PHASE OF THE MOON – เกิดกี่ครั้งก็ยังเป็นเธอ
— 7/10 —
เรื่องราวความรักไอเดียดี เหนือจินตนาการ
ที่อบอุ่นและฟูลฟิลหัวใจ
ก่อนที่จะไปดูเรื่องนี้ เราไม่ได้ดูตัวอย่างของมันเลย ไม่รู้แม้กระทั่งเรื่องย่ออะไรใด ๆ ทั้งสิ้น รู้เพียงแต่ชื่อเรื่องเท่านั้นว่ามันคือ Phase of the Moon – เกิดกี่ครั้งก็ยังเป็นเธอ ไม่รู้ว่าด้วยความที่เราไม่รู้อะไรเลยด้วยมั้ย จึงทำให้เราสนใจ ติดตามหนังตลอด และโดนหนังจูงมือไปตั้งแต่ต้นจนจบ พอกลับมาดูตัวอย่างหลังดูจบ จึงทำให้คิดไปว่าจริง ๆ แล้วชื่อเรื่องแปลไทยกับตัวอย่างเนี่ย มันแทบจะสปอยล์ทุกอย่างในหนังแล้วนะ
Phase of the Moon – เกิดกี่ครั้งก็ยังเป็นเธอ บอกเล่าเรื่องราวของพ่อผู้พึ่งสูญเสียภรรยาและลูกสาวไป จนเวลาผ่านเลยไป มีเหตุการณ์ที่ทำให้เขาต้องฉุกคิดว่า…ลูกสาวของเธออาจกลับมาเกิดในร่างของคนอื่น รู้แค่นี้พอ
หนังมีไอเดียตั้งแต่ต้นที่น่าสนใจ และมีการเชื่อมโยงกับชื่อเรื่องได้เป็นอย่างดี คืออย่างที่บอกว่าหนังมันเกี่ยวกับการกลับชาติมาเกิดของตัวละครที่ชื่อ รุริ ตั้งแต่ต้น ๆ เรื่องหนังได้โยนแนวคิดไอเดียนี้ไปโต้ง ๆ เลยว่าดวงจันทร์ไม่ได้ตาย มันเกิดใหม่ทุุกวัน และตาเราจะมองเห็นต่างรูปลักษณ์กันไป ทั้งเป็นเสี้ยว ครึ่งดวง เต็มดวง แต่มันก็คือจันทร์ดวงเดิม นี่แหละ เมสเสจนี้ที่หนังให้เราตั้งแต่ต้น ถูกหยิบนำมาใช้เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนเรื่องราว
ไอเดียของหนังถูกนำมาบอกเล่าได้เหมาะเจาะและถูกจังหวะ ทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมันน่าสนใจ น่าติดตาม ชวนให้คนดูอย่างเราคิดว่าตกลงเรื่องราวมันยังไงกันแน่ คือดูไปช่วงแรกอาจจะงง ๆ นิดหน่อย แต่พอหนังดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้เข้าใจมากขึ้น ตัวหนังจะตอบคำถามที่คนสงสัย และคลี่คลายในที่สุด
แต่สำหรับเราหนังมันทำได้แค่นั้นเลย มันเหมือนแค่เอาไอเดียมาบอกเล่าให้เราฟัง พาเราไปตามติดเรื่องราวแต่ละอย่างที่ตัวละครแต่ละตัวละครต้องเจอ คือพยายามใส่ไอเดียความเชื่อลงไปให้เรา แต่สถานการณ์ในหนังต่าง ๆ ไม่สามารถแตะถึงเราได้เลย เราเหมือนเป็นคนดูห่าง ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราว เหมือนเป็นนักเรียนนักศึกษาที่ฟังอาจารย์บรรยายอะไรบางอย่าง คือไม่ใช่เรื่องราวมันไม่น่าสนใจ มันน่าสนใจและชอบไอเดียมาก ๆ เพียงแต่ว่าวิธีการนำเสนอ วิธีการเล่ามันยังไม่ทำให้คนอย่างเราอินตามสักเท่าไหร่ คืออารมณ์แบบ “อ๋อ โอเค เป็นแบบนี้ แล้วยังไงต่อ ต้องรู้สึกอะไรยังไง” แต่หนังวางวิธีเล่าได้อย่างชาญฉลาดเลยนะ ดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็หยิบจับมาใส่ในเรื่องช่วยเล่าเรื่องเกี่ยวกับคีย์หลักของการกลับชาติมาเกิด และดวงจันทร์ได้ดีจริง ๆ คือแบบจบดีเลยอะ คือมันลงล็อค และจบแบบนี้แหละ มันดีแล้ว
อย่างที่เคยบอกไปในหนังญี่ปุ่นหลายเรื่องว่า มันจะมีความ “เรื่อย ๆ” และเรื่องนี้ก็เรื่อย ๆ เป็นพิเศษ เรื่อย ๆ แบบตั้งแต่ต้นจนจบ กราฟมันแทบจะนิ่งเลย จริง ๆ หนังมันก็ให้อารมณ์ที่หลากหลายในเรื่องราวของความรัก แต่มันก็ไม่ได้มากพอที่จะทำให้เราอินไปกับความรักในแง่ไหนที่หนังนำเสนอเลย แต่มวลความรู้สึกรวมของหนังมันก็อบอุ่น เติมเต็มได้ดีเลย
ทางด้านนักแสดง ต้องขอชื่นชมการแสดงของทุกคนเลย โดยเฉพาะการแสดงของผู้รับบทพ่อและแม่ ในแง่ความน่ารัก หรือการแสดงความรักให้กันก็ดูธรรมชาติ ไม่มากเกิน ไม่น้อยเกิน ในแง่ของอารมณ์ฝ่ายพ่อที่ดำเนินเรื่องราวก็ทำได้ดี ดูจริง ดูน่าเชื่อถือ รวมถึงตัวละครแวดล้อมอื่น ๆ ก็แสดงกันได้ดีเลยทีเดียว
ทางด้านเพลงประกอบ เราจะได้ยินเพลงของ John Lennon อยู่เรื่อย ๆ ตลอดทั้งเรื่อง เพราะเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นในช่วงที่ John Lennon โดนลอบสังหาร แถมยังมีเพลง Remember Love ที่ขับร้องโดย Yoko Ono ภรรยาของ John Lennon เป็นเพลงหลักในการดำเนินเรื่องราวอีกด้วย แถมยังเป็นตัวผูกเรื่องราวและจุดเชื่อมโยงที่เข้ากับเหตุการณ์ในหนังได้เป็นอย่างดี รวมถึงโทนภาพในเรื่องก็แบ่งช่วงเวลาได้ชัดเจน และงดงาม
สรุปแล้ว Phase of the Moon – เกิดกี่ครั้งก็ยังเป็นเธอ เป็นหนังญี่ปุ่นเรื่อย ๆ ไอเดียดี ที่สามารถทำให้เราติดตามเรื่องราวได้ตั้งแต่ต้นจนจบ อาจไม่ได้หวือหวา หรือขยี้อารมณ์ขนาดนั้น แต่ถือเป็นหนังเรื่อย ๆ ที่อบอุ่นและเติมเต็มไม่ใช่เล่นเลย
ปล. มีซีนช่วงท้ายอาจจะรู้สึกแปลก ๆ นิดหน่อย เอ๊ะ ๆ นิดนึง ถ้ามองในแง่ของความเป็นจริง แต่หนังก็เลือกใส่จินตนาการเข้ามาเพื่อไม่ให้มันแปลกแหละ