นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง ฟูแล่ม กับ บอร์นมัธ ที่สนาม คราเวน ค็อทเทจ ในศึก พรีเมียร์ลีก (อังกฤษ) เมื่อวันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ ฟูแล่ม จะมาเล่นด้วยระบบ 4-2-3-1 นำโดยตัวหลักจากแมตช์ล่าสุดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แฮร์ริสัน รีด , ชูเอา เปาลินญ่า ,นีสเก้นส์ เกบาโน่ , อันเดรียส เปเรยร่า , วิลเลี่ยน และ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช
ขณะที่ บอร์นมัธ จะมาสู้ด้วยระบบ 4-2-3-1 เช่นเดียวกัน นำโดยเสาหลักของทีมอย่าง อดัม สมิธ ,เจฟเฟอร์สัน เลร์มา , ลูวิส คุก , มาร์คัส ทาเวเนียร์ , ฟิลิป บิลลิ่ง , ไรอัน คริสตี้ และ โดมินิค โซลันกี้ เป็นต้น
นาทีที่ 2 บอร์นมัธ ขึ้นนำ 1-0
เริ่มเกมได้ไม่ทันไร ทีมเยือนก็มาได้ประตูออกนำ 1-0 ก่อนเลย จากจังหวะที่ มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ เปิดบอลยาวไปหน้าประตูให้ โซลันกี้ เอาบอลลง ก่อนจะไหลต่อให้ บิลลิ่ง กระชากบอลเข้ากรอบเขตโทษ แล้วชิ่งคืนให้ โซลันกี้ วิ่งมาแปด้วยขวา ส่งบอลซุกก้นตาข่ายอย่างสวย
นาทีที่ 22 ฟูแล่ม ตีเสมอ 1-1
เจ้าบ้านตามหลังได้ไม่นาน พวกเขาก็ตรเสมอจนได้ จากจังหวะที่ อันเดรียส เปเรยร่า สบโอกาสได้ครอสบอล เข้าไปในกรอบหกหลา จากนั้นก็เป็น อิสซ่า ดิย็อป ที่สอดมาโหม่งระยะเผาขน ส่งบอลผ่านมือ เนโต้ ตุงตาข่ายตามสูตร
นาทีที่ 29 บอร์นมัธ แซงนำ 2-1
แต่อีก 7 นาทีต่อมา ทีมเยือนก็มาได้ประตูแซงนำ อีกครั้ง จากจังหวะที่ ไรอัน คริสตี้ จ่ายตามช่องให้ โซลันกี้ หลุดไปทางขวา ก่อนจะเลี้ยงตัดเข้าใน แล้วปาดเรียดเข้ากลางให้ เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา วิ่งมาแปนิ่มๆ หน้าประตู ไม่มีพลาดเป้า บอร์นมัธ ขึ้นนำ 2-1
หมดครึ่งเวลาแรก
ฟูแล่ม – 1
บอร์นมัธ – 2
นาทีที่ 52 ฟูแล่ม ตามตีเสมอ 2-2 ได้อีกครั้ง !!
กลับมาเล่นครึ่งหลังได้ไม่ถึง 10 นาที เจ้าบ้านก็ตามตีเสมอได้อีกครั้ง จากจังหวะที่ เลอร์มา ไปใช้มือรั้งตัว มิโตรวิช จนล้มลงไปในกรอบเขตโทษ กรรมการไม่รอช้า เป่าเป็นจุดโทษทันที แล้วก็เป็น มิโตรวิช ที่ลุกขึ้นมาสังหารลูกนี้ด้วยตัวเอง ส่งบอลเข้าประตูไม่มีพลาด
นาทีที่ 85
ก่อนหมดเวลา 5 นาที ฟูแล่ม เกือบได้ประตูแซงนำบ้าง จากจังหวะที่ มิโตรวิช พลิกบอลหนีตัวประกบหน้าประตู จนมีช่องให้ส่องด้วยขวาเน้นๆ ปต่น่าเสียดาย บอลสุดท้ายไม่ผ่านมือของ เนโต้ นายด่านของ บอร์นมัธ ที่ล้มตัวปัดได้ทัน
นาทีที่ 90+3
ช่วงทดเจ็บ ฟูแล่ม น่าได้ประตูชัยสุดๆ เป็นจังหวะที่ ทอม แคร์นี่ย์ วางบอลยาวเข้าไปในกรอบเขตโทษ บอลหลุดไปถึง มิโตรวิช ได้มีโอกาสวางเท้าแปโล่งๆ เเต่บอลสุดท้ายดันหลุดกรอบออกหลัง ไปแบบเหลือเชื่อ
หมดเวลาการแข่งขัน ทั้งสองทีมเล่นกันได้สูสีมาก ผลัดกันรุกผลัดกันรับตลอด 90 นาที จนสุดท้ายคู่นี้ต้องจบเสมอกันไป ด้วยสกอร์รวม 2-2