เบรนแดน รอดเจอร์ส กุนซือตาหวาน ยอมรับว่าตำแหน่งผู้จัดการทีมของเขาที่ เลสเตอร์ ซิตี้ กำลังอยู่ในความกดดันอย่างหนัก แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจะยังคงเคารพสโมสรตลอดไป
ร็อดเจอร์ส นำทัพ “จิ้งจอกสยาม” บุกไปแพ้ “ไก่เดือยทอง” ขาดลอย 6-2 ทำให้ทีมของเขายังหาชัยชนะในเกม พรีเมียร์ ลีก ไม่เจอ แถมแพ้ 6 นัดรวด มีแค่ 1 คะแนนจมอยู่อันดับสุดท้ายของตาราง
หลังจบเกมที่ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม นายใหญ่ชาวไอร์แลนด์เหนือ ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวจาก Sky Sports ถูกถามว่ารู้สึกถึงความกดดันหรือไม่
“ผมรู้สึกกดดันมาก, ผมเข้ามาทำงานที่สโมสรทุกวันและเข้าใจดีถึงความหงุดหงิดของเหล่าแฟนบอล, ผมไม่สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ได้เพราะนั่นเป็นความรับผิดชอบของผม” ผู้จัดการทีมวัย 49 ปีตอบ
“ผมเข้าใจวงการฟุตบอล และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น, ผมจะยังคงให้ความเคารพอย่างสูงต่อเจ้าของทีม, เพราะพวกเขาให้การสนับสนุนผมเป็นอย่างดี”
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับงานของผมที่ เลสเตอร์, ไม่ว่าผมจะอยู่หรือไป, ผมจะเคารพพวกเขาอยู่เสมอ”
เลสเตอร์ ทำได้ดีในช่วงครึ่งแรกของเกมกับ สเปอร์ส โดยผลัดกันเป็นฝ่ายขึ้นนำคนละครั้ง และเข้าห้องแต่งตัวไปด้วยสกอร์ 2-2 แต่หลังจากนั้นกลายเป็นฝั่งเจ้าบ้านยิง 4 ประตูรวดทำให้พวกเขาต้องปราชัย
“ถึงสกอร์วันนี้จะไม่ได้แสดงถึงรูปเกมที่แท้จริง แต่สุดท้ายแล้วมันคือการแพ้แบบขาดลอย” ร็อดเจอร์ส กล่าวเพิ่มถึงรูปเกมโดยรวม
“73 นาทีแรกยังเป็นเกมที่ดีและอาจจะบอกได้ว่าเราเป็นฝ่ายที่เหนือกว่า จากโอกาสที่เราสร้างได้, แต่สุดท้ายเราถูกลงโทษจากความผิดพลาดหลายต่อหลายครั้ง”
“ก่อนเกมผมขอให้ลูกทีมเล่นด้วยความกล้าหาญ และพวกเขาก็ทำแบบนั้น, เราเสียประตูอย่างรวดเร็วในช่วงต้นครึ่งหลัง และ ญอริส ก็เซฟลูกยิงตีเสมอ 3-3 ของเราได้อย่างยอดเยี่ยม”
“จากนั้นเราก็เสียบอล แล้วก็โดนเกมสวนกลับเล่นงาน, สกอร์เป็น 4-2 แล้วเกมก็เปิด และถึงตอนนั้นก็เป็นเรื่องของการรักษารูปเกมและผลสกอร์”
“คู่เซนเตอร์แบ็คของเราเล่นได้ยอดเยี่ยม, แต่ช่วงท้ายเกมเราต้องการทวงประตูคืนสุดๆ และทิ้งให้คู่เซนเตอร์ต้องโดดเดี่ยว, ผลสกอร์ที่ออกมาดูแย่กว่ารูปเกมที่เกิดขึ้น”
“ผมเห็นใจลูกทีม, พวกเขาไม่สมควรได้รับสกอร์นี้, พวกเขาเพรสซิ่งอย่างกล้าหาญ, วันนี้เราเองก็เล่นได้ดี,สร้างโอกาสได้, ญอริส เซฟสวยๆ เราหลายครั้ง”
“แต่เราจำเป็นต้องทำได้ดีกว่านี้ในจังหวะสำคัญของเกมรับ”
“เมื่อคุณไม่ชนะมาหลายนัด, ความมั่นใจคุณอาจจะได้รับผลกระทบ, แต่เรามีช่วงเบรกทีมชาติให้ฟื้นฟูสภาพจิตใจ”