Interceptor (สงครามขีปนาวุธ) ภาพยนตร์แอ็คชั่นสุดระทึกจากผลงานกำกับของ Matthew Reilley ซึ่งเขาได้เขียนบทร่วมกับ Stuart Beattie
อำนวยการสร้างโดย Michael Boughen, Matthew Street, Stuart Beattie และ Chris Hemsworth
รับชมได้ทาง Netflix
![Interceptor (สงครามขีปนาวุธ) [2022]](https://cdn.statically.io/img/maewmo.com/wp-content/uploads/2022/06/Interceptor_PosterWeb.jpg?quality=100&f=auto)
เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราวของร้อยเอก J.J. Collins (รับบทโดย Elsa Pataky) เจ้าหน้าที่ทหารหญิงผู้เชี่ยวชาญด้านระบบป้องกันชีปนาวุธที่ถูกเรียกตัวให้กลับมาประจำการที่ SBX-1 ฐานปฏิบัติการป้องกันขีปนาวุธระยะไกล ที่อยู่ลอยอยู่กลางทะเลบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งอยู่ห่างจากฮาวายไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 1,500 ไมล์
หลังจากมาถึงทางฐานปฏิบัติการ พวกเขาก็ได้รับแจ้งเหตุด่วนว่า มีผู้ก่อร้ายร้ายได้ทำการโจมตีที่ Fort Greely, Alaska 1 ใน 2 ของฐานปฏิบัติการเฝ้าระวังและป้องกันขีปนาวุธระยะไกลของกองทัพบกสหรัฐฯ
ในขณะเดียวกันกับที่ผู้ก่อการร้ายได้เข้าโจมตีฐานยิงขีปนาวุธข้ามทวีปที่ Tavlinka, Russia และขโมยขีปนาวุธออกไปได้จำนวน 16 ลูก ซึ่งหากมีการยิงขีปนาวุธเหล่านี้หากถูกยิงออกจากรัสเซียโดยตั้งเป้าหมายเพื่อโจมตีสหรัฐอเมริกา ขีปนาวุธเหล่านั้นจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 24 นาทีที่ถึงเป้าหมาย โดยฐานปฏิบัติการป้องกันขีปนาวุธระยะไกลทั้ง SBX-1 และ Fort Greely จะมีเวลาเพียงแค่ 12 นาทีเท่านั้นที่จะยิงขีปนาวุธเพื่อสกัดกั้น/ทำลายขีปนาวุธเหล่านั้น
และเมื่อฐานปฏิบัติการฟอร์ทกรีลีย์ถูกโจมตีไปแล้ว นั่นจึงเหลือเพียงแค่ฐานปฏิบัติการเอสบีเอ็กซ์วันเท่านั้นที่จะสามารถป้องกันการโจมตีในครั้งนี้ได้ แต่เหตุกาณณืมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เมื่อฐานปฏิบัติการเอสบีเอ็กซ์วันนี้ก็ถูกผู้ก่อการร้ายเข้าโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวด้วยเช่นกัน
พวกเขาจะสามารถป้องกันฐานปฏิบัติการเอสบีเอ็กซ์วันและป้องกันการโจมตีของขีปนาวุธได้หรือไม่ ไปร่วมลุ้นกันนะฮะ
![Interceptor (สงครามขีปนาวุธ) [2022]](https://cdn.statically.io/img/maewmo.com/wp-content/uploads/2022/06/Interceptor_Scenes04Web.jpg?quality=100&f=auto)
ความรู้สึกหลังดูจบ
หนังใช้เวลาปูเรื่องราวไม่นานนัก (เพียงแค่ประมา ณ 12 นาที) ก็อัดฉากแอ็คชั่นลุ้นระทึกมาแบบนันสต๊อปกันเลยทีเดียว
ซึ่งหนังมาในแนวแอ็คชั่นสไตล์ยุค 90 ประมาณ Die Hard หรือ Under Siege ที่เปลี่ยนตัวเอกมาเป็นผู้หญิงนั่นแหละ ประมาณเก่งเวอร์ๆ ผู้ร้ายง่อยๆ เล่าเรื่องง่ายๆ ไม่ต้องซับซ้อนอะไรเยอะอัดฉากแอ็คชั่นมันส์ๆ เข้าไปก็พอ
และนั่นจึงกลายจุดที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก เพราะด้วยเนื้อเรื่องที่เบาโหวงจึงทำให้หนังมาเดาทางง่ายไปหน่อย และทั้งๆ ที่ตลอดทั้งเรื่องหนังพยายามเล่นประเด็นการเหยียดเชื้อชาติ, เหยียดเพศรวมถึงการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นในกองทัพสหรัฐฯ ผ่านคำพูดและการกระทำของตัวละครต่างๆ ตลอดทั้งเรื่อง แต่กลับไม่สามารถดึงเอาประเด็นเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มากนัก เหมือนแค่วางๆ ไว้ให้เป็นประเด็นแค่นั้น แล้วสุดท้ายก็หันกลับไปเล่นกับความเป็นฮีโร่ฉายเดี่ยวของตัวเอกแทนซะงั้น มันจึงกลายเป็นแค่หนังแอ็คชั่นธรรมดาที่ดูจบแล้วก็จบไป ไม่มีความน่าประทับใจอะไรให้นึกถึงต่อเลย ซึ่งน่าเสียดายมากๆ
ซึ่งถ้าหากเปลี่ยนจากการเน้นฉากแอ็คชั่นต่อสู้ ไปเน้นที่การหักเหลี่ยมชิงไหวชิงพริบกันด้วยสมองแทน น่าจะดูสมเหตุสมผลและสนุกกว่านี้นะฮะ (ในช่วงต้นที่ผู้ก่อการร้ายเริ่มเข้ามายึดพื้นที่ เหมือนจะไปในทิศทางนั้นอยู่นะฮะ แต่ไปๆ มาๆ ก็ซัดกันนัวซะงั้น)
อีกทั้งในส่วนของงาน CG โดยเฉพาะตัวขีปนาวุธ ดูยังไงก็ CG อ่ะฮะ ไม่เนียนเอาซะเลย
อ้อ เรื่องนี้ได้พี่ธอร์ Chris Hemsworth มาร่วมให้กำลังใจศรีภรรยา เอลซ่า เอ้ย มาร่วมเป็นคามิโอคอยปล่อยมุกกวนๆ ตามสไตล์พี่แกด้วย (แถมยังมาในภาพลักษณ์และคาแรคเตอร์คล้ายๆ ธอร์อ้วนอีกต่างหาก เรียกว่าน่าจะตั้งใจช่วยดันเมียแน่ๆ)
![Interceptor (สงครามขีปนาวุธ) [2022]](https://cdn.statically.io/img/maewmo.com/wp-content/uploads/2022/06/Interceptor_Cover-Score.jpg?quality=100&f=auto)
สรุป >> ให้ไป 7 เต็ม 10 ละกันฮะ เพราะแม้จะมีอะไรหลายๆ อย่างที่ดูเวอร์วังไม่สมเหตุสมผลไปหน่อยก็ตาม แต่หนังก็ตอบโจทย์ในแง่ความบันเทิงได้อย่างเต็มที่เลยฮะ ถูกใจคอหนังแอ็คชั่นยุค 90 แน่นอน