เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น โอลิมปิก มาร์กเซย เปิดสนาม สต๊าด ออเรนจ์ เวโลโดรม, เมืองมาร์กเซย ประเทศฝรั่งเศส ต้อนรับการมาเยือนของทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในศึกฟุตบอล ลีก เอิง ฝรั่งเศส เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา เป็นศึก เลอ คลาสสิค
เกมนี้ เจ้าถิ่น โอลิมปิก มาร์กเซย ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ฮอร์เก้ ซามเปาลี มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย ดิมิทรี ปาเยต เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม เจงกิส อุนแดร์ ปีกตัวจี๊ด และ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค กองหน้าตัวจบสกอร์ของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน นำทีมโดย มาร์โก แวร์รัตติ มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม ลิโอเนล เมสซี่ เพลย์เมกเกอร์ตัวเทพ และ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ศูนย์หน้าดาวซัลโวของทีม
นาที 4
เปิดฉากครึ่งแรกมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น โอลิมปิก มาร์กเซย ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะฟรีคิกกลางสนามฝั่งขวา ดิมิทรี ปาเยต เปิดบอลโด่ง ปั่นบอลโค้งเข้าไปในเขตโทษให้ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค ได้เทคตัวขึ้นโหม่งย้อนศรเน้น ๆ ส่งบอลเปลี่ยนทาง พุ่งเฉียดเสาแรก เสียดายหลุดออกหลังไปนิดเดียว
นาที 6
เจ้าถิ่น โอลิมปิก มาร์กเซย บุกมาอีกครั้งติด ๆ กัน จังหวะนี้ โปล ลิโรล่า ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะครอสเข้ากลางแล้วโดน มาร์กินญอส โหม่งเคลียร์สกัดลอยออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง บูบาการ์ กามาร่า ได้หวดด้วยขวานอกกรอบสวนกลับเข้าไป ทว่าบอลยังไม่เข้าเป้า เหินข้ามคานขึ้นอัศจรรย์
นาที 14 VAR!!!
ทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ อังเคล ดิ มาเรีย กระดกบอลข้ามแนวรับให้ เนย์มาร์ ได้วิ่งสอดตามช่อง หลุดทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะได้ช่องตวัดเร็วกึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตูโดน ลูอัน เปเรส สกัดผิดเหลี่ยม เปลี่ยนทางปลิ้นเข้าประตูตัวเองไป ซุกก้นตาข่าย ทว่าโชคยังดีที่ ผู้ตัดสิน เบอร์นัวต์ บาสเตียน ริบประตูคืน เนื่องจาก วีเออาร์ ฟ้องว่าเป็นลูกล้ำหน้าของกองหน้าทีมชาติบราซิลเสียก่อน
นาที 16
เจ้าถิ่น โอลิมปิก มาร์กเซย บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ ตัดบอลได้แล้วโต้กลับเร็ว เจงกิส อุนแดร์ ติดเครื่องกระชากหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่ปีกทีมชาติตุรกีจะตัดสินใจซัดเร็วด้วยซ้ายมุมแคบ ส่งบอลพุ่งแรงเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดออกหลังไป
นาที 21 VAR!!!
เจ้าถิ่น โอลิมปิก มาร์กเซย เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ บูบาการ์ กามาร่า แทงบอลให้ โปล ลิโรล่า หลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะปาดเลียดเข้าไปที่กลางประตูถวายพานให้ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค สอดมาจับบอลหนึ่งที ตามด้วยหวดเน้น ๆ ด้วยซ้ายสวนตัว เคย์เลอร์ นาวาส ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ทว่าโดนสัญญาณ วีเออาร์ จากข้างสนาม ฟ้องมาว่าเป็นลูกล้ำหน้าซะก่อน อดได้ประตูแบบทางทีมเยือนเช่นกัน
นาที 26
ทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ อังเคล ดิ มาเรีย รับบอลแทง หลุดขึ้นมาทางสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสเข้าเขตโทษไปที่เสาแรกติดหัวของ วิลเลี่ยม ซาลิบา โหม่งสกัดไม่ขาดเลยไปเข้าทาง ลิโอเนล เมสซี่ ได้เทคตัวขึ้นโหม่งจ่อ ๆ หวิดจะเสียบใต้คานเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น เปา โลเปซ นายทวารเจ้าถิ่น ผวาปัดข้ามคานออกไปได้ทันเฉียดฉิว
นาที 31
ทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เครื่องเริ่มร้อน ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะโชว์สกิลเอาตัวรอด พลิ้วหนีตัวประกบ แล้วได้จิ้มจ่อ ๆ ยัดมุมแคบที่เสาแรกไปติดเซฟของ เปา โลเปซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น บอลกระเด้งออกมาเข้าทาง เนย์มาร์ พยายามปรี่มาจิ้มซ้ำ ทว่าก็ยังเป็นนายทวารเจ้าถิ่นเจ้าเก่า ขยับมาขวาง ป้องกันเอาไว้ได้เร็ว
นาที 35
ทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้ ลิโอเนล เมสซี่ ได้บอลลากจี้ขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา เจ้าตัวเปลี่ยนทิศทางกระชากตัดเข้าในมาถึงหน้ากรอบเขตโทษตามสูตร ก่อนได้เหลี่ยมแล้วซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ ลูกเก่ง ส่งบอลพุ่งไปติดเซฟของ เปา โลเปซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี ปัดเอาไว้ได้ทัน
นาที 40
ทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย อังเคล ดิ มาเรีย เปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่หน้าเสาไกลให้ เพรสแนล คิมเปมเบ้ ได้เทคตัวขึ้นโหม่งเหน่ง ๆ คนเดียวแต่ว่าโหนเกินไปหน่อย สุดท้ายกดไม่ลง บอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล
นาที 42
เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่ง ยังเป็นทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ยังได้ครองบอลบุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ลิโอเนล เมสซี่ ได้บอลหลุดมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะเล่นชิ่ง 1-2 กับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ตัดเข้าในมาได้จังหวะบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย เฉียดเสาไกลซ้ายมือ หลุดกรอบออกหลังไปนิดเดียว
นาที 45+2
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น โอลิมปิก มาร์กเซย ที่ได้ลุ้นส่งท้าย จากจังหวะ ดิมิทรี ปาเยต ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโค้ง ลอยลึกไปที่เสาไกลให้ เจงกิส อุนแดร์ วิ่งสอดมาวางเท้าวอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ ทว่าโดนไม่ดี บอลไต่หลังเท้า ปลิ้นลอยข้ามคานหลุดกรอบออกไป
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ครองบอลได้เยอะกว่า ทำเกมบุกมีโอกาสทำประตูเหนือกว่าเจ้าถิ่น โอลิมปิก ลียง อย่างเห็นได้ชัด ทว่าจังหวะจบยังไม่คมพอ สกอร์ตอนนี้ เสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!
นาที 56 ใบแดง!!!
จุดเปลี่ยนของเกมเกิดขึ้นในช่วงต้นครึ่งหลัง เมื่อทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคน จากจังหวะที่ เจงกิส อุนแดร์ แหวกสวนกลับเร็วขึ้นมาโดน อัชราฟ ฮาคิมี่ ตัดฟาล์วตามมาเหนี่ยวร่วงลงไปก่อนจะได้หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ ผู้ตัดสิน เบอร์นัวต์ บาสเตียน เป่าหยุดเกมขอวิ่งออกไปดู วีเออาร์ สุดท้ายหันกลับมาแจกใบแดงโดยตรง ไล่แบ็คขวาจอมบุกรายนี้ ออกจากสนามไปทันที
นาที 59
เจ้าถิ่น โอลิมปิก มาร์กเซย ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษเยื้อง ๆ ไปทางซ้าย แล้วเป็น ดิมิทรี ปาเยต ยืนเล็งอยู่นาน ก่อนจะซอยเท้ามาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งเหินข้ามคานออกไป แบบไม่ได้ลุ้นอะไรเลย
นาที 65
เจ้าถิ่น โอลิมปิก มาร์กเซย พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ดิมิทรี ปาเยต เก็บบอลทางฝั่งซ้าย ก่อนจะบรรจงครอสเข้าไปในเขตโทษให้ วาล็องแต็ง รงชิเย่ร์ สอดมาเทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ แบบไร้ตัวประกบ ส่งบอลกระดอนพื้น พุ่งเฉียดเสาไกล หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 75
เจ้าถิ่น โอลิมปิก มาร์กเซย อาศัยตัวผู้เล่นมากกว่า ครองเกมโหมบุกเข้าใส่ทีมเยือนอย่างหนัก จังหวะนี้ คอนราด เด ลา ฟูเอนเต้ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสบอลโด่งเลยไปที่เสาสองให้ เจงกิส อุนแดร์ ได้ตวัดยิงด้วยซ้ายเน้น ๆ ไม่กี่หลา ส่งบอลไปแฉลบบล็อกของ นูโน่ เมนเดส เปลี่ยนทางหลุดกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ได้เป็นเตะมุมแทน
นาที 77
เจ้าถิ่น โอลิมปิก มาร์กเซย พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ จังหวะนี้ เปเป้ เกย์ ครอสบอลโด่งจากทางกราบขวาเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น คอนราด เด ลา ฟวนเต้ ตัวสำรอง ได้ส้มหล่นโล่ง ๆ หน้าประตู ทว่าเจ้าตัวดันทำหมูหก ซัดยิงวืด ปล่อยบอลหลุดกรอบออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อ
นาที 90+2
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่น โอลิมปิก มาร์กเซย ได้ลุ้นเฮือกสุดท้าย เป็นจังหวะ เปเป้ เกย์ เก็บตกแถวสองได้ที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะขอลองวางเท้าซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงไปแฉลบบล็อกแนวรับทีมเยือน กระดอนหลุดออกหลังไป จบเกมทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์อยู่ที่ 0-0 !!!
หมดเวลาการแข่งขัน ทีมเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทำได้แค่บุกมายันเสมอกับเจ้าถิ่น โอลิมปิก มาร์กเซย ไปด้วยสกอร์ 0-0 !!! ยังคงนำโด่งจ่าฝูงของตารางคะแนน อยู่เหมือนเดิม โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับลีลล์ ในคืนวันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านมาร์กเซย อยู่อันดับที่ 4 ของตาราง นัดต่อไปต้องออกไปเยือนนีซ ในคืนวันพุธที่ 27 ตุลาคม ก่อนหน้าสองวัน