นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง โมร็อกโก กับ โครเอเชีย ที่สนาม อัล เบย์ท สเตเดี้ยม ในศึก ฟุตบอลโลก2022 (ทีมชาติ) เมื่อวันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ โมร็อกโก จะมาเล่นด้วยระบบ 4-3-3 นำโดยแกนหลักของทีมเหมือนเดิมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ยาสซีน โบโน,อาชราฟ ฮาคิมี่,อัซเซดีน อูนาฮี,ซาลิม อมัลลาห์ และ ฮาคีม ซีเยค
ขณะที่ โครเอเชีย จะมาสู้ด้วยระบบ 4-3-3 นำโดยเสาหลักของทีมอย่าง โดมินิก ลิวาโควิช,เดยัน ลอฟเรน,มาเตโอ โควาซิช,ลูก้า โมดริช และ อันเดรจ ครามาริช เป็นต้น
นาทีที่ 17
ช่วงต้นเกมไม่ทั้งสองทีมเน้นครองบอลทำให้ไม่ค่อยมีจังหวะลุ้นประตูมากสักเท่าไหร่ แต่โอกาสที่ไกล้เคียงที่สุดน่าจะเป็น จังหวะยิงไกลของ เปริซิช ที่ซัดหลุดเสาสองออกหลังไปนิดเดียว แบบได้ลุ้น
นาทีที่ 20
คราวนี้เป็นฝั่ง โมร็อกโก บ้างที่ได้ลุ้นประตู เป็นจังหวะที่ ซีเยค ได้ส่องฟรีคิกระยะเผาขน แต่น่าเสียดายเจ้าตัวดันยิงติดกำแพง กระดอนออกมา จะซ้ำดาบสองก็ยังติดบล็อก เหมือนเดิม พลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 45
นาทีสุดท้ายก่อนทดเจ็บ โครเอเชีย น่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆ จากจังหวะที่ เปริซิช จ่ายขนานเส้นให้ โซซ่า วิ่งเติมไปทางซ้าย ก่อนจะเลือกปาดเรียดเข้ากลางให้ วลาซิช ชาร์จจ่อๆ ในกรอบ6หลา ติดเซฟ โบโน่ ไม่น่าเชื่อ
หมดครึ่งเวลาแรก
โมร็อกโก – 0
โครเอเชีย – 0
นาทีที่ 52
กลับมาเล่นครึ่งหลังได้สักพัก โครเอเชีย ก็มีลุ้นทำประตูอีกแล้ว จากจังหวะที่ โบโน่ หลุดตำแหน่งวิ่งออกมาชกบอลไม่โดน สุดท้ายบอลลอยไปเข้าทาง ลอฟเรน ล้มต้วยิงหน้าประตู แต่ โมร็อกโก ยังโชคดีที่ได้ อัมราบัต สไลด์เอาตัวขวางได้ทัน
นาทีที่ 65
โมร็อกโก บดหนักจนเกืองได้ประตูเหมือนกัน จากจังหวะที่พวกเขาได้ลูกฟรีคิก นอกกรอบเขตโทษ และเป็น ซีเยค ที่เล้นลูกสูตร หลอกยิงเขี่ยบอลให้ ฮาคิมี่ วิ่งมาซัดเต็มข้อ ส่งบอลพุ่งแรงตรงกรอบด้วย แต่น่าเสียดายบอลสุดท้าย ลิวาโควิช ยังทุบทิ้งออกไปได้
นาทีที่ 80
ช่วงท้ายเกม โครเอเชีย มีจังหวะให้ลุ้นประตูอีกแล้ว เมื่อ โมดริช มีโอกาสได้ครอสบอลเข้าไปกลางประตูให้ กวาร์ดิโอล เทคตัวโหม่ง หลุดกรอบออกหลังไปนิดเดียว แต่ถึงลูกนี้จะเข้าก็คงไม่ได้ประตู เพราะกรรมการเป่าฟาวล์ไปแล้ว เพราะจังหวะเทคตัว กวาร์ดิโอล ใช้มือค้ำตัวประกบ
หมดเวลาการแข่งขัน ทั้งสองทีมกินกันไม่ลง เกมค่อนข้างทันกัน ทำให้สุดท้ายทั้งสองทีมต้องจบด้วยผลเสมอ ไปตามระเบียบ