เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กัปตันทีม “สิงห์บลูส์” เชลซี ยืนกราน ทุกอย่างในทีมปรับปรุงไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังการมาของ โธมัส ทูเทิล พร้อมยอมรับรู้สึกเจ็บปวดที่ต้องตกเป็นตัวสำรองในยุคของแฟรงค์ แลมพาร์ด
เชลซีผลงานตกต่ำอย่างต่อเนื่อง จนอันดับในลีกตกลงมาอยู่ที่ 9 จนกระทั่งแลมพาร์ดต้องถูกไล่ออกไปเมื่อมกราคมที่ผ่านมา
แต่ทันทีที่ทีมแต่งตั้ง ทูเคิล เข้ามาทำงานต่อ ผลงานของทีมกลับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ คว้าชัยชนะ 4 จาก 6 เกมลีก อันดับก็ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 5 กลายเป็นทีมที่เสียประตูยากมาก
ล่าสุด อัซปิลิกวยต้า ซึ่งกลับมาเป็นกำลังหลักของทีมอีกครั้ง ยืนกรานว่า ทีมแข็งแกร่งขึ้นมากก่อนหน้าจะลงพบแอตเลติโก้ มาดริด ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีม กลางสัปดาห์นี้
“เมื่อ 6 สัปดาห์ที่แล้ว เราไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดีที่สุดของตัวเอง มาตอนนี้ทูเคิลปรับปรุงทุกอย่างให้ดีขึ้น ทีมรู้สึกดีขึ้น” อัซปิลิกวยต้า กล่าว
“ความแข็งแกร่งกลับคืนมา มีการพูดคุยถึงการทำงานเป็นกลุ่ม ตั้งแต่แนวรุกคนแรกไปจนถึงกองหลังคนสุดท้าย กับโค้ชใหม่ เราพยายามคอนโทรลเกมทั้งที่มีและไม่มีบอล”
เมื่อพูดถึง แลมพาร์ด ที่เพิ่งถูกปลดพ้นตำแหน่งออกไป กัปตันทีมสิงห์ กล่าวว่า
“ผลมันออกมาไม่ดีเลย แฟรงค์เป็นตำนานในฐานะนักฟุตบอล ผมโชคดีมากที่ได้ทำงานร่วมกันเขาทั้งตอนเป็นนักเตะและโค้ช แต่อับราโมวิช และผู้บริหารของเขาคือคนตัดสินใจต้องการเปลี่ยนแปลง” เดฟ กล่าว
อัซปิลิกวยต้า มีชื่อเป็นกัปตันทีม แต่โอกาสลงเล่นของเชาน้อยมากในระยะหลัง เมื่อแลมพาร์ด เลือกใช้งาน รีส เจมส์ เป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งแบ็กขวา ซึ่งเดฟยอมรับว่า เจ็บปวดกับการที่ต้องตกเป็นตัวสำรอง
“มันจะซับซ้อนมากขึ้นเมื่อคุณคุ้นเคยกับการได้ลงเล่น มันไม่ใช่สถานการณ์ที่ความต้องการลดน้อยลง แต่ผมเคารพในการตัดสินใจของโค้ช พยายามช่วยเหลือทีมจากข้างนอก ใจเย็นและเตรียมตัวให้พร้อมถ้าจำเป็นต้องเล่นขึ้นมา”
“คุณอยากเล่นตลอดเวลานั่นล่ะ มันจึงเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดเมื่อต้องตกเป็นตัวสำรอง แต่ในฐานะกัปตันทีม ผมให้ความสำคัญกับส่วนร่วมเป็นอันดับแรก เนื่องจากผมไม่ต้องการเป็นผู้เล่นที่เห็นแก่ตัว”