปที่เสาแรกขวามือ เฉียดเสาหลุดกรอบออกหลังไปแค่นิดเดียวเท่านั้น
นาที 32
ทีมเยือน ไบรท์ตัน มีโอกาสได้ลุ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ จังหวะนี้ โรเบิร์ต ซานเชซ ผู้รักษาประตูทีมเยือน วางบอลยาวจากแดนตัวเองอย่างแม่นให้ แดนนี่ เวลเบ็ค ได้วิ่งสอดทำลายกับดักล้ำหน้า กระชากเข้าไปในเขตโทษ จังหวะสุดท้ายเจ้าตัวโดนเบียดเสียหลัก ทว่ายังแหย่เท้าจิ้มได้ทัน บอลพุ่งไปตรงตัวของ บิเซนเต้ ไกวต้า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น
นาที 35
เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ กลับมาเป็นฝ่ายได้บุกอีกครั้ง จังหวะนี้ วิลฟรีด ซาฮา ได้บอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวแต่งหาช่อง ก่อนจะซัดไกลด้วยขวาเน้น ๆ พุ่งแรงน่ากลัว แต่ดันไปตรงตัวของ โรเบิร์ต ซานเชซ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้ทัน
นาที 38
ทีมเยือน ไบรท์ตัน ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย ปาสกาล กรอสส์ เปิดปั่นโค้งมาที่กลางประตู แล้วเป็น มาร์ค เกฮี เคลียร์บอลไม่ขาดเข้าทาง อดัม ลัลลาน่า เก็บบอลแถวสองได้ฮาล์ฟวอลเลย์หวดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลแรง เหินข้ามคาน ลอยออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 45+2 GOAL!!!
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ที่ได้ประตูออกนำเป็น 1-0 !!! จากจังหวะที่ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ พลิ้วพาบอลหนี มาร์ก กูกูเรย่า หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะโดน เลอันโดร ตรอสซาร์ ที่เข้าบอลพรวด ตามมาปะทะอย่างจังร่วงล้มลงไป ผู้ตัดสิน อังเดร มาร์ริเนอร์ ไม่รอช้า วิ่งมาเป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษของเจ้าถิ่นทันที แล้วเป็น วิลฟรีด ซาฮา รับหน้าที่สังหาร ซัดเข้าประตูไป ไม่พลาด
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ที่ครองบอลได้มากกว่า รูปเกมก็ทำได้ดีกว่าทีมเยือน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน อย่างเห็นได้ชัด ขาดเพียงแค่จังหวะจบในพื้นที่สุดท้ายเท่านั้น ที่ยังทำได้ไม่ดีเอง ทว่าอย่างไรก็ตาม ปราสาทเรือนแก้ว มาได้จุดโทษช่วงท้าย ยิงประตูออกนำนกนางนวล ไปก่อนแล้ว 1-0 !!!
นาที 51
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ที่ได้ลุ้นก่อนเลย เป็นจังหวะได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้าย มาร์ก กูกูเรย่า เปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น ลูอิส ดังค์ อาศัยความแข็งแกร่ง เบียดเอาชนะแนวรับคริสตัล พาเลซ ได้เทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ คนเดียว บอลทำท่าจะย้อยเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่เป็น บิเซนเต้ ไกวต้า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผวาบินปัดออกหลังได้ทันหวุดหวิด ได้เป็นเตะมุม
นาที 52
ถัดมาแค่นาทีเดียว เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ได้ตอบโต้แบบทันควัน เป็นจังหวะความผิดพลาดของ โรเบิร์ต ซานเชซ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่จ่ายบอลไม่ดีเข้าทาง อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ ได้แทงบอลทะลุช่องเร็วให้ วิลฟรีด ซาฮา หลุดเข้าเขตโทษไปซัดเน้น ๆ ติดเซฟของนายทวารทีมเยือน ที่ตามมาแก้ตัวได้ทัน ทว่าไลน์แมนยกธงว่าล้ำหน้า ถ้าเข้าก็อาจจะไม่ได้ประตูอยู่ดี
นาที 65
เกมต้องหยุดชะงักไปพักใหญ่ ๆ เมื่อ สตีเว่น อัลซาเต้ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาของทีมเยือน โชคร้ายเกิดอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรงบริเวณหัวเข่า ทีมแพทย์ต้องรีบวิ่งมาดูอาการ ก่อนจะเล่นต่อไม่ไหว โดนหิ้วปีกออกจากสนาม สุดท้าย เกรแฮม พ็อตเตอร์ กุนซือคนเก่ง จัดการส่ง ยาคุบ โมเดอร์ ลงมาเล่นแทน
นาที 70
เกมเข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย เป็นทางฝั่งทีมเยือน ไบรท์ตัน ที่ทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน ทัพนกนางนวลครองบอลบุก ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่นได้อย่างต่อเนื่อง ทว่ามีปัญหาในเรื่องการจบสกอร์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนทางด้าน คริสตัล พาเลซ ทำได้เพียงแค่คอยตั้งรับ ยังไม่มีโอกาสได้ยิงประตูหนีห่างเลย แม้แต่ครั้งเดียว
นาที 77
เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ดักตัดบอลได้ตรงกลางสนาม แล้วเป็น คริสติย็อง เบนเตเก้ สอดมารับช่วงต่อ กระชากพาบอลขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะแทงบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ จอร์แดน อายิว หลุดไปกดด้วยขวาโล่ง ๆ แบบไร้ตัวประกบ ส่งบอลหลุดเสาแรกออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อ
นาที 90
ช่วงท้ายเกม ทีมเยือน ไบรท์ตัน น่าจะได้ประตูตีเสมอแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้าย ปาสกาล กรอสส์ เจ้าเก่า รับหน้าที่ บรรจงเปิดบอลเข้าไปที่กลางประตู บริเวณกรอบ 6 หลาให้ เชน ดัฟฟี่ ได้เทคตัวโขกกดลงพื้นเน้น ๆ เต็มแรง ทว่าบอลดันไปตรงตัวของ บิเซนเต้ ไกวต้า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้อย่างน่าเสียดาย
นาที 90+5 GOAL!!!
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมเยือน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะความผิดพลาดของ บิเซนเต้ ไกวต้า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่เปิดบอลไม่ดีโดน โยเอล เฟลท์มัน ดักได้ตรงกลางสนาม เจ้าตัวเบิ้ลบอลจังหวะเดียว ลอยโด่งข้ามแนวรับสวนกลับเข้าไปในเขตโทษให้ นีล โมเปย์ ได้หลุดเดี่ยว ก่อนจะยกบอลข้ามหัว บิเซนเต้ ไกวต้า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเหนือชั้น
หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ เปิดบ้านเสมอกับทีมเยือน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ไปด้วยสกอร์ 1-1 !!! รั้งอันดับที่ 15 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเลสเตอร์ ซิตี้ ในวันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านไบรท์ตัน อยู่อันดับที่ 6 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านเจอกับอาร์เซน่อล ในวันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม ก่อนหน้าหนึ่งวัน