ยังคงอบอวลอยู่ในบรรยากาศความรักแห่งความหลากหลายเป็นกลิ่นอายของ Pride Month ที่เพิ่งผ่านไป น่าเสียดายที่หนังเรื่องนี้อาจจะมาไม่ตรงจังหวะได้จุดขายสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มา และนี่คือการแตกยอดออกมาจากซีรีส์บีแอลที่มีแฟน ๆ ตามติดอยู่ไม่น้อย อย่าง “Cherry Magic the Movie ถ้า 30 ยังซิงจะมีพลังวิเศษ” ที่ถือว่าเป็นการขยายเรื่องราวของจากทีวีจอเล็กมาสู่ฉบับหนังจอใหญ่ ที่อาจจะหมายความได้ว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นของบานปลายชีวิตคู่ที่งดงามของชายหนุ่มคู่นี้
Cherry Magic the Movie เป็นเรื่องราวของ อาดาจิ คิโยชิ หนุ่มพนักงานบริษัทเครื่องเขียน วัย 30 ปีที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง ใช้ชีวิตอย่างมืดมนมาตลอด เนื่องจากไม่กล้าที่จะเข้าหาใคร อาดาจิมีเพื่อนซี้คือ ซึเกะ มาซาโตะ ซึ่งเป็นนักเขียนนิยายและเป็นคนที่คอยให้คำปรึกษาเขาเสมอ จนกระทั่งวันที่เขาอายุครบ 30 ปี จู่ ๆ ก็มีพลังวิเศษที่ว่าเมื่อแตะต้องตัวใครจะรู้ถึงจิตใจคนคนนั้นได้
ซึ่งพลังนี้เขาได้รับรู้ว่า คุโรซาวะ ยูอิจิ หนุ่มสุดหล่อจากแผนกเซลส์ของบริษัทแอบหลงรักเขา แถมเป็นระดับที่เรียกว่าคลั่งรักแบบสุดๆ มนตร์รู้ใจทำให้ทั้งสองคนเข้าใกล้กันมากขึ้น และทำให้อาดาจิได้พัฒนาตัวเองจากคนที่ไม่เชื่อมั่นในตัวเองจนกลายมาเป็นคนที่กล้าที่จะรักดูสักครั้ง เมื่อเขาได้สัมผัสถึงความรักของคุโรซาวะจนทำให้ทั้งสองก็ได้ตกลงคบกัน
ก่อนหน้านี้ต้องออกตัวก่อนเลยว่า ผู้เขียนบทความนี้ไม่เคยมีประสบการณ์ดูเวอร์ชั่นซีรีส์หรืออ่านมังงะของ Cherry Magic มาก่อนเลยสักตอนเดียว ไม่มีพื้นฐานใด ๆ เกี่ยวกับตัวละครและโครงเรื่องมาก่อน เข้าไปดูฉบับหนังเรื่องนี้แบบที่มีข้อมูลเพียงผิวเผินเท่านั้น และผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้นถือว่า…ได้พบคำตอบที่ว่า ทำให้ใคร ๆ ก็แอบประทับใจ Cherry Magic เรื่องนี้กันจริง ๆ เพราะมุมมองที่ถูกนำมาขยายเป็นหนังเรื่องนี้ ทั้งเซอร์วิสแฟน ๆ และใส่ประเด็นชีวิตคู่เอาไว้ได้อย่างซึ้งใจไม่เบา
สำหรับที่กังวลว่าไม่เคยรู้เรื่องหรือพื้นฐานเกี่ยวกับ Cherry Magic มาก่อน จะแอบบอกว่าคุณสามารถเข้ามาดูได้เลย เพราะในช่วง 2-3 นาทีแรกของหนังนั้น จะมีการปูพื้นฐานจากเวอร์ชั่นซีรีส์เป็นภาพ flash back มาปะติดปะต่อร้อยเรียงเรื่องราวแบบคร่าว ๆ ให้กับคนดูอีกครั้ง เป็นโครงสร้างที่พยายามจะนำมาเชื่อมโยงกับฉบับหนังเรื่องนี้ ที่อาจจะแค่มาเป็นน้ำจิ้มหน่อย ๆ แต่ก็พอจะสามารถสรุปให้คนไม่รู้เรื่องอะไรเลยได้มีพื้นฐานขึ้นมาอีกนิด
ก่อนอื่นคือต้องยกความดีความชอบให้กับ 2 นักแสดงนำ “เอย์จิ อากะโซะ” กับ “เคย์ตะ มาจิดะ” พวกเขาคือผู้เล่นอันทรงคุณค่าในหนังเรื่องนี้ ที่สลับกันเลี้ยงดูประคับประคองหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อย่างสวยงาม การแสดงของพวกเขาค่อนข้างลื่นไหลเป็นธรรมชาติ จนทำให้คนดูเกือบจะเชื่อไปอย่างหมดใจแล้วว่าพวกเขาคือ อาดาจิ กับ คุโรซาวะ ตัวเป็น ๆ อย่างเนื้อแท้อะไรทำนองนั้น แม้แต่คนที่เคยรู้เรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครนี้มาก่อน ยังสามารถเข้าถึงได้ง่าย ๆ และคล้ายตามได้เพียงแค่ไม่กี่นาที นี่คือพรสวรรค์ในการถ่ายทอดบทบาทนี้ของพวกเขาอย่างดี
เวอร์ชั่นหนังของ Cherry Magic the Movie ก็คือได้ผู้กำกับจากฉบับซีรีส์ “ฮิโรกิ คาซามะ” กลับมาสานต่ออีกครั้ง และแน่นอนว่านั่นเป็นจุดที่ทำให้การทำงานลื่นไหลได้เป็นอย่างดี ระหว่างนักแสดงกับทีมงานที่คุ้นเคย จึงทำให้จังหวะของหนังเรื่องนี้หลาย ๆ อย่างออกมาค่อนข้างกลมกล่อม และรู้สึกจุดรู้มุมที่จะทำหน้าที่แฟนเซอร์วิสเป็นอย่างดี อีกทั้งยังต้องชื่นชมด้วยว่า แฟนเซอร์วิสใส่เอาไว้ในปริมาณที่กำลังดี ไม่เลี่ยนเอียนจนเกินไปด้วย
แม้ว่า Cherry Magic the Movie ก็ยังคงเจอปัญหาเดิม ๆ ของหนังญี่ปุ่นแนวโรแมนซ์อะไรทำนองนี้ ตรงที่ความย้วยและความอืดอาดในบางจุดของหนังยังสามารถทำให้กระชับไปได้กว่านี้ แต่ก็ถือว่ายังไม่ใช่ข้อบกพร่องที่รุนแรงอะไรเท่าไหร่ เพราะในช่วงครึ่งแรกของหนังถือว่าเป็นการเสิร์ฟความหวานละมุนที่เชื่อมกับซีรีส์ แต่ในช่วงครึ่งหลังนั้นปรับมาค่อนข้างใส่ดราม่าที่ยกระดับความจริงใจขึ้น และถือว่าแปลกใหม่ไม่น้อยที่เห็นหนังญี่ปุ่นหยิบเอาเรื่องประเด็นชีวิตคู่ในกลุ่ม LGBTQ มาเล่นกับบรรทัดฐานของวัฒนธรรมกับสังคม
แม้ว่าตรงจุดนี้หนังจะทำออกมาได้ค่อนข้างดีตามมาตรฐานของหนังญี่ปุ่น ที่มักจะค่อย ๆ แทรกซึมและกระตุ้นน้ำตาผู้ชมให้คลอได้ แต่น่าเสียดายที่ Cherry Magic the Movie ก็ยังไม่ได้แตะประเด็นชีวิตคู่ของกลุ่ม LGBTQ ได้อย่างหนักแน่นสักเท่าไหร่ เป็นการเข้าไปสัมผัสแตะเป็นผิวเผินพอเป็นพิธีเท่านั้น แต่ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในหนังญี่ปุ่น และคาดหวังว่าในอนาคตอันใกล้จะมีการกล้าจับ-กล้าเล่าประเด็นนี้ได้อย่างเข้มข้นกว่านี้ต่อไป
เอาเป็นโดยภาพรวมแล้วนั้น Cherry Magic the Movie สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานใด ๆ มาก่อนเลย ถือว่าสอบผ่าน นี่คือหนังบีแอลที่ถือว่านำมาขยายเรื่องราวที่ออกไปในทางบทสรุปแห่งชีวิตคู่กับคู่รักเกย์ที่พยายามมุ่งมั่นหาความมั่นคงในชีวิตให้หนักแน่นยิ่งขึ้น มันอาจจะมีจุดที่เพ้อฝันแฟนตาซี และไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง แต่กลับสามารถสะท้อนสังคมเกี่ยวกับประเด็นการยอมรับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศในสังคมได้อย่างตรงไปตรงมาไม่น้อยเช่นกัน
ดังนั้นในหนัง Cherry Magic the Movie เรื่องนี้ ก็ไม่ใช่แค่เพียงส่วนขยายความฟินจากซีรีส์เท่านั้น แต่ข้อความของหนังเรื่องนี้พยายามสื่อสารไปถึงผู้ชมและสังคมในการเปิดใจยอมรับกับความหลากหลายทางเพศสภาพในยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น เป็นการสอดแทรกแนวคิดอย่างทีละเล็กน้อยแบบไม่ยัดเยียด สุดท้ายก็ออกมาเป็นหนังชั่วโมงกว่า ๆ ที่ละมุมและกลมกล่อมไปกับความมุ่งมั่นและมั่นคงของคนคู่นี้ ที่เอาจริง ๆ มันก็มีแต่ในเรื่องแต่งเป็นส่วนใหญ่…ซึ่งมันมาช่วยเยียวยาเราได้ไม่น้อย
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Cherry Magic the Movie ถ้า 30 ยังซิงจะมีพลังวิเศษ
- ประเภท: โรแมนติก / แฟนตาซี
- ผู้กำกับ: ฮิโรกิ คาซามะ
- นำแสดงโดย: เอย์จิ อากะโซะ, เคย์ตะ มาจิดะ
- ความยาว: 104 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 13 กรกฎาคม 2022 (ในโรงภาพยนตร์)
Movie.TrueID METRIC: Cherry Magic the Movie ถ้า 30 ยังซิงจะมีพลังวิเศษ
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10)