นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง ซามพ์โดเรีย กับ ยูเวนตุส ที่สนาม สตาดิโอ ลุยจิ แฟร์ราริส ในศึก กัลโช่ เซเรียอา (อิตาลี) เมื่อวันอังคารที่ 23 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ ซามพ์โดเรีย จะมาเล่นด้วยระบบ 4-1-4-1 นำโดยสตาร์ดังของทีมเหมือนเดิมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น โรนัลโด้ วิเอร่า ,เมห์ดี้ เลริส, โตมาส รินคอน, อับเดลฮามิด ซาบิรี่, ฟิลิป ยูริซิช และ ฟรานเชสโก้ คาปูโต้
ขณะที่ ยูเวนตุส จะมาสู้ด้วยระบบ 4-3-3 นำโดยเสาหลักของทีมอย่าง อเล็กซ์ ซานโดร , เดนิส ซากาเรีย, มานูเอล โลคาเตลลี่, เวสตัน แม็คเคนนี่ , ฮวน กวาดราโด้, ดูซาน วลาโฮวิช และ ฟิลิป คอสติช เป็นต้น
นาทีที่ 7
โอกาสจะแจ้งครั้งแรกของเกม ที่น่าได้ประตูสุดๆ ตกเป็นของ ซามพ์โดเรีย จากจังหวะที่ อับเดลฮามิด ซาบิรี จ่ายทะลุช่องทีเดียวจากกลางสนาม หลุดไปถึง โตมัส รินกอน ที่โฉบไปยิงตามน้ำในกรอบเขตโทษ น่าเสียดายบแลสุดท้ายติดเซฟ มัตเตีย เปริน นิดเดียว
นาทีที่ 21
จังหวะนี้ ยูเว่ เป็นฝ่ายได้ลุ้นประตูบ้าง เมื่อ ฮวน กวาดราโด้ เลี้ยงบอลหลุดไปทางขวา กระชากบอลหลุดเข้าไปจบด้วยขวาในกรอบเขตโทษ ร้อนถึง เอมิล ออเดโร่ ต้องวิ่งออกมาสไลด์ใช้ขาเซฟ ก่อนจะรีบตะครุบบอล เข้าซองอีกที
นาทีที่ 33
ยูเว่ มาได้ลุ้นประตูขึ้นนำอีกแล้ว จากจังหวะที่ แนวรับของ ซามพ์โดเรีย เคลียร์บอลไม่ขาด ราบิโอต์ ที่เก็บบอลแถวสองได้ จึงหยอดโด่งไปหน้าประตูอีกที คราวนี้เป็น วฮาโลวิช ที่ได้ตวัดยิงเร็วตามน้ำ แต่บอลสุดท้ายก็ยังไม่ผ่านมือ เอมิล ออเดโร่ อยู่ดี
หมดครึ่งเวลาแรก
ซามพ์โดเรีย – 0
ยูเวนตุส – 0
นาทีที่ 51
เริ่มครึ่งหลัง ยูเวนตุส บุกหนัก จนเกือบได้ประตูอีกแล้ว จากจังหวะที่ ฟิลิป คอสติช กระชากบอลจากริมเส้นฝั่งซ้าย ลากตัดเข้าในแล้วบรรจงปั่นไซส์โป้งนอกกรอบ น่าเสียดายบอลสุดท้ายพุ่งถากเสาสองออกหลังไปนิดเดียว
นาทีที่ 66
เป็น ซามพ์โดเรีย บ้างที่ได้ตอบโต้คืน จากจังหวะที่ อับเดลฮามิด ซาบิรี ไปแย่งบอลมาครองได้ ตรงกลางสนาม ก่อนจะโยนข้ามฟากเปลี่ยนแกนให้ เมห์ดี้ เลริส ทางกราบขวา เบิ้ลต่อทีเดียวให้ ฟรานเชสโก้ คาปูโต้ เทคตัวโหม่งในกรอบเขตโทษ แต่น่าเสียดาย บอลมันพุ่งตรงตัว มัตเตีย เปริน รับสบาย
นาทีที่ 81
ช่วงท้ายเกม ยูเวนตุส เป็นฝ่ายได้ครองบอล และเกือบได้เฮ อีกครั้ง จากจังหวะที่ ดูชาน วลาโควิช ใช้ความแข็งแกร่ง เบียดเอาชนะกองหลังของ ซามพ์โดเรีย ก่อนจะกระชากบอลหลุดเข้าไปแปโล่งๆ ในกรอบเขตโทษ เหินข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
หมดเวลาการแข่งขัน เป็น ซามพ์โดเรีย ที่ทำได้ พวกเขาเน้นรัดกุม จนสามารถยันเสมอ 0-0 ได้ตามเป้า