“Morbius” มีฉากท้ายเครดิตกี่ฉาก? กับปมปริศนาที่หนังทิ้งเอาไว้…เฉลยที่นี่!

ได้ฤกษ์ลงโรงฉายไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับหนังใหม่จากฝั่งโซนี่/มาร์เวล อย่าง “Morbius” หลังจากที่รอคอยกันมาแสนนาน แม้ว่าผลลัพธ์ในตัวหนังที่ออกมาจะค่อนข้างน่าสะพรึงอยู่ไม่เบา กับกระแสคำวิจารณ์ที่สับเละไม่เป็นชิ้นดี เช่นเดียวกับ Movie.TrueID ที่รีวิวออกมาแล้วก็ไม่ค่อยประทับใจสักเท่าไหร่เช่นเดียวกัน แต่ถึงกระนั้นหนังก็ยังจัดได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลไอ้แมงมุมของมาร์เวลอยู่ดี

undefined

Morbius เป็นตัวละครหนึ่งในวายร้ายตัวสำคัญที่อยู่ในโลกเดียวกับ Spider-Man โดยหนังเรื่องนี้ได้พาไปเจาะดูตำนานและต้นกำเนิดการกลายเป็นอสุรกายอันน่าเกรงขาม และกลายมาเป็นศัตรูที่ไอ้แมงมุมต้องต่อกรด้วยอย่างหนักหน่วง ซึ่งแน่นอนหลายคนก็กำลังสงสัยอยู่ว่า…หนังที่ออกมามีฟีดแบกเชิงลบขนาดนี้จะมีอะไรแอบซ่อนเอาไว้อยู่หรือไม่ ได้เวลามาไขปริศนานั้นแล้ว

คำเตือน เนื้อหาบทความต่อจากนี้เป็นต้นไป
มีการเปิดเผยเรื่องราวบางส่วนในหนัง Morbius

undefined

undefined

Movie.TrueID ได้ทำการยืนยันว่า Morbius มีฉากพิเศษตอนท้ายเรื่องด้วยกัน 2 ฉาก หลังจากที่หนังได้ปิดฉากจบลงแล้ว ฉากพิเศษนี้เป็นฉากที่แทรกขึ้นมาระหว่างขึ้นเครดิตหนัง (mid-credits scenes) แม้ว่าความเลวร้ายจากตัวหนังจะบั่นทอนทำให้อารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อฉากพิเศษที่ใส่เข้ามาลดลงไปพอควร แต่ก็นับเป็นการเปิดเผยให้เห็นว่า…จักรวาลแห่งนี้กว้างกว่าที่คิด

undefined

สำหรับฉากพิเศษในฉากที่ 1 นั้น ได้ตัดภาพกว้าง ๆ ออกมาที่มุมมองของเมืองนิวยอร์ก บนท้องฟ้ามืดสนิทแต่มีลำแสงสีม่วงปรากฏขึ้น ซึ่งนั่นก็คือผลกระทบจากคาถาร่ายมนต์เปิดพหุจักรวาลของ Doctor Strange ที่เกิดขึ้นในหนัง Spider-Man: No Way Home นั่นเอง และมันก็ได้เปิดขึ้นในมัลติเวิร์สของหนัง Morbius เรื่องนี้ด้วย จากนั้นก็ตัดภาพไปที่ห้องขังว่างเปล่า ก่อนจะพบ เอเดรียน ทูมส์ หรือ Vulture (รับบทโดย ไมเคิล คีตัน) ปรากฏตัวขึ้นมา

วัลเจอร์ได้เช็กสภาพตัวเองกับกระจกในห้องขัง ก่อนจะพบว่าเขาได้โผล่มาอยู่ในพหุจักรวาลนี้ในสภาพที่ยังดูดีกว่าที่คิด จากนั้นก็ตัดไปที่ผู้ประกาศข่าวได้รายงานข่าวเกี่ยวกับชายปริศนา ที่อยู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาอยู่ในห้องขังที่ว่างเปล่าของเมือง และฉากพิเศษฉากนี้ก็ได้จบลงไปเพียงเท่านี้ โดยที่ยังไม่แน่ชัดเช่นเดียวกันว่าเกี่ยวข้องอะไรกับตัวหนัง Morbius ในอนาคตหรือไม่

undefined

ถัดมากับฉากพิเศษในฉากที่ 2 เป็นฉากที่ มอร์เบียส ได้ขับรถหรูออกมานอกเมือง แต่ระหว่างทางนั้นเขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง จากกลไกคลื่นโซนาร์ของค้างคาวที่เกิดขึ้น ทำให้เขาจอดรถที่ข้างทางและมองไปยังคลื่นโซนาร์ที่กำลังเข้าใกล้มาเรื่อย ๆ และจากนั้นก็พบว่า วัลเจอร์ ในชุดสูทที่มีปีกติดตั้งเพรียบพร้อม แบบในหนัง Spider-Man: Homecoming ได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขา

มอร์เบียสที่ยังประหลาดใจและไม่รู้จักกับวัลเจอร์มาก่อน ทั้งสองได้ทำความรู้จักกันอย่างรวดเร็วและพูดคุยเพียงแค่ไม่กี่ประโยค ก่อนจะวัลเจอร์จะออกปากชวนเขามาร่วมเป็นทีมเดียวกัน เพื่อผนึกกำลังร่วมกันทำอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต และดูเหมือนว่ามอร์เบียสก็มีท่าทีที่สนใจจะเข้าร่วมปฏิบัติการด้วย ก่อนที่ฉากพิเศษนี้จะจบลงไป

undefined

โดยฉากพิเศษดังกล่าวนั้น น่าจะเป็นการบอกใบ้ถึงการมาของ “Sinister Six” ทีมรวมเหล่าวายร้ายจากในจักรวาลไอ้แมงมุมนั่นเอง ที่เป็นโครงการหนังที่โซนี่/มาร์เวลก็พยายามจะปูทางและก่อร่างสร้างหนังเกี่ยวกับทีมนี้ขึ้นมาอยู่ แม้ว่าจะยังไม่เป็นรูปเป็นร่างออกมาก็ตาม แต่จากสิ่งที่พวกเขาได้ปูทางเอาไว้แล้วนั้น ก็ถือว่าเข้ามาเติมเต็มความแข็งแกร่งของ Sinister Six ขึ้นได้อีกครั้ง

อีกทั้งยังต้องไม่ลืมปริศนาในหนัง Morbius ที่ได้จบแบบปลายเปิดทิ้งท้ายเอาไว้ เกี่ยวกับชะตากรรมของ ดร.มาร์ทีน แบนครอฟต์ (รับบทโดย เอเดรีย อาโจน่า) ที่ฉากจบเราได้พบว่าเธอได้ฟื้นคืนสติกลับขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ได้ทำการจูบสั่งลาสุดท้ายของกับมอร์เบียส และได้สัมผัสกลืนเลือดของเขาเข้าไปในร่างกายด้วย นั่นจึงทำให้เธอได้รับพลังวิเศษและต่อชีวิตกลายมาเป็นแวมไพร์สาวตนใหม่ที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขของค้างคาวผสมอยู่ในร่างไปด้วยอีกคน

Morbius เข้าฉายแล้ว วันนี้ในโรงภาพยนตร์