เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังลิเวอร์พูล ยอมรับว่าตนไม่เข้าใจกฎเกี่ยวกับการทำฟาวล์ผู้รักษาประตูในกรอบเขตโทษ เนื่องจากบางครั้งผู้ตัดสินก็เป่ายกหวีด บางครั้งก็ปล่อยผ่าน
เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา “หงส์แดง” บุกไปพ่ายเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-2 ทำให้พวกเขาหล่นไปรั้งอันดับที่ 4 ของตารางพรีเมียร์ลีกก่อนพักเบรคทีมชาติ
เกมที่ลอนดอน สเตเดี้ยมนั้น “ขุนค้อน” ขึ้นนำก่อนจากจังหวะที่ อลิสซอน เบ็คเกอร์ พยายามปัดลูกเตะมุมทิ้งแต่ผิดเปลี่ยนปลิ้นเข้าประตูตัวเอง
จังหวะดังกล่าวดูเหมือนว่านายด่านชาวบราซิลจะโดย อังเคโล อ็อกบอนน่า กระโดดขวางอยู่ด้านหน้าทำให้เขาทำพลาด ซึ่งหลังเกมกุนซืออย่างเยอร์เก้น คล็อปป์ ก็ออกมาบอกว่าจังหวะนี้ควรฟาวล์
ฟาน ไดจ์ค ให้ความเห็นว่า “คืองี้นะ มันเป็นประตู และไม่ถูกริบ… ผมไม่รู้ว่าจริงๆแล้วจังหวะมันยังไง แต่ผมเห็นมาตลอดว่าอาลีจะโดนประกบและอะไรทำนองนี้ เพราะงั้นเรื่องของกฎในตอนนี้ไม่มีใครรู้จริงๆหรอกว่าทำอะไรได้บ้าง ทำได้หรือไม่ได้”
“บางครั้งพวกเขาก็ให้ บางครั้งก็ไม่ให้ และวันนี้มันก็เป็นประตู”
“แต่ที่จะบอกคือ มันไม่มีอะไรผิดหรอก ถึงเราจะเสียประตูแต่หลังจากนั้นเรายังมีเวลาเกือบทั้งเกมที่คัมแบ็ค แต่แน่นอนว่าเราผิดหวังที่ต้องตามหลัง 1-0”
ถามว่าเมื่อเป็นแบนี้แล้วเพื่อนร่วมทีมจะช่วยผู้รักษาประตูไม่ให้ถูกรบกวนได้อย่างไร “แน่นอนว่าคุณทำไม่ได้เลย(เคลียร์พื้นที่) เพราะในกรณีแบบนี้กองหน้าจะมายืนข้างเขา เพราะงั้นคูไม่สามารถผลักเขาออกไปได้ เพราะผู้ตัดสินอาจจะเป่าจุดโทษ”
“เพราะงั้นมันขึ้นกับผู้ตัดสินว่าจะมองว่าเป็นการฟาวล์หรือไม่ (จังหวะวันนี้)มันอาจจะฟาวล์แต่หลังเกมแล้วคุณจะทำอะไรได้ล่ะ คุณเปลี่ยนมันไม่ได้ และอย่างที่ผมบอก เรายังมีเวลาทั้งเกมที่จะคัมแบ็ค” เขากล่าว