Wonder Woman 1984
— 6/10 —
ค่อนข้างน่าผิดหวัง
บทมีความเชย ตัวร้ายง่อยไร้เสน่ห์
สนุกแค่ฉากเปิดเรื่อง และตราตรึงด้วยความสวยของ Gal Gadot เท่านั้น
หลังจากเลื่อนฉายมานานด้วยเหตุผลใดๆ และ Covid-19 ก็ได้ดูกันสักทีกับ Wonder Woman 1984 ภาคต่อจาก Wonder Woman (2017) ในภาคนี้ยังคงเป็นผลงานการกำกับของ Patty Jenkins ที่บอกเล่าเรื่องราวต่อจากเหตุการณ์ในภาคแรกหลายสิบปี
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาคนี้ดึงคนดูได้ตั้งแต่ตัวอย่าง มีจุดน่าสนใจเยอะเลยทีเดียว ไล่ไปตั้งแต่ Gal Gadot สวยวันสวยคืนสุดๆ, สีสันแห่งยุค 80s, วายร้ายตัวใหม่ Cheetah กับ Maxwell Lord และเชื่อว่าสิ่งที่หลายคนอยากจะรู้ที่สุด คือการกลับมาของ Steve Trevor
ไอ้สิ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็เป็นเครื่องกระตุ้นให้เราอยากดู และไอ้ความที่ภาคแรกมันทำออกมาได้ค่อนข้างดี นำเสนอความเป็น Wonder Woman ออกมาได้น่าติดตาม และแทบจะทิ้งโทนความเป็น DC ดาร์คๆ ไปเสียหมด แถมยังมีแนวทางของตัวเองที่ค่อนข้างชัดเจน จึงทำให้ภาคนี้ยังไงก็ต้องดู…แต่ผลปรากฏว่า มันค่อนข้างออกไปทางผิดหวังเสียมากกว่า
หนังความยาว 2 ชั่วโมงครึ่ง นับว่าเป็นหนังยาวพอสมควร และมันก็มีจุดน่าเบื่ออยู่เยอะเหมือนกัน หนังเปิดเรื่องด้วยซีน Diana ตอนเด็กแข่งกีฬาไรสักอย่าง เรามองว่านั่นคือสิ่งที่สนุกที่สุดในหนังละ
หลังจากนั้น หนังค่อนข้างมีความเรื่อยๆ เอื่อยๆ ไม่ค่อยมีอะไรดึงให้น่าติดตาม หลายฉากมีความเชยมาก ไม่คิดว่าจะได้เห็นในหนังยุคปัจจุบันแบบนี้ (เอ๊ะ หรือเค้าจงใจให้มันเหมือนยุค 1984 นะ) แต่ก็อยากเห็นอะไรแปลกใหม่มากกว่านี้
เอาจริงๆ เหตุผลการกลับมาของ Steve Trevor ไม่ได้ยากเกินคาดเดา แต่ก็เป็นเหตุผลในการกลับมาที่ยอมรับได้ พาร์ทโรแมนติก กุ๊กกิ๊กกันของพระ-นาง ก็ถือว่าทำให้คนดูยิ้มได้ ไม่มากไป ไม่น้อยไป อยูในระดับที่พอดี แต่ราวกับเล่นมุกเดิม แบบในภาคแรกให้ Diana มาเจอโลกโก๊ะๆ โดยมี Steve พาไปรู้จักนู่นนี่นั่น ภาคนี้ก็ใช้มุกเดิมให้ Steve กลับมาเจอโลกในยุคใหม่ โดยมี Diana พาไปแนะนำแทน มันก็ยังคงน่ารักแหละ แต่พาร์ทนี้ก็มีความไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง เช่นมีฉากนึงตอนแรกบอกรีบ แต่ก็มีมาแวะชมนกชมไม้กันซะอย่างนั้น เอาจริงๆ มันมีความเป็นหนังรักที่ฉาบหน้าด้วยหนังฮีโร่อยู่เหมือนกันนะ
ทางด้านตัวร้ายนี่เหมือนจะดีนะ ปูทางตอนแรกมาดีเลย แต่หาทางลงให้ตัวร้ายง่ายเหลือเกิน และยิ่งตอนท้ายสู้กับ 2 ตัวร้ายนี่ง่อยมากเลย แนวทางในการสู้กับตัวร้ายยิ่งดูแบบ “ห๊ะ ไรวะเนี่ย” สุดๆ ในภาคแรกฉากแอ็คชันดีกว่าเยอะเลย และหนังโคตรโลกสวยเลยจริงๆ นักแสดงทั้งสองที่รับบทรู้สึกว่า Pedro Pascal แกเล่นใหญ่ไปหน่อยนะ ส่วนทางด้าน Kristen Wiig แสดงดีเลยแหละ
จริงๆ ไอ้การสร้างความวายป่วงของ Maxwell Lord ชวนให้นึกถึงหนังเรื่อง Bruce Almighty อยู่เหมือนกันนะ
ชุดทองที่เห็นในตัวอย่างในโปสเตอร์ที่ดูเทพเหมือนจะมีอะไร สร้างเรื่องราวขึ้นมาบลาๆ แต่เอามาใช้จริงได้ไม่คุ้มเอาซะเลย ได้แค่ใส่ออกมาให้เห็นเท่ๆ แค่นั้นอะ
สิ่งที่น่าชื่นชมที่สุดของเรื่องก็ยังคงเป็น Gal Gadot เอาจริงๆ แค่ใบหน้าสวยๆ ของเธอก็เอาคนดูอยู่แล้ว แต่บางฉากหนังใส่บทมาให้เธอได้ตลกจริงๆ และจากภาคแรกมาภาคนี้เราได้เห็นพัฒนาตัวละครของเธอได้ดี มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และเห็นเค้าความเป็นหญิงแกร่ง Wonder Woman ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สรุปแล้ว Wonder Woman 1984 เป็นหนังภาคต่อที่ค่อนข้างน่าผิดหวังและชวนหาวไม่ใช่เล่น ตัวร้ายก็ยังคงไม่ทรงพลังไม่น่าจดจำอยู่ดี ความกุ๊กกิ๊กของพระนางถึงแม้จะมุกเดิมๆ แต่ก็ยังคงน่ารัก Gal Gadot ก็ยังสวยไม่เปลี่ยน งานภาพสวย แต่โดยภาพรวมแล้วยังไม่อิน และภาคแรกสนุกกว่ากันเยอะเลย