เยอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ออกโรงตำหนิแนวคิดที่จะจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกทุก 2 ปี โดยมองว่าให้ความสำคัญกับผลประโยชน์เป็นหลัก แต่ไม่ให้ความสำคัญกับนักเตะเลย
อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตกุนซือของ อาร์เซน่อล ได้รับมอบหมายจากฟีฟ่า ให้ศึกษาความเป็นไปได้ที่จะจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกทุกๆ 2 ปี แทนรูปแบบเดิมที่แข่งกันทุก 4 ปี ตามข้อเรียกร้องของสมาคมฟุตบอลซาอุดิอาระเบีย เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
แนวคิดดังกล่าวถูกต่อต้านจากหลายฝ่ายว่าสร้างภาระให้นักเตะมากจนเกินไป แม้ใจแย้งว่าทำไปเพื่อให้โอกาสกับชาติเล็กๆได้มีส่วนร่วมก็ตาม
คล็อปป์ กล่าววิจารณ์แนวคิดดังกล่าว โดยมองว่าเป็นการให้ความสำคัญกับผลประโยชน์เหนือสวัสดิภาพของนักเตะ
“ไม่มีกีฬาชนิดไหนในโลกที่ตารางแน่นไปกว่านี้แล้ว, ไม่มีเลยในกีฬาที่ใช้ร่างกาย, แม้จะมีการเรียกร้องให้จัดการแข่งขันจำพวกกรีฑาหรือมาราธอนเพิ่มขึ้น แต่พวกเขาก็ไม่ได้วิ่งปีละ 20, 30 หรือ 40 ครั้งหรอกนะ” เขากล่าวระหว่างการแถลงข่าวก่อนเกม
“เราทุกคนต่างรู้ดีว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้น ไม่ว่าใครจะพูดถึงเรื่องการให้โอกาสกับประเทศต่างๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็เป็นแค่เรื่องเงิน มันเป็นเช่นนั้น”
“มันก็ได้นะ แต่ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อมาถึงจุดหนึ่งที่บางคนเริ่มเข้าใจว่าหากไม่มีนักเตะ, ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในเกมอันยอดเยี่ยมนี้, เราก็เล่นกันไม่ได้ ไม่มีใครสำคัญไปกว่านักเตะอีกแล้ว”
“ลองคิดดูว่าถ้ามีฟุตบอลโลกทุกๆ 2 ปีและยังมีฟุตบอลยูโรทุกๆ 2 ปีอีก นั่นหมายความว่านักเตะระดับท็อปจะต้องเล่นทัวร์นาเมนท์ใหญ่ในทุกๆปี”
“นั่นหมายความว่าพวกเขาจะมีเวลาพักแค่ปีละ 3 สัปดาห์เท่านั้น ทุกสิ่งที่ผุดขึ้นมาตลอดช่วงหลายปีหลังในฐานะไอเดียใหม่ๆมันก็มักจะเป็นการเพิ่มเกมอยู่เสมอ ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องในระยะยาว”
“แน่นอนว่าสิ่งที่ผมพูดมันไม่ได้สำคัญอะไรหรอก แต่ไม่มีใครนึกถึงนักเตะเลยตอนที่พวกเขาตัดสินใจให้เกมสุดท้ายเตะกันวันศุกร์ตอนตี 1 ครึ่งตามเวลาบ้านเรา และอาจมีเกมที่ต้องเตะในวันเสาร์”
“แต่พวกเขาไม่แคร์หรอก พวกเขาแค่ไม่สนใจ มันเป็นแค่เรื่องของผลประโยชน์หลักเพียงอย่างเดียว และไม่สนใจเรื่องอื่นๆเลย”
“มันจะไปถึงจุดที่สมาคมฟุตบอลทุกแห่งจะมานั่งคุยกัน โดยเริ่มคิดถึงเกมการแข่งขันและไม่ใช่เพียงแค่ผลประโยชน์ ตอนนี้ผมอายุ 54 แล้ส ผมไม่มั่นใจว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าตอนที่มันเกิดขึ้น”