JK หวังความวุ่นวายที่ปารีสไม่เกิดซ้ำรอย

เยอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของ ลิเวอร์พูล แสดงความคาดหวังว่าความวุ่นวายในนัดชิงชนะเลิศของแชมเปี้ยนส์ลีกจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต

ลิเวอร์พูล ต้องเผชิญหน้ากับ เรอัล มาดริด ในนัดชิงชนะเลิศของ แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งจัดขึ้นในกรุงปารีส

เกมดังกล่าวถูกเลื่อนเวลาคิกออฟออกไป หลังเกิดความวุ่นวายบริเวณหน้าสนาม โดยมีคำอธิบายว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากแฟนบอล “หงส์แดง” ที่ไร้ตั๋วเข้าชม ก่อนผู้จัดจะออกมาแสดงความรับผิดชอบภายหลัง

คล็อปป์ หวังว่าเรื่องราวลักษณะดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปารีสจะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกในปี 2024

“เราทุกคนต่างรู้ว่าจะมีงานใหญ่ที่ปารีสในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่นี่คือตัวอย่างที่ดีสำหรับสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้จำเป็นต้องถูกสะสางและทำให้ชัดเจน” เขากล่าว

“เหตุผลประการแรกและเหนือสิ่งอื่นใดคือมันไม่ควรเกิดขึ้นอีก ผมมองว่าเราโชคดีที่มันไม่เลวร้ายไปกว่านี้ เราต้องทำให้มั่นใจว่ามันจะไม่เกิดซ้ำอีก”

“ท้ายที่สุดแล้วผมเห็นใจพวกเขา (แฟนบอล) ซึ่งเป็นแฟนบอล ลิเวอร์พูล ที่เปี่ยมไปด้วยแพสชั่น ความพ่ายแพ้ของเรากลายเป็นปัญหาเล็กที่สุดในคืนนั้น ลองคิดดูว่านี่คือนัดชิงของแชมเปี้ยนส์ลีกเลยนะ มันบ้าใช่ไหมล่ะ”

“นี่คือเหตุผลที่ทุกคน, โดยเฉพาะผู้มีอำนาจ, ต้องทำให้แน่ใจว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก มันชัดเจนว่ามันเป็นปัญหาเรื่องสถานที่จัด ผมมองว่าผู้มีอำนาจที่ปารีสควรรู้ปัญหาในท้องที่ของตัวเอง ยูฟ่าตัดสินใจอย่างรวดเร็วว่าต้องจัดที่ปารีส”

“แน่นอนว่ามันมีเมืองอื่นๆให้เลือกด้วย ผมเข้าใจว่าพวกเขาได้รับข้อมูลค่อนข้างช้า แล้วเรื่องการจัดการล่ะ?”

“คุณต้องจัดการแข่งขันในเมืองที่จัดการได้ง่าย ทั้งยูฟ่าและปารีส นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาร่วมงานกันในเรื่องพวกนี้ ผมมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าไม่มีความผิดพลาดภายใน คงไม่มีใครคิดว่า ‘เชอะ ไม่ต้องไปสนหรอกว่าแฟนบอลจะเข้าสนามยังไง!’ แต่ก็ยังเกิดความผิดพลาดขึ้น และตอนนี้เราต้องสะสางมัน”

“สถานการณ์ภายนอกหรือ? ผมได้รู้มาจากครอบครัวของผมซึ่งอยู่ท่ามกลางเหตุการณ์เหล่านั้น ผมไม่ได้รู้ชัดเจนจนถึงเช้าวันต่อมา” เขากล่าวเสริม

“ครอบครัวผมไม่ได้บอกตั้งแต่คืนนั้น พวกเขาส่งข้อความมาหาก่อนเกมประมาณว่า ‘เราเข้ามาแล้ว ขอให้โชคดี’ แต่พวกเขายังอยู่ห่างจากสนามออกไปราวชั่วโมงครึ่ง”

“พวกเขาบอกกับผมในเช้าวันถัดมา พวกเขาเผชิญกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคน ทุกคนก็พูดกันประมาณนี้ ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์นั้น”