X-Men: Dark Phoenix – X-เม็น ดาร์ก ฟีนิกซ์

จากแสงสุริยะ ด้วยเหตุนั้น ทำให้ Jean Grey ได้รับพลังบางอย่าง และนั่นส่งผลให้เธอเป็นอันตรายต่อทุกคนที่อยู่ใกล้เธอ เป็นที่มาของ Dark Phoenix

ก่อนหน้าที่จะได้ดูเรื่องนี้ ภาคที่เราชอบน้อยที่สุดคือ Apocalypse แต่พอได้ดูเรื่องนี้จบความคิดเปลี่ยนในบัดดล Dark Phoenix กลายเป็นหนังที่ชอบน้อยที่สุด และโดยส่วนตัวรู้สึกว่าทุกๆ อย่างในเรื่องนี้มันแย่ที่สุดจากทั้งหมดในแฟรนไชส์ X-Men เลยก็ว่าได้

ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องราวต่อจาก Apocalypse แต่มันก็ไม่ได้เล่าเรื่องราวหรือมีเหตุการณ์อิงอะไรต่อจากช่วงนั้นสักเท่าไหร่ เรียกได้ว่าก้าวกระโดดข้ามมาแบบไม่อิงถึงเลยดีกว่า เลยทำให้หลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังภาคนี้มันค่อนข้างแปลก ไม่อิน และชวนสงสัยอยู่ไม่น้อย เรื่องราวในภาคนี้จริงๆ แล้วเริ่มต้นได้ดีนะ กับการปูบทของ Jean Grey ว่ามาอยู่กับ Charles ได้ยังไง บทพูดในช่วงนั้นก็ดูดี เท่ และคมไม่ใช่เล่น แต่พอดำเนินเข้าสู่เหตุการณ์ปัจจุบันในเรื่องนี้เละทะมาก รู้สึกตะหงิดอยู่ตลอดเวลาทั้งเรื่อง ไล่ตั้งแต่บทพูด การดำเนินเรื่อง การตัดสินใจของตัวละครต่างๆ มันอะไรกันฟะ เหมือนคนเป็นไบโพล่าอะ อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ รู้สึกหลายๆ อย่างมันแปลกมาก ทุกอย่างในหนังเรื่องนี้ไม่มีฉากพีค ฉากว้าว ไร้ซึ่งความตื่นเต้นใดๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะจุดไคลแม็กซ์ท้ายเรื่องที่บทไม่ส่งเลย ไม่มีเสน่ห์ความเป็น X-Men สักเท่าไหร่เลย และตอนจบนั่นมันอะไรกัน!!!

อาจจะเพราะด้วยความที่ภาค Last Stand เราได้เห็นความอลังจากพลังของ Jean Grey ที่ตัวเธอทั้งดูน่ากลัว น่าเกรงขาม และดูอันตรายจริงๆ ในเรื่องนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น บทบาทของ Jean Grey ใน Dark Phoenix ดูเป็นวัยรุ่นอารมณ์ฉุนเฉียว มีปัญหาครอบครัว ที่ดูน่ารำคาญมากกว่าน่ากลัว พลังของ Dark Phoenix ที่ควรจะยิ่งใหญ่ กลับดูง่อย พลังทั้งหมดของเธอก็อย่างที่เราเห็นกันในตัวอย่างนั้นแหละ จากตัวที่ควรจะเด่น กลายเป็นตัวละครที่ไม่มีเสน่ห์และไม่น่าจดจำเลยแม้แต่น้อย

จริงๆ ในเรื่องนี้ไม่มีตัวละครไหนโดดเด่นและน่าจดจำเลยจริงๆ สักตัว ทุกตัวละครดูน่ารำคาญหมด ไม่รู้ทำไม โดยเฉพาะ Charles แม้กระทั่งตัวละครอย่าง Magneto ที่ตลอดเวลาขณะดูหนังเรื่องนี้ ภาวนาให้มันโผล่มาเร็วๆ ต้องได้เห็นอะไร เท่ๆ บ้างแหละ เพราะในภาคก่อนๆ ของนักแสดงชุดนี้ เฮีย Michael Fassbender แสดงออกมาได้เท่และน่าจดจำสุดๆ สุดท้ายพอออกมา ก็มีซีนเท่ๆ เพียงไม่กี่ฉากในตอนท้ายๆ เท่านั้น อีกทั้งยังเสียดายบทบาทของหลายๆ ต่อละคร ที่น่าจะปล่อยของอะไรออกมาได้มากกว่านี้

ทางด้านตัวร้ายก็เช่นกัน จริงๆ ไม่ต้องมีบทของมันก็ได้นะ ไม่ปูที่มาที่ไปอะไรว่าเป็นใครมาจากไหน ทำอะไรได้ คืออาจจะมีพูดอยู่บ้าง 1-2 ประโยค แต่เรายังไม่ทันอินอะไรกับการกระทำของมันเลยด้วยซ้ำ

เอาวะ ถ้าเนื้อเรื่องมันเละทะ ตัวละครดูไม่ดี อย่างน้อยฉากแอ็คชั่นมันก็ต้องดีและสนุกแหละน่า แต่…ทั้งเรื่องค่อนไปทางแย่ แลดูจืดชืดเสียมากกว่า มีเพียงฉากบนรถไฟที่พอจะโอเค คือเข้าใจใช้พลังของแต่ละคนเล่นในฉากแอ็คชั่นได้ฉลาดและดูดี (ฉากนี้แหละที่ Magneto ดูเท่ที่สุดละ)

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าชื่นชมคือเพลงประกอบ ต้องบอกว่า Hans Zimmer เรียบเรียงออกมาได้ดูดีเลย เผลอๆ บางฉากเพลงตื่นเต้นกว่าฉากนั้นด้วยซ้ำ (เพลงในช่วง End-Credit ยังตื่นเต้นกว่าจังหวะการเล่าเรื่องของหนังทั้งเรื่องเสียอีก)

สรุปแล้ว X-Men: Dark Phoenix เป็นหนึ่งในหนังที่แย่ที่สุดในแฟรนไชส์ X-Men ทั้งหมดเลยก็ว่าได้ แถมยังมีช่องโหว่ กับเหตุการณ์ที่น่าสงสัยเต็มไปหมด คือหนังอาจจะจงใจเปิดช่องว่างให้ทำเรื่องราวอื่นๆ ใน X-Men ได้ต่อแหละมั้ง รวมๆ แล้วมันให้ความรู้สึกแค่แบบว่า “มันเป็น X-Men นะเหวย คงต้องรับผิดชอบด้วยการไปดูให้มันจบๆ ไป” เท่านั้นแหละ

ปล. หนังไม่มีฉากก่อนและหลัง End-Credit ไม่ต้องรอจ้าาาา