เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยกย่องว่า เควิน เดอ บรอยน์ คือตำนานสโมสรอย่างแท้จริง พร้อมเปิดเผยว่าเพลย์เมกเกอร์คนสำคัญ ต้องรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เพื่อเป็นการปลุกไฟในตัวให้โชว์ฟอร์มที่ดีที่สุดออกมา
คืนวันพฤหัสที่ผ่านมา กวาร์ดิโอล่า คุม “เรือใบสีฟ้า” ลงเกมทางการนัดแรกนับตั้งแต่พักเบรก ฟุตบอลโลก เปิดบ้านเอาชนะ “หงส์แดง” 3-2 ได้ไปต่อในรายการ คาราบาว คัพ
หลังจบเกมที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม กุนซือชาวสเปนให้สัมภาษณ์กับ Sky Sports กล่าวถึงฟอร์มโดยรวมของลูกทีม
“หลังจากไม่ได้ลงเล่นเป็นเวลานานเพราะ ฟุตบอลโลก วันนี้ทั้งสองทีมเล่นด้วยความเข้มข้นในระดับที่สูงมาก”
“ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่รับมือยาก เพราะเมื่อพวกเขาเล่นได้ดี พวกเขาสามารถทำลายคุณได้”
“โดยรวมแล้วมันเป็นเกมที่ดีและเอ็นเตอร์เทน ซึ่งต้องให้คำชมครั้งใหญ่แก่เหล่าลูกทีม สำหรับวิธีการเล่นของพวกเขา”
เดอ บรอยน์ เจอความผิดหวังที่ฟุตบอลโลก ตกรอบแบ่งกลุ่มกับทีมชาติ เบลเยียม แต่เกมนี้เขาฟอร์มร้อนแรงอีกครั้งทำคนเดียว 2 แอสซิสต์
“วันนี้ เดอ บรอยน์ โชว์ฟอร์มโดดเด่น” กวาร์ดิโอล่า กล่าวเพิ่มเติมถึงเพลย์เมกเกอร์คนสำคัญประจำทีม
“เควิน อยู่กับเรามา 8 ปีแล้ว และเขาต้องการเวลาเพื่อปลุกไฟการต่อสู้ที่เขามีอยู่อย่างถูกต้อง เขาต้องรู้สึกหงุดหงิดหรืออารมณ์บูดบึ้งสักเล็กน้อย เพื่อให้เขาโชว์ฟอร์มที่ดีที่สุดออกมา”
“เขาต้องใส่พลังงานเข้าไปในตัว และเมื่อทำแบบนั้นได้ เขาจะเป็นสุดยอดผู้เล่น ทั้งการวิ่ง, ความใจสู้, การแอสซิสต์และทำประตู, เควิน คือผู้เล่นที่เป็นต้นแบบ”
“ผมรู้ดีว่าไม่ใช่เรื่องง่ายในการเล่นด้วยฟอร์มสม่ำเสมอในทุกๆ สามวัน แต่ในเกมสำคัญแบบวันนี้ เควิน มีบางอย่างในตัวบอกเขาว่าเขาต้องการต่อสู้”
“เมื่อสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้น สิ่งที่เราได้เห็นคือ มิสเตอร์ เควิน เดอ บรอยน์”
“ผมจะพูดอะไรได้อีกเกี่ยวกับเขา? เขามอบทุกอย่างให้สโมสรนี้มาเป็นเวลา 8 ปีแล้ว และเขาเป็นตำนานโดยแท้จริง”
“เควิน จะถูกจดจำไปตลอดกาล ในฐานะผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรนี้”
กวาร์ดิโอล่า ให้โอกาส ริโก้ ลูอิส และ โคล พาลเมอร์ ลงตัวจริงในเกมนี้ ซึ่งเขาก็กล่าวชื่นชมดาวรุ่งทั้งสองคนอีกว่า
“ผมมีความรู้สึกว่าหากขาด ลูอิส ไปแล้วเราจะไม่สามารถเล่นด้วยวิธีการที่เราใช้ในเกมนี้ได้, เขายังอายุน้อย และวันนี้เขาเล่นเจอทีมที่เป็นผู้ใหญ่มาก ซึ่งทำให้ผมประทับใจสุดๆ”
“สิ่งสำคัญไม่ใช่ความฉลาดของ ลูอิส เมื่อเขาได้บอล แต่เป็นจังหวะที่เขาไม่ได้ครองบอล ซึ่งวันนี้เขากับ พาลเมอร์ ทำได้ดีมากทั้งจังหวะมีบอลและไม่มีบอล โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรก”
“วันนี้เราเกือบจะได้ประกาศแล้วว่า ลูอิส จะมีช่วงเวลาอีก 10 ปีข้างหน้าที่ยิ่งใหญ่ และจะเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมสุดๆ ให้กับ แมนฯ ซิตี้ ไปอีกหลายปี”
“ลูอิส ฉลาดและมีความถ่อมตัวสุดๆ, เขาเข้าใจทุกอย่างภายในหนึ่งวินาที ก่อนหน้านี้เขาเล่นดีมาตลอด แต่ไม่ใช่การเจอกับทีมอย่าง ลิเวอร์พูล”
“วันนี้เขาต้องเจอกับทั้ง ซาล่าห์, ติอาโก้ และ โรเบิร์ตสัน, เขาอายุ 18 ปีและวิธีการเล่นของเขาก็น่าประทับใจ สำหรับผมเกมนี้ ลูอิส คือ แมน ออฟ เดอะ แมทช์”