เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพสมันน้อย ซาน มาริโน่ เปิดสนาม สตาดิโอ โอลิมปิโก ดิ แซร์ราวัลเล่ ต้อนรับการมาเยือนของทัพสิงโตคำราม อังกฤษ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ไอ นัดที่ 10 เมื่อค่ำคืนวันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น ซาน มาริโน่ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ฟรังโก้ วาร์เรลล่า มาเล่นในระบบ 3-5-2 นำทีมโดย อเลสซานโดร โกลินุชชี่ กองกลางห้องเครื่อง มาร์เซลโล่ มูลาโรนี่ ตัวทำเกมริมเส้น และ นิโคล่า นานนี่ ศูนย์หน้าตัวเป้าของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน อังกฤษ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย จู๊ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม บูกาโย่ ซาก้า ปีกจอมลากเลื้อย และ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 6 GOAL!!!
เปิดฉากมาได้แค่แปปเดียว เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพสิงโตคำราม อังกฤษ มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วตั้งแต่ไก่โห่เป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย ฟิล โฟเด้น บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยมาที่หน้าประตู แล้วเป็น แฮร์รี่ แม็กไกวร์ สอดมาโขกเหน่ง ๆ เต็มกบาลที่กรอบ 6 หลา ส่งบอลพุ่งแรงผ่านมือของ ซิโมเน่ เบเนเด็ตตินี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 15 GOAL!!!
ทีมเยือน อังกฤษ บุกพับสนามจนมาได้ประตูหนีห่างอย่างรวดเร็วเป็น 2-0 !!! จากจังหวะ บูกาโย่ ซาก้า สอดมารับบอล ได้ลากจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะโยกเข้าในแล้วซัดเร็วด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปแฉลบ ฟิลิปโป้ ฟับบรี้ เปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไป ซุกก้นตาข่าย แบบงง ๆ หมดสิทธิ์สำหรับ ซิโมเน่ เบเนเด็ตตินี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่หลงไปอีกทาง
นาที 22 GOAL!!!
ทีมเยือน อังกฤษ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! จากจังหวะ พับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียว แล้วเป็น บูกาโย่ ซาก้า ลากขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนจะครอสเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ ฟิล โฟเด้น ได้กระโดดวอลเล่ย์ฟาดบอลเต็ม ๆ ไปโดนมือของ ดันเต้ รอสซี่ ผู้ตัดสินขอเช็ค VAR เพื่อความชัวร์ สุดท้ายให้เป็นลูกจุดโทษแก่สิงโตคำราม แฮร์รี่ เคน รับหน้าที่สังหาร ซัดเข้าประตูไป ไม่พลาด
นาที 30
เกมดำเนินมาถึงครึ่งชั่วโมง ทีมเยือน อังกฤษ ยังคงได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ฟิล โฟเด้น ได้บอลที่กลางสนาม ก่อนแทงทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ บูกาโย่ ซาก้า พยายามโฉบตัดมาซัดเน้น ๆ ตามน้ำแบบไม่จับ แต่บอลดันพุ่งไปตรงตัวของ ซิโมเน่ เบเนเด็ตตินี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนคุมเสาแรกอยู่ รับสบาย
นาที 31 GOAL!!!
ทีมเยือน อังกฤษ มาได้ประตูเพิ่มอีกเป็น 4-0 !!! จากจังหวะ เอมิล สมิธ โรว์ สอดขึ้นมารับบอลทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสเข้าไปที่กลางประตูให้ แฮร์รี่ เคน วิ่งสิดมาตวัดยิงด้วยซ้ายเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลพื้นผ่านมือ ซิโมเน่ เบเนเด็ตตินี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ค่อย ๆกลิ้งเสียบหน้าต่างเสาไกล เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเฉียบคม
นาที 37 GOAL!!!
ทีมเยือน ทัพสิงโตคำราม อังกฤษ มาได้บวกสกอร์เพิ่มเป็น 5-0 !!! จากจังหวะ บอลเปิดโด่งเข้ามาในเขตโทษถึง แฮร์รี่ เคน ได้โหม่งบอลไปโดนแขนของ อเลสซานโดร ดัดดาริโอ ผู้ตัดสิน ราเด้ โอเบรโนวิช จากสโลวีเนีย ไม่รอช้า เป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษของทีมเยือนทันที แล้วก็เป็น แฮร์รี่ เคน รับหน้าที่สังหารเอง ซัดเสยตาข่าย เข้าประตูไป ไม่พลาด เป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้อีกด้วย
นาที 42 GOAL!!!
ทีมเยือน อังกฤษ มาได้ประตูครึ่งโหลเป็น 6-0 !!! จากจังหวะ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ดันสูงขึ้นมา พยายามพาบอลลากแหวกแนวรับแต่โดนสกัดมาเข้าทาง แฮร์รี่ เคน ตามมาลากต่อเข้าเขตโทษ เจ้าตัวโชว์สเต็ปเท้าดึงบอลหนีกองหลัง ก่อนจะซัดหักข้อด้วยขวาเน้น ๆ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเหนือชั้น
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน อังกฤษ ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายพับสนามบุกใส่เจ้าถิ่น ซาน มาริโน่ อยู่ฝั่งเดียว ยิงประตูออกนำไปก่อนแล้วถึงครึ่งโหล สกอร์ตอนนี้ ซาน มาริโน่ 0 อังกฤษ 6 !!!
นาที 46
เริ่มครึ่งหลังมา แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ เห็นสกอร์ขาดจัดการส่งนักเตะลงมายืดเส้นยืดสาย โดยถอดเอา ฟิล โฟเด้น, คัลวิน ฟิลลิปส์ และ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ออกไปพัก แล้วจัดการส่ง แทมมี่ อับราฮัม, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ และ เบน ชิลเวลล์ ลงมาเล่นแทน
นาที 56
ทีมเยือน อังกฤษ โหมบุกใส่เจ้าถิ่นอย่างต่อเนื่องทันที จังหวะนี้ แฮร์รี่ เคน แทงบอลทะลุช่องให้ แทมมี่ อับราฮัม ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ เจ้าตัวกะเหนือ พยายามยิงชิพนิ่ม ๆ ให้ข้ามตัวของ ซิโมเน่ เบเนเด็ตตินี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่วิ่งอิกมาปิดมุม ทว่าบอลน้ำหนักแรง ลอยข้ามคานออกไปแบบน่าผิดหวังสุด ๆ
นาที 58 GOAL!!!
ทีมเยือน อังกฤษ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 7-0 !!! เป็นจังหวะ การประสานงานกันสุดสวยเริ่มที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ วิ่งสอดหลุดขึ้นมารอมกรอบฝั่งขวา ก่อนจะครอสเลียดเข้ากลางมาให้ แทมมี่ อับราฮัม โฉบมาสะกิดเปลี่ยนทางบอลตั้งให้ เอมิล สมิธ โรว์ วิ่งมาบรรจงแปด้วยขวาเน้น ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม เป็นการซัดประตูแรกในนามทีมชาติของมิดฟิลด์ดาวรุ่งรายนี้อีกด้วย
นาที 64
ทีมเยือน อังกฤษ ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้ เบน ชิลเวลล์ ดันสูงขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนจะบรรจงหยอดเข้าไปในเขตโทษให้ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ได้แปเน้น ๆ แต่ดันไปตรงตัวของ ซิโมเน่ เบเนเด็ตตินี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบาย อย่างน่าเสียดาย อดยิงได้ในการลงสนามนัดแรกให้กับตัวเอง
นาที 68 ใบแดง!!!
สถานการณ์ของเจ้าถิ่น ซาน มาริโน่ ต้องย้ำแย่ขึ้นไปอีก เมื่อต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคน จากจังหวะ ดันเต้ รอสซี่ ไปเสียเหลี่ยมเกี่ยวขาทำฟาล์วใส่ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ร่วงลงไปที่หน้าเขตโทษ ผู้ตัดสิน ราเด้ โอเบรโนวิช ไม่มีทางเลือกชูใบเหลืองใบที่สอง กลายเป็นใบแดงไล่ตะเพิดเจ้าตัวออกจากสนาม
นาที 69 GOAL!!!
จากจังหวะต่อเนื่อง ทีมเยือน อังกฤษ มาได้ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษ แล้วเป็น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ รับอาสา บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่หน้าประตูให้ ไทโรน มิงส์ ได้โฉบมาเทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ ส่งบอลลอยข้ามมือของ ซิโมเน่ เบเนเด็ตตินี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ก่อนจะย้อยเสียบใต้คาน เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม อังกฤษ นำ 8-0 !!!
นาที 71
ทีมเยือน อังกฤษ เกือบจะได้บวกสกอร์เพิ่ม เป็นจังหวะ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ซัดบอลชนเสากระเด้งออกไปทางกราบขวาเข้าทาง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ตั้งป้อมบรรจงเปิดกลับเข้าไปในเขตโทษให้ จู๊ด เบลลิงแฮม ได้จับบอลลง ก่อนจะตะบันด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อ ส่งบอลเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม ทว่าน่าเสียดายโดน VAR ริบประตูคืน เนื่องจาก แทมมี่ อับราฮัม ดันไปทำฟาล์วจังหวะก่อนหน้า แถมโดนใบเหลืองตามหลังอีกตะหาก
นาที 78 GOAL!!!
ทัพสิงโตคำราม อังกฤษ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 9-0 !!! จากจังหวะ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ บรรจงครอสบอลเข้าไปในเขตโทษให้ แทมมี่ อับราฮัม สอดมาพักบอลลงหนึ่งที ก่อนจะตวัดยิงด้วยขวาเน้น ๆ ผ่านมือ ซิโมเน่ เบเนเด็ตตินี่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสียบเสาไกล เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเฉียบคม
นาที 79 GOAL!!!
ทีมเยือน อังกฤษ มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 10-0 !!! จากจังหวะ ขึ้นเกมทางกราบขวาเหมือนเดิมของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโค้งสวยไปที่เสาไกล แล้วเป็น บูกาโย่ ซาก้า สอดมาเทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ โล่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน อังกฤษ บุกมาไล่ถล่มเอาชนะเจ้าถิ่น ซาน มาริโน่ ไปด้วยสกอร์ 10-0 !!! จบอันดับที่ 1 ของกลุ่ม ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่กาตาร์ได้สำเร็จ ส่วนทางด้านซาน มาริโน่ รั้งบ๊วยตกรอบไปนานแล้ว