นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนาม เวมบลีย์ ในศึก เอฟเอ คอมมูนิตี้ ชิลด์ (อังกฤษ) เมื่อวันเสาร์ที่ 30 กรกฏาคม 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ ลิเวอร์พูล จะมาเล่นด้วยระบบ 4-3-3 นำโดยแกนหลักหน้าคุ้นของทีมเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น อาเดรียน,เวอร์กิน ฟาน ไดจ์,ฟาบินโญ่,หลุยส์ ดิอาซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะมาสู้ด้วยระบบ 4-3-3 นำทัพโดย สตาร์ดังของทีมอย่าง เอแดร์ซอน, รูเบน ดิอาส,เควิน เดอ บรอยน์,แจ็ค กรีลิช และ ริยาด มาห์เรซ เป็นต้น
นาทีที่ 4
เริ่มเกมได้ไม่นาน นึกว่าหายแล้ว จากจังหวะลุ้นประตูของ ลิเวอร์พูล เมื่อ ฟาบินโญ่ วางบอลยาวจากกลางสนามให้ โม ซาลาห์ เอาบอลลงหน้าประตูก่อนจะลากหนี คันเชโล่ หลุดเข้าไปจบด้วยซ้าย ในกรอบเขตโทษ แต่น่าเสียดายลูกนี้ดันเข้าแค่ข้างตาข่าย ลิเวอร์พูล ยังไม่ได้ประตูออกนำ
นาทีที่ 21 ลิเวอร์พูล นำก่อน 1-0
แมนซิตี้ ครองบอลได้มากกว่าก็จริง แต่จู่ๆ ทีมที่ออกนำก่อนดันเป็น ลิเวอร์พูล ซะงั้น จากจังหวะที่ ธิอาโก้ จ่ายบอลต่อให้ โม ซาลาห์ ในการอบเขตโทษฝั่งขวา แต่ด้านหน้ามีผู้เล่นของ แมนซิตี้ ยืนขวางอยู่หลายด่าน เขาเลยไหลคืนให้ เทรนท์ วิ่งมาหวดแบบไม่จับ บอลพุ่งไปโดนหัวของ อาเก้ เปลี่ยนทางเชิดหนีมือ เอแดร์ซอน เข้าประตูไปอย่างสวย
นาทีที่ 34
แมนซิตี้ เกือบตีเสมอได้เหมือนกัน จากจังหวะที่ เบร์นาโด้ วางบอลยาวให้ ฮาแลนด์ พักอกเอาบอลลงในกรอบเขตโทษ แล้วเบียดเอาชนะ โรเบิร์ตสัน ได้ก่อนจะ ล้มตัวยิงด้วยซ้าย แต่น่าเสียดาย บอลสุดท้ายพุ่งไปติดเซฟ อาเดรียน นิดเดียว
หมดครึ่งเวลาแรก
ลิเวอร์พูล -1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ -0
นาทีที่ 70 แมนซิตี้ ตีเสมอ 1-1
แมนซิตี้ แก้เกมดี ส่งกองหน้าลงมายิงตีเสมอจนได้ จากจังหวะที่ เดอ บรอยน์ เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ โฟเด้น ได้จบ แต่จังหวะแรกยังติดเชฟของ อาเดียน อยู่ ก่อนที่บอลจะลอยไปเข้าทาง อัลวาเรซ ตัวสำรองที่เพิ่งถูกเปลี่ยนเข้ามา ซ้ำดาบสองไม่มีเหลือ
นาที่ที่ 83 ลิเวอร์พูล ยิงแซง 2-1
เข้าสู่ช่วง10นาทีท้าย ลิเวอร์พูล ก็มาพลิกแซงนำ 2-1 ได้อีกครั้ง จากจังหวะที่ พวกเขาไปร้องเอาแฮนด์บอลจากกรรมการ เพราะลูกโหม่งของ นูนเญซ ในจังหวะก่อนหน้านี้ ไปโดนแขนของ ดิอาส เต็มๆ จังหวะนี้ชุลมุนกันสักพัก สุดท้ายกรรมการก็แจกจุดโทษให้ ลิเวอร์พูล ตามคาด แล้วก็เป็น โม ซาลาห์ ที่สังการลูกนี้เข้าประตูไม่พลาดเป้า
นาทีที่ 90+4 ลิเวอร์พูล ปิดเกม 3-1
ช่วงทดเจ็บ ลิเวอร์พูล มาได้ประตูย้ำชัยอีกลูก จากจังหวะที่ โม ซาลาห์ หยอดบอลโด่งเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ โรเบิร์ตสัน โหม่งตั้งชงให้ นูนเญซ ล้มตัวโหม่งตามน้ำระยะเผาขน ส่งบอลผ่านตัว เอแดร์ซอน เข้าประตูไปอย่างสวย
หมดเวลาการแข่งขัน เป็น ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ทำผลงานได้ดีกว่า สามารถเอาชนะไปได้
ด้วยสกอร์รวม 3-1 คว้าถ้วย คอมมูนิตี้ ชิลด์ ในรอบ 16 ปี ไปครองจนได้