Sharknado 5: Global Swarming (2017)

20767708_1730505550313572_4276974283257224875_n

ใครเคยดูหนังแล้วในหัวของเรามันตะโกนก้องเกือบตลอดว่า “โว้วววววววววววว เฮ้ยยยยยยยยยยย AGhhhhhhhh” บ้างไหมครับ? คือตะโกนด้วยความทึ่งในตัวหนังน่ะครับ (ไม่ว่าจะทึ่งบวกหรือทึ่งลบก็เถอะ 555)

และนั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึกกับภาคล่าสุดของ Sharknado ครับ คือมันเป็นอะไรที่สุดติ่งมาก แน่นอนว่าผมไม่ได้จะบอกว่าหนังเรื่องนี้ดีมากมายหรอกนะครับ คือมันไม่ได้เข้านิยามหนังดีแน่ๆ แต่ผมชอบในความบ้าบอของมันจริงๆ เลยเชียว

ภาคนี้เปิดมาออกแนวหนังผจญภัยครับ ตัวเอกของเราอย่างฟิน เชพเพิร์ด (Ian Ziering) ต้องฝ่าด้านไปชิงสมบัติในถ้ำ ก่อนที่หายนะอันเกิดจากทอร์นาโดฉลามจะก่อตัวขึ้นถล่มกรุงลอนดอน อันทำให้ ฟินต้องหาทางป้องกันไม่ให้พายุฉลามไปถล่มพระราชวังบักกิงแฮม!

นั่นคือฉากเปิดครับ เพราะหลังจากนั้นทอร์นาโดฉลามก็ถล่มโลกแบบมโหระทึกกว่าทุกครั้ง โดยตัวเอกภาคนี้นอกจาก ฟิน แล้วก็ยังมี เอพริล (Tara Reid) แฟนของฟินที่ตอนนี้เป็นไซบอร์กไปแล้ว,และ โนวา คลาร์ก (Cassandra Scerbo) ที่เคยปรากฏตัวในภาค 1 และ 3

พวกเขาทั้งหมดต้องหาทางยับยั้งหายนะและเหนืออื่นใดคือต้องหาทางช่วยลูกของฟินที่ถูกพัดเข้าไปติดอยู่ในมหาพายุฉลาม ซึ่งพวกเขาก็ต้องหาทางฝ่าเข้าไปในพายะนั่น ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามที

มันคือความบ้าครับ ผมบอกได้เลยว่าใครไม่ชอบหนังเกรดบีกรุณามองข้ามหนังเรื่องนี้ไปเลย หรือใครรู้สึกว่าหนังชุดนี้มันไร้สาระ ดูแล้วเสียเวลาชีวิต ก็ไม่ต้องเสียเวลากับมันครับ แต่หากใครถูกเส้นกับความบ้าบอของมัันตั้งแต่ภาคแรก มาภาคนี้ท่านจะได้พบกับอีกขีดขั้นของความบ้า

ผมจะนิยามหนังเรื่องนี้ว่ายังไงดี… มันคือการพบกันของ Indiana Jones, 2012, Mad Max: Fury Road, Iron Man, The Mummy, Doctor Strange และ Godzilla ครับ 555 ผมเขียนไปยังขำไปเลยนะว่ามันมาเจอกันได้ยังไง แต่มันเป็นไปแล้วครับ

อย่างที่ผมเคยบอกน่ะครับว่า ข้อดีอย่างมากของหนังชุดนี้คือทีมงานตระหนักดีว่าทุนในการสร้างน่ะมีไม่เยอะ CG ที่จะเนรมิตออกมามันก็ไม่มีทางเนี๊ยบเนียนเท่าหนังร้อยล้านฉายโรงได้หรอก ดังนั้นพวกเขาเลยไม่ทุ่มทุนในการทำ CG ทั้งสิ้น ประมาณว่าทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น แต่ไม่พยายามเพิ่มทุนเพิื่อให้มันเนียนอะไรมากมาย

และขณะเดียวกัน แม้ CG จะเห่ย แต่พวกเขาก็ไม่ยอมให้มันมาเป็นข้อจำกัดครับ พวกเขายังคงเนรมิตเรื่องราวและภาพตามบทที่พวกเขาคิดไว้ ดังนั้นแม้ CG จะไม่เนียนอย่างแรงก็เถอะ แต่อย่างน้อยผู้ชมก็จะได้รับรู้ว่าจินตนาการของพวกเขานั้นมันมีอะไรบ้าง

ผมนับถือในจุดนี้เลยนะ คือแน่นอนว่าหนังมันดูตลกล่ะครับ CG ก็บ้านๆ แต่หากพิจารณาไปที่เนื้อเรื่อง การผูกเรื่อง หรือการยำเรื่องแล้ว ผมว่าทีมงานโคตรช่างคิดน่ะ คือพวกเขากล้ายำทุกสิ่งที่นึกออกลงไป ไม่ว่าจะความแฟนตาซี, ความไซไฟ, ฉากแอ็กชันบ้าๆ ระห่ำๆ แล้วยังมีฉากล่าขุมทรัพย์, ฉากแหวกมิติอีกนะครับ คือนับถือใจคนทำเลยน่ะ

หนังยังคงกำกับโดย Anthony C. Ferrante ที่กุมบังเหียนหนังเรื่องนี้มาทุกภาค ซึ่งผมก็ไม่รู้จะชมหรือจะอะไรพี่แกดีน่ะครับ แต่ที่แน่ๆ คือผมไม่ตำหนิเลย แม้หนังจะไม่เจ๋งและอาจจะดูเห่ย แต่ในแง่จินตนาการแล้ว พี่เขายังคุมเรื่องราวให้ออกมาโม้มันส์ได้อยู่ จนบอกได้เลยว่าหนังชุดนี้น่าจะถือเป็นหนังสัตว์ประหลาดแถวหน้าของโลกเกรดบีเลยทีเดียว

ดารารับเชิญก็ไม่ธรรมดาครับ Chris Kattan, Bret Michaels (นักร้องที่หลายคนอาจรู้จัก), Charlotte Hawkins, Laura Tobin (2 คนนี้คือพิธีกรสาวประจำ Good Morning Britain รายการเล่าข่าวเช้าของอังกฤษ), Nichelle Nichols (Star Trek) และ Olivia Newton-John

หนังจบแบบทิ้งเชื้อนะครับ และไม่ใช่ทิ้งเชื้อธรรมดา แต่มันคือการทิ้งเชื้อที่ทำให้คอหนังยุค 80 อย่างผมถึงกับอึ้ง และดาราที่มาโผล่ตอนท้ายก็ถือเป็นดารารับเชิญที่ดังกว่าเขาเพื่อนด้วย ซึ่งทำท่าว่าจะมาร่วมจอภาคหน้าแบบเต็มๆ

ถ้ามีออกมาอีก ก็พร้อมดูครับ 5555

ดาวครึ่งครับ

Star12

(5/10)