เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับว่ามีอาการเครียดจากการถูกลิเวอร์พูล ไล่ออกจากตำแหน่งจนต้องเข้าไปรับการตรวจภายในโรงพยาบาลหลังจากนั้น
“ตาหวาน” โดนยื่นซองขาวไล่ออกหลังเกมเสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 เมื่อ ต.ค.2015 ก่อนที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะเข้ามารับตำแหน่งแทน
ตอนซัมเมอร์ปี 2016 ร็อดเจอร์ส ตัดสินใจย้ายไปรับงานกับกลาสโกว เซลติกส์ ก่อนย้ายกลับมาคุม “จิ้งจอกสยาม” ในปี 2019
โค้ชชาวไอร์แลนด์เหนือ ย้อนความว่า “มีคนมากมายบอกให้ผมอย่าทำ (ไปเซลติก) ผมมีทางเลือกจะไปพรีเมียร์ลีก ผมมีทางเลือกไปจีน เพื่อโกยเงินมหาศาล”
“แต่ผมเป็นแฟนเซลติก ผมทราบดีว่าสโมสรใหญ่ขนาดไหน ผมรู้ถึงความคาดหวัง ผมรู้จักฐานแฟนบอล ผมรู้ว่ามันจะมีโอกาสลงเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก เหนือสิ่งอื่นใด ผมทราบดีว่ามีโอกาสที่จะได้แชมป์”
“ผมโชคดีมากๆ เพราะผมทราบดีว่า เซลติกคือสถานที่ที่ใช่สำหรับตัวเอง”
“ผมออกจากลิเวอร์พูล ตอนเดือน ต.ค. เป็นช่วงเริ่มต้นฤดูกาล เพิ่งผ่านเกมลีกไป 8 นัดเอง”
“ผมได้รับสายตอนคืนวันอาทิตย์หลังเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ เจ้าของทีมรู้สึกว่าพวกเขาจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ผมตอบรับการตัดสินใจนั้น นับตั้งแต่ตอนนั้นผมไม่ได้เป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลแล้ว”
“วันจันทร์ ผมได้รับข้อเสนองานใหม่ แต่ผมรู้สึกว่าผมอยากที่จะไปในที่ที่สามารถเริ่มต้นฤดูกาลได้”
“นอกเหนือจากนั้นผมจำเป็นต้องฟื้นฟู จำเป็นต้องปลีกตัวออกไป ลิเวอร์พูลมันขึ้นๆลงๆ ในสโมสรขนาดใหญ่ หนึ่งในสุดยอดสโมสรของโลก แม้แต่วันดีๆ มันยังยากลำบากเลย ผมเอ็นจอยกับทุกนาทีที่มี แต่มันก็เจ็บปวดด้วย”
“ผมอยากปลีกตัวออกไป สะท้อนช่วงเวลาของตัวเองกับลิเวอร์พูล แล้วก็ไปเรียกองค์ประกอบสองอย่างที่ผมเชื่อว่ามันสำคัญต่อผู้จัดการทีมทุกคนกลับมา นั่นคือพลังและความสุข”
“ไม่เกี่ยวหรอกนะว่าคุณจะทำอะไรในชีวิต ผมรู้สึกว่าคุณต้องการทั้งสองอย่างนี้ แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้จัดการทีมฟุตบอล สำหรับผมแล้วในตอนนั้น สองอย่างนี้สำคัญจริงๆ หากคุณมีพละกำลังและความสุข คุณก็จะทำงานได้ดีขึ้น”
“มันเป็นกรณีที่จะต้องปิดตัวไปจากวงการฟุตบอลสักพักหนึ่ง ใช้เวลาไปกับลูกๆ เดินทางไปเที่ยวกับภรรยา จากนั้นก็กลับมายังวงการตอนปีใหม่”
“ผมเดินทางไปสเปน 1 สัปดาห์ จากนั้นก็กลับมาแล้วบินไปดูไบ ในช่วงไม่กี่วันที่ดูไบ ผมไปโรงพยาบาล”
“ผมเข้ารับการตรวจทุกอย่าง เหมือนกับว่าตัวผมมีบางอย่างอยู่ข้างใน จากนั้นพวกเขาก็มีกระบวนการที่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับการทำงาน กับชีวิตของผม พวกเขารวบรวมสิ่งต่างๆเข้าด้วยกัน และมันปรากฏว่าร่างกายของผมตึงเครียดมาก ทั้งหมดทั้งมวลมันเกิดขึ้นในช่วงเวลาท้ายๆของผมกับลิเวอร์พูล”
“มันย้ำเตือนให้ผมรู้สึกถึงความกดดัน ความคาดหวังที่คุณแบกรับในฐานะผู้จัดการทีม โดยเฉพาะสโมสรใหญ่ๆ มันทำให้ผมรู้ว่าในตอนนั้นต้องนิ่งลง เรียกพลังงานกลับคืนมาและทำให้แน่ใจว่า ผมพร้อมสำหรับความท้าทายใหม่”
“มันไม่ใช่แค่สโมสรต่อไปเท่านั้น แต่เป็นสโมสรที่ใช่ด้วย ผมเชื่อว่าสิ่งสำคัญในงานต่อไปของคุณคือการเอาชนะ คุณต้องชนะแบบดีที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“ผมมองเห็นสิ่งนี้กับเซลติก ผมมองเห็นโอกาสที่จะชนะ แล้วก็โอกาสในการนำพาไอเดียของผมไปยังอีกหนึ่งสโมสร แต่มันก็ยังมีความกดดันมหาศาล แฟนบอล 60,000 คนในทุกๆสัปดาห์ และฐานแฟนบอลที่มีทั่วโลก”