Bakuman (วัยซนคนการ์ตูน) ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากมังงะดังชื่อเรื่องเดียวกันจากผลงานการแต่งเรื่องโดยอาจารย์ Tsugumi Ohba และวาดโดยอาจารย์ Takeshi Obata
เขียนบทและกำกับภาพยนตร์โดย Hitoshi Ōne
แนะนำนักแสดง
– Takeru Satô (จาก BECK และ Rurouni Kenshin: the Movies Trilogy) รับบทเป็น Moritaka Mashiro
– Ryûnosuke Kamiki (จาก Rurouni Kenshin: Kyoto Inferno และ Rurouni Kenshin: The Legend Ends) รับบทเป็น Akito Takagi
– Nana Komatsu รับบทเป็น Miho Azuki
– Takayuki Yamada รับบทเป็น Akira Hattori
– Shôta Sometani รับบทเป็น Eiji Niizuma
– Hirofumi Arai รับบทเป็น Kazuya Hiramaru
– Kenta Kiritani รับบทเป็น Shinta Fukuda
– Sarutoki Minagawa รับบทเป็น Takuro Nakai
– Lily Franky รับบทเป็น Sasaki
– Kankurô Kudô รับบทเป็น Taro Kawaguchi
เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวของ Akito Takagi นักเรียนชั้นมัธยมปลายที่มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักเขียนการ์ตูน แต่เพราะเขามีพรสวรรค์เพียงแค่การแต่งเรื่องเท่านั้น ไม่มีฝีมือทางด้านการวาดรูป เขาจึงยังไม่ได้เริ่มเดินทางตามความฝัน
วันหนึ่งเขาได้เก็บสมุดบันทึกของ Moritaka Mashiro เพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขาได้ และเมื่อเขาได้เปิดดูในสมุดบันทึกนั้น เขาจึงได้เห็นภาพของ Miho Azuki สาวสวยประจำชั้นที่ มาชิโระ ได้วาดเอาไว้เป็นลายเส้นการ์ตูน จึงทำให้เขาได้รู้ว่า มิชิโระ น่าจะแอบชอบ อาซึกิ อยู่
ด้วยลายเส้นการวาดการ์ตูนของ มาชิโระ ที่โดนใจ ทาคากิ มาก เขาจึงตัดสินใจชักชวน มาชิโระ ให้มาร่วมทีมกับเขาเพื่อเขียนการ์ตูนให้โด่งดัง แต่ มาชิโระ ได้ตอบปฏิเสธไป เนื่องจากรู้ว่าการจะเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงโด่งดังนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เพราะ มาชิโระ เองได้รับรู้เรื่องราวความยากลำบากของนักเขียนการ์ตูนผ่านทาง Taro Kawaguchi คุณอาของเขาที่เป็นนักเขียนการ์ตูนเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันก็ได้เสียชีวิตไปแล้วจากการทุ่มเทให้กับเขียนการ์ตูนอย่างหนัก แต่ ทาคากิ ก็ไม่ยอมแพ้และพยายามโน้มน้าว มาชิโระ ให้ยอมร่วมทีมกับเขาให้ได้
ในระหว่างที่พวกเขากำลังถกเถียงกันนั้นเอง พวกเขาก็ได้พลัดตกบันไดทำให้สมุดบันทึกของ มาชิโระ หล่นลงพื้น และ อาซึกิ ก็ได้หยิบขึ้นมาดู จึงได้เห็นสมุดบันทึกของ มาชิโระ ที่วาดรูปของตัวเธอเองเอาไว้
ในจังหวะนั้นเอง ทาคากิ ที่แอบรู้มาว่า อาซึกิ เองก็มีความฝันอยากจะเป็นนักพากย์อนิมะ จึงฉวยโอกาสนี้ประกาศต่อหน้า อาซึกิ ว่าเขากับ มาชิโระ จะร่วมทีมกันเป็นนักเขียนการ์ตูน และถ้าการ์ตูนของพวกเขาโด่งดังจนได้กลายเป็นอนิเมะ ก็จะให้ อาซึกิ มาพากย์บทนางเอกให้กับการ์ตูนของพวกเขา ซึ่ง อาซึกิ เองก็ตอบรับทันที และในขณะที่ มาชิโระ กำลังมึนงงกับคำตอบของ อาซึกิ อยู่นั้น เขาก็ได้เผลอพูดกับ อาซึกิ ไปว่า “ถ้าความฝันของเราเป็นจริง เธอจะแต่งงานกับฉันได้ไหม” อาซึกิ ซึ่งแอบชอบ มาชิโระ อยู่ด้วยเหมือนกัน จึงได้ตอบกลับไปว่า “แล้วฉันจะรอนะ“
ดังนั้นทั้ง ทาคากิ และ มาชิโระ จึงได้เริ่มต้นเขียนการ์ตูนและตัดสินใจที่จะนำไปยื่นเสนอให้กับทาง โชเน็นจัมป์ โดยหวังว่าจะได้เป็นนักเขียนการ์ตูนที่โด่งดังตามความฝันที่ได้ตั้งใจเอาไว้
ความคิดเห็นหลังจากดูจบ
ตัวหนังค่อนข้างที่จะดัดแปลงเนื้อหาไปจากฉบับมังงะค่อนข้างเยอะมากเลยทีเดียว มีเพียงแค่โครงเรื่องหลักของมังงะเอาไว้เท่านั้นเอง แต่ทั้งรายละเอียดของเนื้อหาและคาแรคเตอร์ของตัวละครทุกตัว ถูกตีความใหม่ทั้งหมด รวมถึงการตัดตัวละครเด่นๆ อีกหลายๆ ตัวออกไป
และโดยเฉพาะกับบทสรุปของความสัมพันธ์ระหว่าง มาชิโระ และ อาซึกิ ที่ถูกเปลี่ยนไปแบบคนละเรื่องกันเลยกับในมังงะ ซึ่งถือว่าทีมงานกล้าหาญมากกับการเปลี่ยนแปลงในจุดนี้
แต่หากมองโดยรวมของหนังแล้ว ในการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่ลดความเป็นการ์ตูนฟีลกู๊ดลงไป มันก็ทำให้หนังดูเรียลขึ้น มีความสมเหตุสมผลมากขึ้น และบริบทโดยรวมก็ดูจะเข้ากันกับเนื้อหาที่ตัวหนังต้องการจะพาไปมากกว่าด้วย
จะเรียกได้ว่า ดัดแปลงมาเป็นหนังได้ดี แต่ไม่ถูกใจแฟนๆ มังงะก็ได้นะ
ในการออกแบบฉากที่น่าจะเรียกได้ว่าจะเป็นฉากแอ๊คชั่นของเรื่องนี้ อย่างฉากการวาดการ์ตูนและฉากการต่อสู้เพื่อชิงความเป็นนักเขียนการ์ตูนอันดับ 1 นั้น ทำออกมาได้ประทับใจมาก ไอเดียการนำเสนอแจ่มมาก งานด้านภาพสวยงามเลย
สรุป >> หนังสนุกมาก เดินเรื่องได้ไม่น่าเบื่อ มีความเป็นดราม่าเล็กน้อย แต่ดูเหมือนจะเหมาะกับคนที่ไม่เคยอ่านเวอร์ชั่นมังงะหรือดูอนิเมะมาก่อนซะมากกว่า เพราะจะได้ปล่อยสมองให้โล่งๆ และรับเอาสิ่งที่ผู้กำกับต้องการนำเสนอได้อย่างเต็มที่