ไซม่อน จอร์แดน อดีตเจ้าของสโมสรคริสตัล พาเลซ ชื่นชมการทำธุรกิจของ ลิเวอร์พูล ในการซื้อขายนักเตะแม้จะเริ่มมีเสียงวิจารณ์เรื่องการทุ่มเงินซื้อนักเตะก็ตาม
ทัพ “หงส์แดง” ใกล้จะยืนยันการคว้าตัวศูนย์หน้าคนใหม่อย่าง ดาร์วิน นูนเญซ ซึ่งมีค่าตัวเบื้องต้น 64 ล้านปอนด์บวกแอดออนอีก 21 ล้านปอนด์ ทำให้ค่าตัวของเขาจะสูงถึง 85 ล้านปอนด์ (100 ล้านยูโร) เป็นสถิติใหม่ของสโมสรหากมีการจ่ายเงินตามสัญญาสำเร็จ
แม้ว่าแฟนบอลบางส่วนจะวิจารณ์การใช้เงินของพวกเขาที่เป็นการใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก แต่อดีตเจ้าของ “ปราสาทเรือนแก้ว” กลับออกโรงชื่นชมการทำธุรกิจของทีม
“ผมไม่เข้าใจทำไมผู้คนโมโหกับคำว่ายอดสุทธิ (Net spend) นี่มันคือเอนด์เกม หากคุณทำธุรกิจมันก็เป็นเรื่องที่ว่าการธุรกิจของคุณมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่” จอร์แดน กล่าวกับ talkSPORT
“หากมีคนหนึ่งใช้เงินยอดสุทธิไป 100 ล้านปอนด์ต่อปี กับอีกคนที่ใช้เงินสุทธิ 20 ล้านปอนด์ต่อปี และพวกเขาประสบความสำเร็จในเรื่องเดียว ทีมที่ใช้เงินน้อยกว่าก็คือสโมสรฟุตบอลที่ดำเนินการได้ดีกว่า”
“ข้อโต้เถียงที่ว่า ลิเวอร์พูล กำลังถูกเพ่งเล็งเรื่องพวกนี้ มันก็เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนจะถูกเพ่งเล็งนะ และหากคุณอยู่ในทีมหนึ่งคุณก็จะบอกว่าคุณถูกเพ่งเล็งมากกว่าถ้าคุณอยู่กับอีกทีม”
“แต่ในความเป็นจริง กวาร์ดิโอล่า ใช้เงินสุทธิปีละ 100 ล้านปอนด์ และ คล็อปป์ ใช้ปีละ 28 ล้านปอนด์ และแน่นอนว่าพวกเขาสู้กันแบบสูสี”
“แล้วหากคุณอยากจะโต้เถียงเรื่องถ้วยรางวัลที่ได้มาจากมัน หากคุณใช้เงินไปอีก 4 เท่าจากจำนวนเงินในช่วงเวลาที่เป็นผู้จัดการทีมคุณก็มีความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จ 4 เท่าเช่นกัน”
“มันถือเป็นการทำธุรกิจที่ดี พวกเขาขาย คูตินโญ่ ไป 142 ล้านปอนด์ และคว้าตัว เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ กับผู้รักษาประตูของพวกเขาด้วยเงินของคนอื่น”
“หากสิ่งจำนวนที่คุณจ่ายไปและสิ่งที่คุณซื้อมันสะท้อนประสิทธิภาพในการดำเนินการของคุณและ ลิเวอร์พูล สามารถขายนักเตะและยังก้าวหน้าได้ด้วยใช้เงินของคนอื่นอีก โอ้พระเจ้าแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ดีและน่าชื่นชมมาก”
“ก็ใช่ที่พวกเขาจ่ายเงินจำนวนมาก แต่พวกเขาใช้เงินที่คนอื่นจ่ายให้พวกเขาไปซื้อนักเตะใหม่เข้ามา”