ไม่ใช่แค่ฝั่งอเมริกาเท่านั้นที่หยิบ “เกม” เอามาดัดแปลงให้กลายเป็นภาพยนตร์ แต่เกาหลีเองก็มีเกมที่ได้รับความนิยมอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือเกมสยองขวัญอย่าง White Day: A Labyrinth Named School อันเป็นวัตถุดิบตั้งต้นสำหรับการสร้างหนังผีเรื่อง The Labyrinth
ทำความรู้จักกับเกม White Day: A Labyrinth Named School
White Day: A Labyrinth Named School เป็นเกมสัญชาติเกาหลี แดนกิมจิอย่างแท้ทรู ถูกพัฒนาขึ้นโดยสตูดิโอ “ซอนโนริ” ในปี 2001 เป็นเกมแนวสยองขวัญเอาชีวิตรอด ในเวอร์ชั่นเกมนั้นมีการพัฒนาลงเป็นเกมในโทรศัพท์มือถือตั้งแต่ปี 2009 ก่อนจะได้รับการรีเมกอีกครั้งในปี 2015 เพื่อปรับปรุงภาพให้สวยงามเป็นสามมิติมากขึ้น และในปี 2017 White Day: A Labyrinth Named School ได้ถูกพัฒนาให้สามารถเล่นได้ทาง PC และเครื่อง PS4 ซึ่งถ้าหากใครสนใจก็สามารถหาซื้อเกมนี้มาเล่นได้ เพราะในปี 2022 นี้เกมกำลังจะเปิดตัวภาคต่ออย่าง White Day 2: A Lying Flower ตามออกมาด้วยเช่นกัน
ตัวเกมว่าด้วยโรงเรียนมัธยมยอนดู ซึ่งก่อสร้างในอยู่พื้นที่ที่ว่ากันว่า “ฮวงจุ้ย” มีความแปรปรวน ประกอบกับในอดีตโรงเรียนแห่งนี้ยังเคยถูกใช้เป็นโรงพยาบาลสมัยสงครามเกาหลี ประวัติอันยาวนานของโรงเรียนแห่งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอยู่ในพื้นที่ และกลายเป็นผีในเวลาต่อมา แต่นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นคร่าวๆเท่านั้น ซึ่งเราขออุบรายละเอียดเอาไว้เพื่ออรรถรสก็แล้วกัน
สำหรับผู้เล่นจะต้องสวมบทเป็นหนุ่มในโรงเรียนมัธยม เขาอยากจะเอาของขวัญไปวางไว้ให้หญิงสาวที่ตัวเองชอบในคืนวันที่ 13 มีนาคม ซึ่งกำลังจะเข้าสู่วัน White Day วันที่อำนาจลึกลับจะถูกปลุกขึ้นมาให้มีชีวิตและตามหลอกหลอนคนในโรงเรียน แต่ความซวยยังไม่จบอยู่เพียงแค่นั้น ผู้เล่นยังต้องรับมือกับภารโรงจอมโหดที่พร้อมจะจัดการกับเด็กนักเรียนที่ทำผิดกฎให้สาสม!
ตัวเกมสามารถเลือกระดับความยาก ง่ายได้ ซึ่งตัวระดับที่เลือกจะมีผลกับเหตุการณ์ในเกมด้วยเช่นกัน รวมไปถึงการปรากฏตัวของผีบางตัวด้วยอีกต่างหาก การแกะรอยปริศนา ค้นหาความลับในโรงเรียน รวมไปถึงวิธีการเคลื่อนไหวของตัวละครจะองค์ประกอบที่เพิ่มความสนุกและตื่นเต้นให้กับตัวผู้เล่น ด้วยเกมออกแบบมาให้เป็นลักษณะมุมมองของบุคคลที่ 1 เท่ากับว่าเราจะได้เห็นทุกอย่างแบบที่ตัวเอกได้เห็นเลยทีเดียว
เนื่องจากฉากหลังเป็นโรงเรียนทำให้บรรดาห้องต่างๆมีความคล้ายคลึงกันมาก แผนที่จึงเป็นอีกหนึ่งไอเท็มสำคัญที่ผู้เล่นต้องคอยหมั่นเปิดดู และแน่นอนว่าความหลากหลายของผีในเกม จะมีความแตกต่างเยอะแยะเต็มไปหมด ระวังพวกมันไว้ให้ดีก็แล้วกัน
จากเกมสู่หนังสยองขวัญ
ว่าที่ผู้กำกับอย่างซอง วูน ซึ่งเขาเติบโตมากับเกมนี้และชอบเกมนี้อยู่แล้ว เขารู้ดีว่าผู้ชมอยากจะเห็นอะไรจากตัวเกมบ้าง ไม่ว่าจะเป็นตัวละครนักเรียน ผีต่างๆ แต่นอกเหนือจากนั้นเขาอยากจะเพิ่มสิ่งใหม่ๆเข้าไปในเรื่อง โดยเวอร์ชั่นภาพยนตร์นี้จะมีการละลายพฤติกรรมตัวละครในเวอร์ชั่นเกมและสร้างสรรค์อุปนิสัยบางอย่างขึ้นมาใหม่ด้วย
เนื่องจากในเวอร์ชั่นเกม เรื่องราวทั้งหมดจะดำเนินผ่านภายใต้ตัวละคร “ฮีมิน” เพียงคนเดียว แต่เมื่อเป็นหนังมุมมองของตัวละครอื่นๆจึงถูกใส่เข้ามาเพิ่มเติม ประกอบกับเหตุการณ์ลึกลับต่างๆที่เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งนี้ก็ยังถูกเล่าผ่านตัวละครอื่นๆอาทิ โซยัง และซุงอาด้วย เท่านั้นยังไม่พอ นอกจากจะเป็นหนังผีแล้ว มันยังมีความแฟนตาซีที่ว่าด้วยการไล่ผี ทำให้หนังสามารถเปิดพื้นที่ในการเล่นสนุกกับงานซีจี และยังมีการแทรกสอดประเด็นทางสังคมเข้าไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรุนแรงในโรงเรียน การคุกคามทางเพศ ความเป็นแม่ที่รักและอยากจะปกป้องลูกสาวของตัวเอง
คังชันฮี หรือ ชานฮี จากวง SF9 ผู้รับบทตัวเอกของเรื่อง
ชานฮี หนึ่งในสมาชิกวงบอยแบนด์ SF9 เดบิวต์กันมาตั้งแต่ปี 2016 โดยวงนี้วางโพซิชั่นนิ่งของตัวเองในฐานะวงที่มีความหลากหลายและแอบซ่อนความเซ็กซี่เอาไว้ในตัว แถมบรรดาความสูงของสมาชิกในวงที่จัดได้ว่าสูงปรี๊ดทำให้พวกเขายังได้รับการมอบตำแหน่ง “วงนายแบบ” กันเลยทีเดียว
สำหรับชานฮีนั้นมีตำแหน่งเป็นนักเต้นหลัก แร็ปเปอร์เสริม และยังเป็นน้องเล็กของวง โดยตัวเขานั้นเรียนจบมาจาก School of Performing Arts Seoul (SOPA) เมื่อปี 2018 และก่อนหน้าที่จะได้เดบิวต์เขายังเคยเป็นเด็กฝึกในค่าย Fantagio ก่อนย้ายมาฝึกที่ FNC และร่วมทีมที่ NEOZ School นอกจากจะเป็นศิลปินแล้วผลงานการแสดงของเขาเรียกได้ว่ามีทั้งซีรีส์ดังมากมาก อาทิ Garden of Heaven, The Queen’s Classroom, Signal, Coffee House 4.0, SKY Castle และเรื่องล่าสุดกับ True beauty ส่วนผลงานภาพยนตร์ได้แก่ Family-Hood, The King’s Case Note และ The Gossip
สำหรับบทบาทอีฮีมิน นั้นเป็นตัวละครหนุ่มแนวโก๊ะๆ เด๋อๆ ที่เพิ่งย้ายโรงเรียนมาใหม่เป็นวันแรก โดยที่ตัวเขาเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขาเป็นทายาทสืบทอดความสามารถพิเศษในการไล่ผีได้ ประกอบกับเขาเคยเป็นนักกีฬาเทควันโด ทำให้เขามีทักษะในการต่อสู้ และทนไม่ได้เวลาเห็นคนรอบตัวถูกทำร้าย แต่เหนืออื่นใดคือแค่วันแรกที่มาโรงเรียนแห่งนี้เขาก็แอบชอบเพื่อนร่วมห้องของตัวเอง ที่บังเอิญลืมไดอารี่ทิ้งไว้ในโรงเรียน จนกลายเป็นเหตุผลให้เขาต้องแอบย่องเอามันมาคืนในกลางดึก!
The Labyrinth เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ววันนี้