นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า ที่สนามคิง ฟาห์ด อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี้ยม ใน ศึก สแปนิช ซูเปอร์คัพ *รอบชิงชนะเลิศ (สเปน) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เรอัล มาดริด จะมาเล่นด้วยระบบ 4-3-3 นำโดย แกนหลักขาประจำของทีมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ติโบต์ คูร์กตัวส์,แฟร์ลองด์ เมนดี้,โทนี่ โครส,วินิซิอุส จูเนียร์ และ คาริม เบนเซม่า
ขณะที่ บาร์เซโลน่า จะมาสู้ด้วยระบบ 4-2-3-1 นำโดย เสาหลักของทีมอย่าง มาร์ค-อันเดร แตร์ สเตเก้น,ชุลส์ คุนเด้,เฟรงกี้ เดอ ยอง, กาบี้ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นต้น
นาทีที่ 11
โอกาสแรกในเกมตกเป็นของ บาร์เซโลน่า จากจังหวะที่ กาบี้ สบโอกาสครอสบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ เลวานดอฟสกี้ เทคตัวโหม่งส่งบอลเหินข้ามคานออกหลังไปนิดเดียวแบบได้ลุ้น
นาทีที่ 33 บาร์เซโลน่า ขึ้นนำ 1-0
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ประตูแรกของเกมก็เกิดขึ้นจนได้เป็นจังหวะที่ บุสเกตส์ ไปแย่งบอลจากตรงกลางสนามได้ ก่อนจะวางยาวให้ เปดรี้ แทงตามช่องต่อให้ เลวานดอฟสกี้ สะกิดต่อทันทีให้ กาบี้ หลุดเดี่ยวลากบอลเข้าไปแปสวนตัว ทีโบ คูร์กตัวส์ ตุงตาข่ายไม่มีเหลือ
นาทีที่ 45 บาร์เซโลน่า หนีห่าง 2-0
ก่อนหมดเวลา บาร์เซโลน่า ก็มายิงประตูเพิ่มได้อีกลูก จากจังหวะที่ เดอ ยอง เปิดบอลยาวทิ้งไปที่ว่างให้ กาบี้ ใช้สปีดตามไปเก็บบอล ก่อนจะพาบอลหลุดไปทางซ้าย แล้วบรรจงเปิดเรียดเข้ากลางให้ เลวานดอฟสกี้ ชาร์จจ่อๆ บริเวณเสาสอง ส่งบอลซุกก้นตาข่ายตามสูตร
หมดครึ่งเวลาแรก
เรอัล มาดริด – 0
บาร์เซโลน่า – 2
นาทีที่ 55
กลับมาต่อครึ่งหลัง บาร์เซโลน่า ก็เกือบขยับสกอร์เพิ่มเป็น 3-0 อีกครั้ง จากจังหวะที่ บุสเกตส์ ครองบอลอยู่บริเวณนอกกรอบฝั่งซ้าย ก่อนจะเลือกหยอดบอลเข้าในให้ เลวานดอฟสกี้ ตวัดยิงด้วยซ้าย ส่งบอลพุ่งไปติดเซฟ คูร์กตัวส์ นิดเดียว
นาทีที่ 69 บาร์เซโลน่า ยิงนำ 3-0
หลังจากเฉียดไปเฉียดมา ในที่สุด บาร์เซโลน่า ก็มาได้ประตูที่ 3 สมใจ จากจังหวะที่ มาดริด เสียบอลตรงกลางสนามอีกแล้ว และเป็น เลวานดอฟสกี้ ที่กระชากบอลขึ้นมาแทงตามช่องให้ กาบี้ หลุดไปทางซ้าย ก่อนปาดเรียดเขเากลางให้ เปดรี้ สอดมายิงที่จุดนัดพบ ส่งบอลตุงตาข่ายไม่มีเหลือ
นาทีที่ 90+3 เรอัล มาดริด ตีไข่แตก 3-1
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เกมทำท่าจะจบ 3-0 อยู่แล้ว แต่ เรอัล มาดริด ก็ไม่วายมาได้ประตูปลอมใจลูกนึงก่อนหมดเวลา เป็นจังหวะที่ บัลเบร์เด้ ขึ้นเกมทางกราบซ้าย ก่อนจะมีช่องปาดเรียดเข้ากลางให้ เบนเซม่า แปโล่งๆ หน้าประตูส่งบอลผ่านมือ สเตเก้น ตุงตาข่าย
หมดเวลากาาแข่งขัน เป็น บาร์เซโลน่า ที่ครบเครื่องมากกว่า ใช้โอกาสที่มีได้คุ้มค่า ส่งผลให้พวกเขาเบียดเอาชนะ เรอัล มาดริด 3-1 คว้าแชมป์ซุปเปอร์คัพ ปีนี้ไปครองได้ในที่สุด