โมราต้าฮีโร่!! “สเปน” เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทัพไวกิ้ง “สวีเดน” ไปได้แบบเฉียดฉิว 1-0

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพกระทิงดุ ทีมชาติสเปน เปิดเอสตาดิโอ โอลิมปิโก เด เซบีย่า, เมืองเซบีย่า ประเทศสเปน ต้อนรับการมาเยือนของทัพไวกิ้ง ทีมชาติสวีเดน ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม บี นัดที่ 8 เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น สเปน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ หลุยส์ เอ็นรีเก้ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ กองกลางตัวรับเชิงสูง ดานี่ โอลโม่ ตัวทำเกมริมเส้น และ ปาโบล ซาราเบีย ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน สวีเดน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ยานเน่ อันเดอร์สสัน มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย เอมิล ฟอร์สเบิร์ก เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม เดยัน คูลูเซฟสกี้ ตัวจี๊ดริมเส้น และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ดาวยิงตัวความหวังของทีม

นาที 6

เกมเริ่มครึ่งแรกมา เป็นเจ้าถิ่น ทัพกระทิงดุ สเปน ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ ปาโบล ซาราเบีย ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดกดดันเข้าไปที่กลางประตู บอลโดนตัวแข้งทีมเยือน ชุลมุนกระเด้งมาที่หน้าประตู ผู้เล่นสเปนเกือบได้ส้มหล่น ยังดีที่กองหลังสวีเดนหวดเคลียร์ทิ้งออกไปได้ทัน

นาที 9

เจ้าถิ่น สเปน น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ปาโบล ซาราเบีย รับบอลหลุดขึ้นมาที่ริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวลากตัดเข้าเขตโทษ ก่อนจะบรรจงวางปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย เฉียดเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 16

ทีมเยือน ทัพไวกิ้ง สวีเดน ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก กระชากบอลเจาะขึ้นมาจากกลางสนามเร็วจี๋ถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะได้ช่องตัดสินใจวางเท้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นหนีมือ อูไน ซิม่อน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เฉียดเสาขวามือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวเท่านั้น

นาที 23

เจ้าถิ่น สเปน ครองบอลขึงเกมรุกได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดตามสไตล์ จังหวะนี้ จอร์ดี้ อัลบา ดันสูงขึ้นมา สบโอกาสได้ลองซัดไกลด้วยซ้ายเน้น ๆ แถวสองนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ยังไม่ตรงเป้า ลอยหลุดออกหลังไปอยู่ดี

นาที 34 

ทีมเยือน สวีเดน เกือบได้ส้มหล่น เป็นจังหวะ อูไน ซิม่อน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น มัวแต่ครองบอล เล่นช้าทำให้เกือบโดน เดยัน คูลูเซฟสกี้ ไล่บี้หวิดเกือบจะขโมยบอลได้อยู่แล้ว ยังดีที่นายด่านกระทิงดุ แก้สถานการณ์ เร่งจ่ายออกไปทางซ้ายให้เพื่อนทันเฉียดฉิว

นาที 38

ทีมเยือน สวีเดน น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ลุดวิก ออกุสตินส์สัน ดันสูงขึ้นมารับบอล หลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะครอสบอลโด่ง โค้งลึกไปที่เสาไกล แล้วเป็น เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ปรี่สอดมาหวดวอลเลย์ตามน้ำด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้น ย้อนศรถากเสาอีกฝั่งไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

หมดเวลาครึ่งแรก เจ้าถิ่น สเปน ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทว่าก็ยังหาทางเจาะแนวรับทัพไวกิ้งได้ไม่มากเท่าไหร่ ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน สวีเดน เน้นตั้งรับให้เหนียวแน่น แล้วเล่นเกมสวนกลับเร็ว มีจังหวะได้ลุ้น ทำหวาดเสียวให้ทัพกระทิงดุอยู่เหมือนกันแต่ยังไม่คมพอ สุดท้ายยังทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์เสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!

นาที 48

เริ่มครึ่งหลังมาได้ไม่ทันไร เป็นทีมเยือน ทัพไวกิ้ง สวีเดน ได้ลุ้นก่อนเลยทันที จังหวะนี้ เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า โดนบีบจนทำให้จ่ายบอลขวางหน้าประตูตัวเองพลาดโดนดักได้ แล้วเป็น วิคเตอร์ คลาสสัน ไหลนิ่ม ๆ ตั้งให้ อเล็กซานเดอร์ อิซัค วิ่งสอดมาซัดด้วยขวาเน้น ๆ บริเวณริมกรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงเหินข้ามคานออกไปไกล

นาที 52

เจ้าถิ่น สเปน ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย ปาโบล ซาราเบีย เปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่หน้าเสาแรก แล้วเป็น ราอูล เด โตมัส โฉบมาโหม่งสะบัดกดลงพื้นเหน่ง ๆ ส่งบอลพุ่งแรงผ่านหน้าปากประตู กระเด้งเฉียดเสาสอง หลุดออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 53

ทีมเยือน สวีเดน มีโอกาสบุกขึ้นมาได้ลุ้นบ้าง จังหวะนี้ แนวรับฝั่งสเปนเคลียร์บอลไม่ขาดออกมาที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายเข้าทาง ลุดวิก ออกุสตินส์สัน ได้ตั้งป้อมวางเท้าหวดซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว เหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปชนิดได้เสียวสุด ๆ

นาที 62

เจ้าถิ่น สเปน บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ อายเมริค ลาปอร์กต์ ดันสูงขึ้นมาจ่ายต่อให้ อัลบาโร่ โมราต้า ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้ติดเครื่อง กระชากหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะได้เหลี่ยมก้มหน้าจิ้มด้วยขวาเน้น ๆ แต่ปลิ้นถากเสาแรก หลุดออกหลังไป แบบน่าผิดหวังสุด ๆ 

นาที 73

เข้าสู่ช่วงยี่สิบนาทีท้าย ยานเน่ อันเดอร์สสัน กุนซือของทางฝั่งทีมเยือน สวีเดน แก้เกมที่เป็นรองด้วยการถอดเอา อเล็กซานเดอร์ อิซัค กองหน้าที่หาฟอร์มเก่งไม่เจอออกไปพัก แล้วจัดการส่งแข้งตัวเก๋าอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ลงสนามมายืนค้ำในแดนหน้าแทน

นาที 84

เจ้าถิ่น สเปน ยังคงได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ดานี่ โอลโม่ แทงบอลทะลุช่องให้ อัลบาโร่ โมราต้า สอดไปจับบอลแล้วลากเข้าเขตโทษ ก่อนจะรีบซัดติดมือของ โรบิน โอลเซ่น ผู้รักษาประตูทีมเยือน กระฉอกออกมาแต่ไม่มีเพื่อนร่วมชาติช่วยซ้ำ นายด่านทัพไวกิ้ง ตามออกมาตะครุบเอาไว้ได้ทัน

นาที 86 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ทัพกระทิงดุ สเปน มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ดานี่ โอลโม่ กระชากบอลขึ้นมาลองซัดไกลหน้ากรอบเขตโทษเกือบ 25 หลา บอลพุ่งแรงไปติดเซฟของ โรบิน โอลเซ่น ผู้รักษาประตูทีมเยือน กระฉอกออกมาไม่พ้นอันตรายเข้าทาง อัลบาโร่ โมราต้า ปรี่มาซัดสวนตัวนายทวารทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น สเปน เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมเยือน สวีเดน ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 !!! คว้าแชมป์กลุ่ม ตีต๋วไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่กาตาร์เป็นที่เรียบร้อย ส่วนทางด้านสวีเดน จบอันดับที่ 2 ของตาราง ต้องไปลุ้นเตะเพลย์ออฟกันอีกที