Geats × Revice: Movie Battle Royale” งานฉลองที่ไม่คุ้มค่ากับการรอคอย

Toei บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรในญี่ปุ่น กลับมาอีกครั้งกับมูฟวี่รวมญาติของไรเดอร์ประจำปี ซึ่งความพิเศษของมูฟวี่เรื่องนี้ นับเป็นหนังส่งท้ายเรื่องราวของ Kamen Rider Revice และเป็นการกลับมาฉลองครบรอบ 20 ปีของ Kamen Rider Ryuki ไปในตัว 

โดย Kamen Rider Geats × Revice: Movie Battle Royale เริ่มต้นต่อจากตอนจบของ Kamen Rider Revice ซึ่งเหล่าครอบครัวอิการาชิ ก็กำลังฉลองกันอย่างพร้อมหน้ากับกิจการโรงอาบน้ำของพวกตน ซึ่งมีเพียงแค่อิการาชิ อิคกิ ที่ยังคงใช้ชีวิตโดยลืมความทรงจำที่มีร่วมกันกับคู่หูอย่างไวซ์ไปแล้ว 

ทว่าในวันอันแสนสุข กลับมีปีศาจที่ออกมาลักพาตัวน้องคนเล็กของครอบครัวไป พี่น้องบ้านอิการาชิจึงต้องเดิมพันด้วยการเข้าสู้กับศึกแบตเทิลรอยัลที่เดิมพันด้วยชีวิต ในขณะเดียวกัน ณ เวทีแห่งการต่อสู้ ก็ได้มีเหล่าไรเดอร์จาก Kamen Rider Geats รอประจันหน้าอยู่เรียบร้อย แต่ความวุ่นวายก็ยังไม่หมดแค่นั้น เมื่อการแข่งขันนี้ กลับมีเบื้องหลังของผู้จัดงาน พร้อมกับการปรากฏตัวของเหล่าไรเดอร์จาก Kamen Rider Ryuki 

ปกติแล้วหนังมูฟวี่ไรเดอร์ปะทะกัน มักจะดำเนินเรื่องด้วยคอนเซปต์ 2 แบบคือ แบบ 1) แบ่งพาร์ตของไรเดอร์แต่ละคนเป็นองก์ แล้วให้ไรเดอร์ตัวหลักทั้ง 2 คนมาเจอกันในองก์สุดท้ายของหนัง และแบบที่ 2) ให้ไรเดอร์ทั้ง 2 คนเผชิญเหตุการณ์ร่วมกัน ตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งจะทำให้ไรเดอร์ทั้ง 2 คนมีแอร์ไทม์ที่เท่า ๆ กันและไม่เด่นเกินกันมากนัก ทว่า Kamen Rider Geats × Revice: Movie Battle Royale เลือกที่จะรวม 2 สไตล์นี้เข้าด้วยกัน 

โดยหนังได้เปิดเรื่องด้วย Revice ในองก์แรก แต่แทนที่หนังจะให้องก์สองเป็นพาร์ตของ Geats แบบเพียว ๆ หนังกลับให้ Revice เข้ามามีส่วนร่วมในพาร์ตของ Geats ไปด้วยเลย นั่นจึงทำให้หนังเรื่องนี้ มีแกนกลางอยู่ที่ Revice เป็นหลัก จนเหมือนหนังเดี่ยวของ Revice ที่มี Geats มาแจมเฉย ๆ

เอาเข้าจริง เราก็ไม่ติดใจอะไรหรอก ถ้าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าของพาร์ต Revice นั้นค่อนข้างจะป่วยเอาการ นั่นเพราะองก์แรก เนื้อหาจะวนอยู่แค่ไรเดอร์สู้แพ้ แล้วยกพวกกลับมาสู้ใหม่ แต่ดันแพ้อีก ซึ่งไรเดอร์คนอื่นพอแพ้ก็นอนรอพระเอกมาปิดฉากอยู่อย่างน้ันแหละ เมื่อพระเอกมาสู้พวกที่นอนก็กลายสภาพเป็นตัวประกอบนอกสนาม คอยเชียร์อยู่อย่างเดียว อย่าว่าแต่มิติของตัวละครเลย บทพูดก็แทบไม่มีด้วยซ้ำ ทุกอย่างสามารถคาดเดาได้ว่าจะจบแบบไหน มันช่างเป็น 40 นาทีแห่งความทรมานเสียจริง

แต่ก็เป็นอันโชคดีที่ว่าพอหนังเข้าสู่องก์สอง ซึ่งเป็นพาร์ตของ Kamen Rider Geats กราฟความสนุกของเรื่อง ก็กลับมาขึ้นสูงอีกครั้ง นั่นเพราะแต่ละตัวมีแอร์ไทม์ให้ได้โชว์ ได้แบ่งบทพูดกัน แม้จะมาน้อยแต่ก็น่าจดจำ ช่างต่างกับองก์แรกเป็นอย่างมาก จนต้องขอบคุณฝั่ง Geats ที่ช่วยแบกหนังให้มีความสนุกขึ้นมาเลย (จุดนี้เรามารู้ภายหลังว่าคนเขียนบทองก์แรก กับองก์สองนั้นเป็นคนละกัน นั่นทำให้กราฟความสนุกช่วงหลังค่อนข้างที่จะดีขึ้นกว่าเดิม)

ฟากฝั่งของ Ryuki ที่กลับมาฉลองครบรอบ 20 ปีในภาคนี้ก็นับว่า นับว่ากลับมาแบบไม่สมศักดิ์ศรีต้นแบบไรเดอร์แบตเทิลรอยัลสักเท่าไหร่ เพราะบทของริวคิสภาพคือถูกยัดเข้ามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เหมือนกลับมา เพราะ Toei  แกหาทางฉลองไม่ได้ ก็เลยจับยัดเข้ามาในแฟนเซอร์วิสในมูฟวี่รุ่นน้องซะเลย สิ่งนี้ทำให้บางทีเราก็นึกเกลียดบริษัทผู้สร้างเหมือนกันi ที่ชอบทำกับแฟนไรเดอร์เป็นของตาย ทำไมนะ Super Sentai ฉลองสิบปี ยี่สิบปี ยังทำสปินออฟออกมาได้ แต่พอไรเดอร์จะฉลองบ้าง กลับชอบยัดเข้ามาใส่ในซีรีส์รุ่นน้องซะทุกที

นอกจากนี้ อีกจุดที่ชวนหงุดหงิดใจคือ CGi ที่ไม่รู้ว่าพี่ Toei แกจะแข่งความชุ่ยกับ Marvel หรือยังไง มันถึงได้มีฉากที่ลอยได้มากขนาดนั้น ไม่พอ ยังมีช็อตหลุดที่ลืมคีย์กรีนสกรีนออกไปด้วย ซึ่งไม่ควรจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นในมูฟวี่ฉายโรงเลย (แต่พี่แกก็ทำอีกแล้ว)

แต่แม้เราจะด่าหนังเรื่องนี้เยอะแค่ไหน จุดหนึ่งที่ชอบของ Kamen Rider Geats × Revice: Movie Battle Royale คือฉากคิวบู๊ที่ดูดี มีฉากแอ็กชันสุดครีเอท ยิ่งในพาร์ต Kamen Rider Geats นั้นอุคิโยะ เอสหรือพรี่แอ็กของเรา ก็ยังเป็นตัวละครที่ช่วยชูกราฟหนังให้สนุกขึ้น 

โดยรวมแล้ว Kamen Rider Geats × Revice: Movie Battle Royale เป็นมูฟวี่ที่ไม่หวือหวา ไปไม่สุดซักทาง การลำดับบทก็สะเปะสะปะ เหมือนเป็นมูฟวี่ที่สร้างขึ้นเพราะต้องฉาย แทบไม่ได้สัมผัสถึงความรักของ Toei ที่มีต่อแฟรนไชส์ไรเดอร์เหมือนเมื่อครั้งอดีตเลย

หนังพยายามจะบิลด์ความสัมพันธ์ระหว่างอิคกิกับไวซ์เพื่อไปขยี้ให้ซึ้งในตอนท้าย แต่ทว่าด้วยบทที่สะเปะสะปะและไม่ทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วม จนทำให้หนังไม่สามารถทำงานกับทุกคน เพราะมันไม่ได้ซึ้งอย่างที่หวังไว้ (เอาเข้าจริง บทแนวนี้เคยมีมาแล้วในภาค Fourze & OOO: Movie War Mega Max แต่ทว่าภาคนั้น ใช้องก์แรกได้คุ้มค่ามาก แถมยังไม่แย่งแอร์ไทม์ไรเดอร์รุ่นน้องด้วย) 

แม้ว่าเนื้อเรื่องจะบ้งมากแค่ไหน แต่บทสรุปของ Revice ก็นับว่าจบได้ดี อีกทั้งการมาของเหล่าไรเดอร์ใน Ryuki แม้จะดูงง ๆ และไม่สมศักดิ์ศรีครบรอบ 20 ปีเท่าไหร่ แต่ก็นับเป็นอีกหนึ่งตอนจบของ Ryuki ที่ทำให้เราอมยิ้มด้วยมวลความคิดถึง นอกจากนั้นด้วยคาแรกเตอร์ดีไซน์ที่ดีของ Geats ก็ช่วยตรึงให้เรานั้นอยากหนังดูจนจบเรื่องได้