มาร์ค ฟาน กิงเคล มิดฟิลด์ชาวดัตช์ ออกมาเปิดเผย คิดว่าตนเองต้องแขวนสตั๊ดเลิกเล่นฟุตบอลไปแล้ว หลังบาดเจ็บหนักติดเชื้อที่หัวเข่าต้องพักไปนานร่วม 3 ปี
มิดฟิลด์ทีมชาติฮอลแลนด์ ย้ายจากวิเทสส์ มาอยู่กับเชลซีเมื่อปี 2013 และต้องเจอกับช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดในชีวิตค้าแข้งเมื่อต้องเข้ารับผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าฉีกขาดเมื่อปี 2018
ในตอนแรกคาดว่าเขาจะกลับมาเล่นได้ในเวลาประมาณ 8 เดือน แต่ปรากฎว่าเรื่องราวเลวร้ายกว่านั้นเมื่อการผ่าตัดพบการติดเชื้อแทรกซ้อนอย่างรุนแรง ที่ทำให้เขาต้องเข้ารับการผ่าตัด 3 ครั้งในเวลา 6 วัน เพื่อรักษาหัวเข่าเอาไว้
เวลาผ่านไป 983 วัน ในที่สุดมิดฟิลด์วัย 28 ปีก็สามารถกลับมาลงสนามได้อีกครั้งเมื่อเดือนที่ผ่านมา กับพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ที่เขาถูกยืมตัวกลับไปเล่นในบ้านเกิดอีกครั้ง
ฟาน กิลเคล รู้สึกโล่งใจอย่างมากที่สามารถกลับมาลงสนามอีกครั้ง และเปิดเผยว่า เคยเกือบต้องเลิกเล่นฟุตบอลไปแล้ว
“แน่นอนว่า มันอันตรายมากที่เกือบทำให้ผมต้องสูญเสียอาชีพของตัวเอง” ฟาน กิลเคล กล่าวกับ Goal
“โดยเฉพาะหลังผ่านสัปดาห์แรกของการติดเชื้อ พวกเขาไม่รู้ว่ามีการติดเชื้ออยู่ข้างใน”
“หลังผ่านไป 3 เดือน ผมดีขึ้น แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากที่จะกลับมาเล่นในระดับท็อปอีกครั้ง ไม่ว่าจะกลับมาเล่นให้พีเอสวี, เชลซี หรือที่ไหนก็ตาม”
“ตอนนั้น สำคัญที่สุดเลยผมจะกลับมาเดินได้อีกครั้งหรือไม่ เรื่องฟุตบอลไม่ต้องพูดถึงเลย”
“การติดเชื้อที่เกิดขึ้น 6 สัปดาห์หลังการผ่าตัด หัวเข่าผมเลวร้ายมาก และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมต้องใช้เวลารักษานานขนาดนี้ มันทำลายหัวเข่าและเอ็นของผม มันทำให้ผมต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้ง มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก”
ปัจจุบัน ฟาน กิงเคล ยังมีสัญญาอยู่กับเชลซี หลังสโมสรตัดสินใจมอบสัญญาฉบับใหม่ให้เขาอีก 1 ปี ซึ่งจะไปหมดลงในเดือนมิถุนายนนี้